มีเกษตรกรและเพื่อนสมาชิกชมรมเกษตรปบลอดสารพิษหลายท่าน โทรศัพท์มาพุดคุยสอบถามปรึกษาปัญหาว่า ถ้าจะใช้กลุ่มของวัสดุปูนที่นอกจากจะมีแคลเซียมแล้ว ยังมีกลุ่มของพวงธาตุหลักและธาตุรองด้วย อย่างฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม นั่นก็คือ ร๊อคฟอสเฟต และ โดโลไมท์ เพื่อที่จะอาศัยฟอสฟอรัสในการสร้างหรือกระตุ้นรากให้แก่ต้นกล้า หรือไม่ก็ต้องอยากจะได้ความเขียวเหนี่ยวนำคลอโรฟิลด์มาช่วยปรุงอาหารหรือสังเคราะห์แสงให้แก่พืชตั้งแต่เริ่มกระบวนการเพาะเพื่อช่วยให้ต้นกล้ามีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์และรวดเร็ว
เป็นธรรมดาครับ ย่อมที่จะสอดคล้องต้องกับความประสงค์อย่างแน่นอน เนื่องด้วยองค์ประกอบที่อยู่ในกลุ่มของวัสดุปูนทั้งสองนี้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมตรงกับวัตถุประสงค์ดังกล่าว แต่เนื่องด้วยว่าการทำงานของแร่ธาตุและสารอาหารทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส นั้นจะทำงานได้ดีเมื่อสภาพดินอยู่ในลักษณะที่เป็นกรดอ่อนๆ แต่ถ้าเราไปใส่ลงไปในดินที่มีความเป็นด่าง คือมีค่าพีเอชสูงกว่า 7 ขึ้นไปก็จะไม่เหมาะสม เพราะดินที่มีค่าพีเอชสูง แร่ธาตุและสารอาหารต่างจะถูกบล็อก จะถูกตรึงเอาไว้ ไม่สามารถจะแสดงประสิทธิภาพออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชได้โดยง่าย
ยิ่งโดโลไมท์ และฟอสฟอสเฟตเป็นกลุ่มวัสดุปูนด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ไปกระหน่ำซ้ำเติมค่าพีเอชของดินให้สูงเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยปรกติเขาจึงมักจะนิยมชมชอบการใช้กลุ่มของวัสดุปูนนำไปปรับปรุงแก้ไขดินเปรี้ยวเสียเป็นส่วนใหญ่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นปูนเปลือกหอย ปูนขาว ปูนมาร์ล ปูนเผา รวมทั้งโดโลไมท์ ฟอสเฟต ซึ่งถือว่าเป็นปูนที่มีราคาแพงกว่าปูนพื้นๆ อย่างสองสามชนิดแรกนั้นที่เขียนมาอย่างนี้มิได้หมายความว่ากลุ่มของวัสดุปูนนั้นเป็นสิ่งเลวร้ายไร้คุณค่านะครับ ปูนนั้นดีและมีประโยชน์เมื่อดินของเราเปรี้ยว เป็นกรดมีค่าพีเอชต่ำกว่า 5.8 ลงไป และนำมาใช้เพียงเล็กน้อยๆ ปะ ๆ พรมๆ ลงไปบนผิวหน้าดินหรือรองก้นหลุมเมื่อต้องการเสริมเพิ่มกลุ่มของแคลเซียมให้แก่มากยิ่งขึ้นไป จะอย่างไรก็ตามนะครับอยากจะรู้ อยากจะทราบเกี่ยวกับเรื่องเกษตรปลอดสารพิษ ให้คิดถึงเรานะครับ ติดต่อโทรศัพท์มายัง 02 986 1680 -2
มนตรีบุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษwww.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น