หลังปีใหม่นี้ไม่นาน...ผมย้ายที่ทำงานใหม่ ไกลจากบ้าน
ลาจากงานเดิม ๆ และคุ้นเคยตั้งแต่ทำงานมา คือ ทำงานที่อนามัย ต้องบริการช่วยเหลือชาวบ้าน
งานใหม่ อยู่ในเมืองใหญ่ วัน ๆ อยู่กับคอมพิวเตอร์ เอกสาร การประสานงาน และการตรวจประเมิน
เป็นงานที่ผมไม่ถนัด ไม่มีความสามารถ และไม่มีความเชี่ยวชาญเลย
แต่เพราะฝันของลูก....แน่นอนทำให้ผมอดใจหายและหวาดกลัว
คุณหมอ ป. เคยเขียนให้ผมนานแล้ว "คุณบอยวิสูตร เขียนใน facebook ว่า
"ใครบางคนเคยบอกกับผมว่า วันที่เราเกิดมา คือวันที่พ่อแม่วางความฝันของท่านทิ้งไว้
เพราะท่านพร้อมทำทุกอย่างเพื่อความฝันของเรา" เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่มากนะคะ"
ผมเห็นด้วยอย่างมาก และเล็กน้อยบ้าง ตามที่คุณหมอ ป. เขียนไว้
ผมและภรรยา วางแผนมานานมาก ซื้อคอนโดไว้ เตรียมเขียนใบย้ายที่คิดว่า เขาจะรับย้ายพวกเราง่าย ๆ
และอยู่ใกล้โรงเรียนที่ลูกอยากมาเรียนต่อ
มีคนรู้จักหลายคนเห็นด้วย และหลายคนไม่เห็นด้วยกับความคิดของเรา
ผมตัดสินใจแค่ว่า อยากมีชีวิตอยู่กับลูกในช่วงเขาวัยรุ่น เพราะอีกไม่นาน ด้วยวัยของเขา ระยะห่างทางกาย
ย่อมห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ
ผมได้ย้ายมาก่อน ภรรยาต้องรออีกรอบหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่านานเท่าไร ส่วนลูกอีกเดือนเขาก็จะสอบปลายภาค
สอบเสร็จก็มาอยู่กับผม และเตรียมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นที่นี้
ด้วยความใหม่ ทั้งสถานที่ใหม่ ๆ ความเป็นอยู่ใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ งานใหม่ ๆ
นับความไม่เคยชินที่ผุดขึ้นในใจเป็นระยะ ๆ เมื่อผมคิดถึงงานที่ทำมานาน
คิดถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่จากมา
ทำให้ตั้งคำถามอยู่ในใจทุก ๆ วัน
โชคดีพี่ที่ทำงาน มีอยู่ 2 ท่าน รวมผม 3 คน พี่ ๆ ใจดีมาก ๆ
คอยสั่งสอนทั้งเรื่องงาน ชีวิต และการดำเนินชีวิต
สำนักงานเป็นบ้านพักเก่า ทำให้อบอุ่น
มีสถานที่ปลูกผัก และได้รดน้ำผัก ทั้งก่อนทำงาน และหลังทำงาน
ทำให้ผมหายเหงาขึ้น
ช่วงนี้ ชีวิตจึงต้องเรียนรู้มาก ๆ ในหลายสิ่งที่ไม่รู้กับวัฒนธรรมการทำงานใหม่ ๆ
ต้องปรับตัวหลายอย่าง และต้องก้าวข้ามความหวาดกลัวที่เกิดขึ้น
และเมื่อได้อ่านหนังสือ “ช้าให้ชนะ” ของ “คาซุโอะ อินาโมริ”
กับ 6 ข้อในการขัดเกลาจิตวิญญาณ
เมื่ออ่านเสร็จและลองทำดู...ทำให้ใจของผมสงบ
ความจริงผมยังมีความฝัน...ลูกก็มีความฝันของเขาเช่นกัน
ผมไม่เคยคิดว่า ผมเสียสละเพื่อลูก
แต่เหตุการณ์ในชีวิตบทนี้ ทำให้เกิดการเรียนรู้
และวิธีก้าวข้ามความหวาดกลัวที่เราอาจก่อกำแพงขึ้นเอง
ผมเริ่มเดินตามความฝันของตัวเองอีกครั้ง
หลังจากที่วางทิ้งความฝันของตนเองไว้นานหลายวัน...
ความฝัน ความหวังใหม่ ๆ เริ่มได้ทุกวัน
หากเราไม่ " กลัว " ความคิดของตนเองจ้ะ
สำหรับคุณมะเดื่อ...
บรรจุที่ไหน ก็คง ่" เกษียณ" ที่นั่น
ไม่ใช่กลัวความคิดของตนเอง
แต่เพราะที่ทำงาน อยู่ข้างบ้านของตัวเอง
อีกอย่าง อยู่ข้างบ้านพ่อและแม่ที่จะต้อง
ดูแลท่านตลอดไปจ้ะ
ชอให้น้องทิมดาบโชคดีกับที่ทำงานใหม่นะจีะ
ตัดสินใจแล้ว เดินหน้าต่อให้ดีที่สุดละคร้า
หรือนานไป จะตัดแล้วตัดอีก ก็ได้นี่นา ไม่แปลกหรอกนะคะ