งานสัปดาห์หนังสือระดับชาติ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติต์..วันนี้เป็นวันสุดท้าย พวกเราชาวหนองผือ ประกอบด้วย ไก่กับโก้และคณะเพลงฉ่อย พร้อมด้วยครูและผู้ปกครอง เดินทางถึงศูนย์ประชุมฯ ก็เกือบบ่ายโมง
เข้ารายงานตัวกับคุณแม่แอ๊ว..(รัชนี ธงไชย) ที่บูธหนังสือของมูลนิธิเด็ก ที่เป็นเจ้าภาพเชื้อเชิญ..ไก่กับโก้ให้มาโชว์เพลงฉ่อย ในหัวข้อ..ป๋วยร้อยปี กำหนดการแสดงบนเวที บ่ายสามโมง ผมจึงให้เด็กๆไปทานข้าวกลางวันกันก่อน แล้วจึงค่อยเดินเที่ยวชมนิทรรศการหนังสือ ที่จัดได้ยิ่งใหญ่อลังการ ผู้คนมาหาซื้อหนังสือเดินเบียดเสียดกัน จนผมต้องจับมือเด็กไว้เพราะกลัวพลัดหลง
บ่ายสองโมงครึ่ง..ผมพานักแสดงทั้งหมด ไปรวมตัวด้านหลังเวที เพื่อแต่งหน้าทาปาก เน้นแป้งเป็นหลัก ผสมน้ำแต่งแต้มที่แก้มพอเป็นพิธี มองแล้วน่ารักและขำๆดี มีน้องผู้ประสานงานของมูลนิธิฯ คอยควบคุมรายการบนเวที และอำนวยความสะดวกเรื่องไมค์โครโฟนและให้สัญญาณนัดหมาย เหมือนออกรายการทีวีอย่างนั้นเลย ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่สังเกตทีมงานตัวน้อยๆ ของผม มีสีหน้าเรียบเฉย พูดคุยกันเรื่องอะไรต่อมิอะไรสัพเพเหระ ผมให้สงสัยว่าทำไมถึงไม่ตื่นเต้นกันบ้างนะ
เหตุที่ต้องมีการตื่นเต้นกันบ้าง..ก็เพราะหนองผือ ใช้การละเล่นเพลงพวงมาลัยเป็นหลัก ปีนี้เพิ่งจะมาปรับเปลี่ยน เป็น ..เพลงฉ่อย..และเพิ่งจะเล่นเป็นครั้งที่สาม ในเวทีที่ไกลบ้าน ถึงกรุงเทพ ซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับชาติ จึงดูเหมือนจะก้าวเร็วไปแล้วกระมัง ผมคิดอย่างนี้จริงๆ
“อาจารย์ใช้เวลาเท่าไหร่คะ” “..ไม่เกิน ๑๕ นาทีครับ” ผมตอบผู้กำกับรายการที่อยู่ข้างเวที ซึ่งบนเวที พิธีกรช่อง ๑๑ กำลังสัมภาษณ์ คุณแม่แอ๊ว เกี่ยวกับความเป็นมาและกิจกรรมในโครงการตู้หนังสือในบ้านเด็ก..หนึ่งในโครงการสำคัญของมูลนิธิเด็ก
“อาจารย์คะ เตรียมตัวค่ะ บนเวทีเหลือเวลาอีก ๓ นาที”
พอเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ...ผมช่วยนักเรียนยกกลองขึ้นไปก่อน..พอผมลงมา..ไก่กับโก้และชาวคณะก็ได้เวลาขึ้นเวที..โก้..ไม่รอช้า..รีบแนะนำตัวทันที..
คำว่า..สวัสดีครับ..ของโก้..ดังกึกก้องชัดเจน ด้วยระบบเสียงห้องประชุมเขาดีอยู่แล้ว แต่แป็นสัญญาณอันหนึ่งที่ผมรู้ได้ทันทีเดี๋ยวนั้น..ว่าวันนี้โก้ไม่ประหม่า มีความพร้อมและมั่นใจนัก โก้พูดแนะนำตัวต่อไป อย่างช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ..ผมฟังแล้วได้คิดเลยว่า..วันนี้ต้องสอบผ่านแน่
เนื้อหาในการร้องฉ่อยของไก่กับโก้..เป็นเรื่องราวชีวประวัติ คุณงามความดีของ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์..เป็นการฉ่อยเกริ่นกล่าวความสำคัญของบุคคลของชาติ.. ก่อนที่นักเขียนและศิลปิน..คุณเทพศิริ สุขโสภา จะขึ้นพูด ๓๐ นาทีเกี่ยวกับเรื่องเดียวกันนี้ ในรูปแบบนิทานและภาพลายเส้น ประกอบกันไว้อย่างสวยงามในไดอารี่ของมูลนิธิเด็ก ชวนให้ติดตามอ่านและหาซื้อไว้เป็นบันทึกของปี ๒๕๕๙
นักเรียนลงจากเวทีมาแล้ว ผมแทบจะเดินไปกอดให้ครบทุกคน..ก็ได้แต่ยิ้มให้และบอกว่า..
“พวกเธอเล่นได้ดีที่สุด ดีกว่าทุกครั้งที่ครูเคยสอนมา และดีกว่าตอนที่ซ้อมหลายเท่า”
ผมกลับถึงบ้านเกือบสองทุ่ม..นั่งเขียนบันทึกพร้อมเหตุผลที่จะนำไปบอกเด็กในวันพรุ่งนี้ว่าที่ครูชมเธอนั้นเป็นเรื่องจริง..อันเกิดจากพวกเธอเก่งและ...ซ้อมถึง..จึงทำให้ผลงานออกมาดี ที่สำคัญคือ..เธอทำได้ตามที่ครูแนะนำ...อาทิ
ให้หยอกล้อกันบ้าง และมองหน้ากัน ขณะเดียวกันก็มองคนดู พูดคุยกับท่านผู้ชมบ้าง...
ให้ร้องช้าๆชัดๆ ไม่ต้องรีบ เพราะเนื้อยาวก็จริง แต่เธอจำได้ จึงกลายเป็นสั้นไปแล้ว...
ไมค์โครโฟน อย่าถือห่างปาก ระวังเวลาออกท่าทางด้วย..ไมค์จะออกห่างปากไม่ได้เลย...
อย่าลืมขึ้นต้นต้องให้ชัดเจน โดนใจ จบให้สวยงาม อย่าลืม คำควบกล้ำ..ต้องแม่นยำ
ผมจะไม่ลืมผลงานของเด็กๆ ความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขา และไม่ลืมคำชื่นชมยินดีของคุณพิภพ ธงไชย กรรมการของมูลนิธิเด็ก..ทีท่านบอกว่า..เด็กเก่งมาก เล่นได้ดี ร้องได้ชัดถ้อยชัดคำ ใครเป็นคนแต่งเนื้อครับ”...............
“ผอ.ครับ...ผมจะมีงานใหญ่ให้นักเรียนไปแสดงอีก..เตรียมตัวไว้นะครับ” “ครับ”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
เด็กๆ ดูมีความสุขมากๆ นะคะ ..... สู้ๆๆ ค่ะ
เด็กๆได้งานเพิ่มแล้วครับ
เย้ๆๆ
ผมให้ se-ed ส่งหนังสือไปให้ ผอ นะครับ