ทำไมผมจึงไม่ยอมสละเวลา คุยกับ "เซียนพระเนื้อพลาสติกแต่งผิว"

****************************
ทุกวัน จะมีคน "พยายาม" ส่งพระพลาสติกแต่งผิวมาให้ผมดู
บอกให้ช่วยดูบ้าง หรือ แอบเลียบๆเคียงๆ ว่า.....ใช่ไหม เก่าได้ ไหม เหี่ยวได้ไหม สนิมครบไหม ฯลฯ

ถ้าเป็นระดับเก๊เฉียบ ผมก็จะคุยด้วยนิดหน่อย เพราะเป็นการเรียนรู้ เพื่อป้องกันตนเองจากเทคนิคใหม่ๆของช่างโรงงานพระพลาสติก

แต่ระดับเก๊ตาเปล่า หรือที่วงการเรียก "เก๊อนุบาล" นั้นผมขอผ่านไปเลย

ทั้งนี้เพราะ
1. แสดงว่าเขาไม่สนใจจับหลักการอะไรเลย
2. วัสดุแท้ๆหาง่ายๆก็ไม่สนใจหามาเรียน
3. เริ่มต้นเรียนจากพระเก๊ หวังจะรู้จักพระแท้

หรือ ที่ร้ายกว่านั้น คือ

4. พยายามจะทำให้พระเก๊ของตน กลายเป็นพระแท้

หรือ
5. พยายามจะมาเสนอขายพระเก๊ตาเปล่า หรือ นำไปขาย แบบไม่สนใจเรียนอะไรเลย

ฯลฯ
------------------------------------------------------------------------

ซึ่งทั้ง 5 ประเด็นตัวอย่างเบื้องต้น จากการคาดเดาของผมเองนั้น
น่าจะทำให้เขาเรียนช้า หรือ เรียนรู้ช้า หรือ ไม่เรียนเลย

ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของการใช้เวลามาทำงานของผมในเฟส ไลน์ และ เนต

ที่ตั้งใจจะช่วยให้ทุกท่าน ได้เรียนรู้ และสามารถหนีพ้น กับดัก "พระพลาสติกแต่งผิว" ให้จงได้

-------------------------------------
เพื่อเป็นการกระตุกความคิด ให้ "กลับใจ" หันกลับมาเรียน
ผมจึงไม่ยอมเสียเวลาพูดคุยกับ "เซียนพระเนื้อพลาสติกแต่งผิว" นั้นๆ

และบอก เชิงแนะนำ แต่เพียงว่า.................

ก. ไม่ควรเริ่มเรียนจากพระเก๊ หรือ
ข. ผมไม่เล่นพระเนื้อพลาสติก และผมดูไม่เป็นจริงๆ (ว่ามาจากโรงงานไหน อยากรู้คงต้องไปสืบเอาเอง)

และ ด้วยความหวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจมาเชื่อหลักการเรียนรู้ที่ผมแนะนำไว้ หรือ หลักการเรียนที่สั้นที่สุด ประหยัดที่สุด ง่ายที่สุด ฯลฯ

แต่ส่วนใหญ่ เขาคงไม่สนใจ กลับเงียบหายไปเลย ที่ก็คงเป็นกรรมของเขาเอง

ผมได้ช่วยเขาตามสมควรแล้ว

และ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

เขียนใน GotoKnow โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน
ใน เรียนประวัติศาสตร์จากของเก่า

คำสำคัญ (Tags): #การดูพระแท้

หมายเลขบันทึก: 596295เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2015 08:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2015 08:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (4)

ธรรศ จันทวงศาทร

เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2015 09:38 น. ()

พระพุทธเจ้าก็สอนแล้วครับ ..บัว ๔ เหล่า..สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เป็นอาหารหอย อาหารปู อาจารย์มัวไปเสียเวลาทำไมกัน..? บางคนก็ขี้เกียจเรียนให้เปลื้องสมอง มีเงินซะอย่าง พอจะซื้อพระ เช่าพระ ก็เอาไปให้เซียนที่ตั้งตัวว่าเป็น "เซียนใหญ่" ที่มีชื่อในวงการช่วยดูให้ จ่ายค่าดูพระให้ ไม่สนใจที่จะดูเป็นด้วยตนเอง พูดง่ายๆก็คือ ชอบยืมจมูกคนอื่นหายใจว่างั้น..ขนาดอ้างตัวว่าเป็น "เซียน" แล้วก็ยังไม่ชัวร์ตัวเอง ต้องให้เพื่อนที่อ้างตัวเองว่าเป็น "เซียน" ช่วยดูให้อีกที

ยิ่งประเภทที่ให้ดูพระแล้ว เราทักว่า "ไม่แท้" ก็จะพาลโกรธเอา คุณรู้ได้ไงว่า ปลอม "คุณเกิดทันหลวงพ่อไหม..?" คงได้ยินบ่อยๆในวงการ อย่าลืมว่าถ้าคุณรักที่จะ "เล่นและสะสมพระ" เราอยู่ในสังคมวงการพระ ก็ต้องยอมรับความจริงของสังคมนี้ว่าเขาเล่นกันกี่พิมพ์ ? เป็นที่นิยมไหม..? ที่สำคัญต้องศึกษาประวัติของการสร้างพระนั้นๆด้วย เช่นรุ่นนี้ สร้างเนื้อนวะ อย่างเดียว แต่ที่คุณได้มา เป็นเนื้อทองคำ แถมนิทานบอกว่า สร้างพิมพ์พิเศษมีแค่ ๒-๓ องค์เท่านั้น..

อย่างนี้ก็ต้องระวังไว้ครับ ถ้าเล่นนอกสังคมที่เขานิยมเล่นกัน แล้วคุณจะไปเล่นกับใคร นั่งเล่นที่บ้านคนเดียวเถอะครับท่าน..! ฉะนั้นถ้าท่านสนใจที่จะศึกษาด้วยตนเอง อาจารย์แสวง ท่านก็พร้อมอยู่แล้วครับ ที่จะให้ความรู้กับท่าน โดยท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ประการใด ใช้หลัก "วิทยาศาสตร์" ในการดูพระนั้น ถูกต้องและถูกวิธีที่สุดครับ..(ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่มีผลประโยชน์ใดๆกับท่านอาจารย์ครับ)