ลาบานูน : พลังงาน (จน) อันแสน (เชือก)

ลาบานูน : พลังงาน (จน) อันแสน (เชือก) วิเศษกับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่

โดย วาทิน ศานติ์ สันติ (เผยแพร่ครั้งแรก 12-10-2558 facebook fanpage บทความคติชนวิทยา

(ภาพจาก music.snook.com)

นับว่าเป็นเรื่องยากมากที่ศิลปินยุค 40's จะกลับมาดังได้ในยุคปัจจุบัน แต่ลาบานูนพิสูจน์ให้เราเห็นว่า หากผลิตงานที่มีคุณภาพจริงก็สามารถกลับมาได้ องค์ประกอบที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของเพลง ดนตรี และการร้องใน scale hamonic สำเนียงเอื้อนแบบทำนองสวดที่เป็นเอกลักษณ์ล้วนแต่เป็นพลังขับดันอันแสนวิเศษของลาบานูน

ราวปี 2540 กลุ่มเด็กหนุ่มจากอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทยเข้าประกวดวงดนตรีรายการฮอทเวฟมิวสิคอวอร์ด (จัดโดยคลื่นวิทยุ ฮอทเวฟ วงที่เกิดจากรายการนี้เช่น บอดี้แสลม แคลส กะละ สล๊อทแมทชีน ฯลฯ) รายการสร้างฝันของเหล่านักเรียนบ้าการเล่นดนตรีในสมัยนั้น (ยุคที่คนไทยบ้าเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟ) แม้จะเข้ารอบเพียง 10 วงสุดท้าย แต่ด้วยลีลาการร้องเล่นที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะ เมธี อรุณ นักร้องนำ ที่เล่นกีตาร์ฝีมือเยี่ยมกับลูกเอื้อนที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้เข้าหูและเข้าตา ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ อย่างจัง ในปี 2541 จึงได้ออกอัลบัมแรกในค่ายมิวสิกบัค ปล่อยซิงเกิลแรกเพลง "ยาม" ดังเป็นพลุแตก จากนั้นลาบานูน (นมสด) ออกผลงานอย่างสม่ำเสมอมากกว่า 7 อัลบัม ดังบ้างวูบบ้างไปตามกระแส หรือแล้วแต่เพลง

ในปี 2558 ลาบานูนปล่อยซิงเกิล 2 ซิงเกิลก็สามารถทวงความยิ่งใหญ่กลับมาโลดเล่นแถวหน้าวงการเพลงไทยในยุคดาวน์โหลดได้เกินความคาดหมาย

ซิงเกิลแรก พลังงานจน ตีแผ่การเข้ามาของคนต่างจังหวัดในการต่อสู้ดิ้นรนในสังคมเมือง เป็นการทำงานในแบบ "หาเช้ากินค่ำ" ทำงานส่งตัวเองเรียนและตัองเหลือส่งทางบ้าน โดยมีฉากหลังคือความหวังของบิดามารดาที่อยู่รอคอยต่างจังหวัด งานที่ทำนั้นไม่ว่าจะเป็น งานกรรมกร ที่ต้องความอดทนสูง หรืองานบริการเต้นกินรำกินที่ใครหลายคนดูถูก เขาเหล่านั้นก็อดทน ที่สำคัญคือการรักษาศักดิศรีของตนเอง เพื่อคนที่รอคอยอยู่ทางบ้าน เป็นภาพสะท้อนของพลังแรงกายแรงใจเป็นอย่างมาก

ที่ชอบมากคือ แม้ว่าจะเข้ามาทำงานอาชีพเต้นกินอย่างโคโยตี้ แต่ก็ไม่ลืมตนเองหรือรากเหง้าว่าเป็นใครมาจากไหน โดยการที่เธอขึ้นไปรำด้วยน้ำตาบนดาดฟ้าดึกท่ามกลางแสงสีอันลวงตาของเมืองหลวงในยามทัอเท้

แรงกาย แรงใจและ ความหวังคนต่างจังหวัดถูกพลังงานจนผลักดันให้ต่อสู้ต่อไปซึ่งนำเสนอผ่านบทเพลงและมิวสิกวีดีโอได้อย่างลุ่มลึก จนทำให้หลายคนดูแล้วต้องน้ำตาซึม แม้จะเป็นเพลงเร็วก็ตาม ยิ่งเพลงมี เปาลวี พรพิมล มา feat. ด้วย ยิ่งลงตัวแบบสุด ๆ

ซิงเกิลที่ 2 เชือกวิเศษ บุคลาธิษฐานของความรักกับการผูกมัดคนสองคน ที่ครั้งหนึ่งเคยวิเศษมัดใจไว้ได้ แต่เมื่อรักจืดจาง เชือกก็หมดความวิเศษไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด สุดท้ายเป็นได้แค่ฝืน ความวิเศษของเพลงนี้ไม่ต่างกับความวิเศษของเชือกคือ ดนตรีช้าแต่กระแทกอารมณ์และการร้องเอื้อนที่เป็นเอกลักษณ์ คนรุ่นเมื่อ 20 ปีที่แล้วยังหลงไหลกับวิธีการนี้ก็ไม่คลายความรักลาบานูน ได้ฟังโดนใจทันที คนรุ่นใหม่ฟังแล้วก็ติดหู ที่พิเศษมากคือการนำนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย สารัช อยู่เย็น ที่กำลัง hot สุด ๆ มาเล่นเป็นพระเอก ผสมกับเนื้อหาที่โดนใจ โดยการเปรียบเชือกวิเศษกับเชือกผูกรองเท้า โดยเฉพาะวรรคทอง "เมื่อรักมันทำให้เธอหนักใจ ฝืนไปมันก็เท่านั้น" จังหวะ การกระแทกเสียงและดนตรีลงตัวแบบสุด ๆ ทั้งหมดที่กล่าววมาทำให้เพลงนี้ติดลมบนไปเรียบร้อย ยอดผู้ชมใน youtube มากกว่า 82.7 ล้าน view เป็นเครื่องการันตี

ลาบานูนกับการกลับมาถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอย กลับมาพร้อมกับประสบการณ์ ที่สั่งสมมานับ 20 ปี นี่คือหนึ่งวงดนตรีไทยที่มีคุณภาพที่สุดวงหนึ่งของประเทศนี้เลยครับ