"ต้นไม้"..ในฝูงชน..(โปรด..สังเกตุ)..คนหนาแน่น..กว่าต้นไม้..
คนกับต้นไม้..อยู่ด้วยกัน..มานาน..
คน เยอรมัน(ส่วนใหญ่)...ให้ความร่วมมือและพยายามคิดวิธีลดมลพิษ..มีเปอร์เซ็นต์ไม่น้อยในยุโรป..ใช้..จักรยาน..(อัมสเตอร์ดัม..เป็นเมืองที่มีจักรยานพอๆกับจำนวนผู้คน..ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน)..
ต้นไม้ในเมืองส่วนใหญ่อยู่ในสวนสารธารณะ...เยอรมัน..ปลูกต้นไม้เชิงเดี่ยวมานาน..เนื่องจากระบบอุตสาหกรรม..ทำ(เหตุ)...
ต้นไม้ ต่างชนิดในที่เดียวกัน ในเมือง
จึงไม่มีให้เห็น...
แต่..เขายังเห็นความดีงามกับการมีป่าและต้นไม้
ยังมีต้นโอ้ค..ใหญ่ๆให้เห็นในเมือง..(น่าชื่นชม..)
จึงมี สิ่งนี้ให้เห็น..เป็นครู..
สิ่งนี้(.. เคยมีที่เมืองไทย..เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว..ผังเมืองกรุงเทพ ออกแบบ โดยคน ยุโรป..ถ้า"เดี๋ยวนี้"..ไม่ถมคลอง..เพื่อทำถนน..?...)
Aspekte...(นี้เป็นข้อความแปล..เล่นๆ)..ป้าวิส่งมาในเฟส..
เป็นบทความ..ผู้ดูแลรักษาป่าเยอรมัน..ชื่อPeter Wolhleben..(ZDF..Interview)..ดูได้ในยูทูป..
เขากล่าวว่า..."มันฟังดูเหมือนจินตนาการ:ว่า ต้นไม้ เป็นสิ่งมีชีวิต มีสังคม เขาเหล่านั้นเลี้ยงดูลูกเต้าเป็นวัฏรจักร..ดูแลกันจนแก่เฒ่า..คุ้มครองป้องกันซึ่งกันและกัน"..และนั่นคือความลับของต้นไม้..และนั่นคือความจริงที่มีหลักฐานและพิสูจน์ ได้...ผู้รักษาป่าคนนี้..กล่าวและเขียนหนังสือเอาไว้...
นี้คือสภาพต้นไม้ใหญ่ในทุ่งนาเมืองไทย
นางไม้ ตนนี้เดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย...
เรามา..ช่วยๆกัน..ให้เกิด..คำว่า..ป่าอภัย..ทาน..แม้จะได้เป็นแค่ทฤษฎี..(ก็ยังดี ที่เกิด)
คืนแผ่นดินให้ต้นไม้..และอย่าหวังประโยชน์กับเขาเหล่านั้น..โดยเพียงคิดว่า..เขามิมี จิตวิญญาณ เช่น..เราๆ..
(ขอฝากความคิดนี้..ไปกับสายลม..อ่อน..ก่อนจะกลายเป็น..พายุ..สลาตัน..)..กับเมืองไทย...ที่เคยเขียวขจี..ในอดีต...
นี้เป็นภาพที่ไม่ห่างไกลในอนาคต อันใกล้..หากแผ่นดินขาด..ต้นไม้..
ทุ่งนาที่ถูกซื้อ..โดยนายทุน..เพราะชาวนาไม่สามารถปลดหนี้ได้...ความสูญเสียที่ทำกินดูเป็นเรื่องธรรมดาๆของ..ผู้รับผิดชอบ..อนาคตเมืองและประเทศ..และความเป็นอยู่ในสังคมเวลานี้..ที่มีในประเทศเรา..และหลายๆประเทศ..เวลานี้..กับคำว่าอุตสาหกรรม..กรรม..จริงๆรึท่านจะว่าไร....
We have come away from the concept of "renewable" life/living for a few decades now (thanks to trades and industrialization). But soon (or sooner), we will turn around and think about "what renewable" (what can keep on and on -- for ever) and we will realize that the (many millions years of) work of Nature is for the best of all that live in Nature. (Not for just a few.)
I am optimistic till I am the last optimist ;-)