กลางเดือนกันยายน กลายเป็นสัปดาห์แห่งการรับการประเมิน เป็นสัปดาห์เปิดบ้านต้อนรับทุกคน ทุกคณะเลยที่เดียว (Open house)
ผมผู้มาให้ได้ราวเดือนเศษๆข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับโรงเรียน ชุมชน ยังมีน้อยนิด ได้รับความไว้วางใจให้จัดทำ ppt. เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อกรรมการที่จะเข้าประเมินถึงสองชุด สองงาน ชุดแรกประเมินสถานศึกษาพอเพียง ชุดที่สอง ต้อนรับคณะกรรมการติดตามตรวจสอบประเมินผลและนิเทศการศึกษา (กต.ปน.)
๐๙.๐๐ น.วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๘ รับการประเมินสถานศึกษาพอเพียง ที่ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝน เขตพื้นที่และแหล่งเรียนรู้เต็มไปด้วยน้ำ ไม่สามารถต้อนรับกรรมการได้ ศึกหนักอยู่ที่ห้องประชุม ภาวนาขออย่าให้ไฟฟ้าดับเลย ไม่งั้นงานเข้างานกร่อยแน่ๆ
ที่ห้องประชุมมีกรรมการสถานศึกษา คณะครู โครงงาน เอกสาร แฟ้มผลงาน ร่องรอยหลักฐานการจัดกิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดครึ่งวันกรรมการไม่ได้ไปไหนเลย จะมีเพียงแค่เดินไปเข้าห้องน้ำเท่านั้นเอง
เพื่อนครูทุกคนพร้อมใจรอต้อนรับกรรมการ ให้ข้อมูลและตอบคำถามกรรมการด้วยความนอบน้อมและเต็มใจ ดูได้จากวาจาท่าทาง จนกรรมการเอ่ยปากชื่มชมว่าทำงานเป็นทีมกันดีมาก ผมเองแอบยิ้มในใจที่มีส่วนช่วยงานด้านวิชาการและงานบริหารทั่วไป
นอกจากต้องทำ ppt. นำเสนอแล้ว ผมยังช่วยจัดทำโครงงาน แฟ้มเอกสาร รูปเล่ม แผ่นพับ และนักเรียนเตรียมนำเสนอ ขอกราบขอบคุณ ท่าน ผอ.ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ อย่างสูงครับ ที่ช่วยชี้แนะแนวทางในการเตรียมงานประเมินในครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่ามากครับ และยังได้รับความกรุณาจากเพื่อนครูสุภาพสตรีที่ช่วยตกแต่งนิทรรศการให้อีกด้วย จึงมองสวยงาม น่าประทับใจ (งานนี้ผมไม่ถนัดนัก)
๑๒ นาที ของการนำเสนอ อาจดูน้อยไปสำหรับความรู้สึกของหลายๆคน แต่สำหรับผมมันตื่นเต้น เพราะนี่คือหน้าตาขององค์กร ของโรงเรียน ที่จะเป็นส่วนช่วยให้กรรมการตัดสินใจว่า ใช่/ไม่ใช่ และบ่งบอกถึงคนทำชิ้นงานว่า ผ่าน/ไม่ผ่าน แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว ประเมินตนเองไว้เพียง ๕๐% เท่านั้นครับ (มักน้อย) เพราะเวลาผมมีจำกัด ข้อมูลข้อเท็จจริงมีน้อย พึ่งมาได้ไม่นานเนาะ และถึงว่าเป็นมือใหม่กับงานใหญ่ระดับนี้ที่สำคัญเป็นงานของในหลวงที่มอบให้เราชาวไทยได้นำไปปฏิบัติ เราได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างความสมดุลให้เกิดกับทุกคนในองค์กร โดยเฉพาะนักเรียนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและมีชีวิตที่สมดุลทั้ง ๔ มิติ คือ วัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม
แม้วันนี้กรรมการได้เดินทางกลับไปแล้ว แต่ผมยังรู้สึกว่ากรรมการทั้ง ๓ ท่านยังอยู่กับผม มองดูผมอยู่ และพร้อมจะบอก พร้อมจะชี้แนะแนวทางให้ผมได้ก้าวเดินเพื่อพัฒนางาน พัฒนาคน พัฒนาตนเอง โดยไม่ต้องมีเหรียญรางวัลใดๆมาคล้องคอ
ขอบคุณกรรมการที่บอกผมว่า ทำจากเล็กๆจากง่ายๆให้สม่ำเสมอ แล้วจะพบเจอสิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่งดงาม จะพบความสมดุลในชีวิต ๔ มิติ พร้อมหลักคิดง่ายๆคือ จำเป็น ไม่จำเป็น แล้วตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า...มี..รู้..ทำได้..ทำแล้ว...
อยากให้ท่านทั้ง ๓ กลับมาอีกครั้ง มาในฐานะผู้เยี่ยมชม มาในฐานะเพื่อน ที่ไม่ใช่กรรมการ แล้ววันนั้นนาศรีนวล จะพลิกโฉมไปจากวันนี้ ที่ท่านพบเห็นแน่นอน เพราะนาศรีนวลจะเป็น สถานศึกษาพอเพียง ให้ได้อย่างแน่นอน...สวัสดีครับ...
ผักหวานป่า
๑๗ กันยายน ๒๕๕๘
</span></strong>
มาชื่นชม โครงงาน ของนักเรียนและคุณครูด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ