ถอดความรู้การจัดการสอน วิชาการเขียน 2 (Writing 2)

ถอดความรู้การจัดการสอน วิชาการเขียน 2 (Writing 2) ---- วันจันทร์ที่ผ่านมา ( 4 ม.ค.59 ) ถือเป็นวันสูบพลังมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะว่าเป็นวันเปิดเทอมและมีสอน 2 รอบในวันเดียว ซึ่งรอบหนึ่งเริ่ม 8.00-11.20 น. เป็นจำนวน 4 คาบต่อกัน และรอบสองเริ่มเวลา 14.40-18.00 จำนวนคาบเท่ากัน โดยวิชาการเขียนนี้ได้สอนนักศึกษาเอกภาษาอังกฤษธุรกิจชั้นปี 2 โดยแบ่งเป็นสองห้องๆละประมาณ 9-10 คนเศษๆ เพราะตอนเข้าปี 1 คงจะห้องละ 15-20 คน พอมาปี 2 มีการล้มหายตายจากไปจากการเรียนได้เรื่อยๆ เหลือเท่านี้ก็ยังบุญ

เปิดคาบเรียนอาจารย์ก็ไม่เสียเวลา มีการแนะนำรายวิชาเล็กน้อยและสั่งให้นักศึกษาเขียนเรียงความคนละ 10-15 นาที แล้วเรียกดูทีละคนๆ และวงทุกจุด ขีดทุกจุดที่พบว่าต้องได้รับการแก้ไข พบว่านักศึกษาทั้งหมดยังสามารถเขียนได้ช้าและสั้นมาก สูงสุด 5 บรรทัด น้อยสุด 2 บรรทัด ใจจริงก็อยากขยำงานแล้วปาทิ้งถังขยะให้หมด แต่เราก็ต้องเข้าใจเขาว่า เขาเป็น marginal writer คือ นักเขียนชายขอบที่ถูกทอดทิ้งทางด้านทักษะภาษาอังกฤษอย่างมาก เขียนคำก็ไม่ถูก แกรมม่าร์ก็รั่ว แล้วลักษณะการ organize idea ยังสะเปะสะปะ ดังนั้นครูคงจะไม่ยอมปล่อยให้จบแบบขยะสังคมวงการศึกษาออกไปจากมือครู เพราะเราเองก็ต้องเอาชื่อเสียงความรู้เป็นเดิมพันว่า นี่หรือลูกศิษย์ อาจารย์ ดร. สัญชัย ฮามคำไพ คนที่จบ Ph.D. จาก USA เชียวนะ ผมขู่นักศึกษาว่า “ครูไม่อยากให้พวกเธอโดนเชิญออกตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้าไปทำงานบริษัทในงานด้านภาษาอังกฤษธุรกิจ เธอคิดดูว่าถ้าเจ้านายให้ตอบเมล์ลูกค้าที่อเมริกา แล้วเธอไม่มีปัญญาสื่อสารภาษาเขียนได้เลย แถมเขียนทื่อๆบื้อๆออกไปอย่างนี้ เธอจะถูกเชิญออกไม่ช้าก็เร็วเลยล่ะ เธอจะเอาอนาคตไปทำงานอะไรตามที่เรียนจบมา ดังนั้นจบเอก Eng ภาษาอังกฤษต้องเป๊ะ ! ครูไม่ได้พูดตลก เนื่องจากว่าโลกงานธุรกิจมันเหยียบกันจมจริงๆถ้าเราไม่เก่งจริง” เด็กๆเจออาจารย์สอนปรัชญาชีวิตในคาบแรกถึงขั้นสลดเลยว่าอาจารย์โหดชิบเป๋ง

ตรวจงานเขียนครบทุกคนก็หมดแบตไปหลายขีด แต่ก็สู้ไหว พาเด็กเรียนเรื่อง Capitalization คือ การเขียนคำไหนใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ ไม่พิมพ์ใหญ่ มีกฎการใช้งานสารพัดข้อ แล้วก็พาเขาทดสอบความเข้าใจด้วยการทำ Online Quiz ให้แก้คำที่ผิดให้ถูกต้องตามหลักภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เริ่มผ่อนคลายไปนิดหนึ่ง จนถึง section สุดท้านของวันจันทร์ก็เกือบ 6 โมงเย็น ลงจากตึกเป็นห้องสุดท้าย แต่ก็ชื่นใจว่าเราได้ปล่อยวิชาความรู้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้กระตุ้นให้เด็กไม่ล่องลอยกับชีวิตไปวันๆ ประเภทว่าอะไรก็ได้ จะไม่ใช่ลูกศิษย์สาขาอังกฤษอีกต่อไป ซึ่งทุกคนมีคำตอบเดียวคือ ต้องได้ และ ได้อย่างดีมากกว่าธรรมดา ด้วยสิ motivate เด็กให้หึกเหิมพอสมควร แม้จะเป็นร้อยเอ็ดบ้านนอกแต่ก็บ้านนอกอินเตอร์นะ ครูบอกไว้

วันต่อมาก็มาเตรียมหาชุดเอกสารการสอนให้เด็กอีก เพราะว่าสัปดาห์หน้าจะให้เรียนเนื้อหาการแต่ประโยคบอกเล่าโดยตรงและโดยอ้อมและการดูประโยคที่ประธาน-กริยาสัมพันธ์กัน จะให้ไปทำแบบฝึกหัด online จากเว็บต่างๆที่ใส่ในใบงาน หวังว่าภาคเรียนนี้คงจะสามารถเข็นเด็กอ่อนๆให้ขึ้นจากโคลนได้ทั้งชั้นปี 2 แล้วพอไปอยู่ปีสูงจะไม่ต้องเป็นภาระฟื้นฟูอีก happy writers !!