The One
"ไม่ต้องไปหาความสุข ความสมบรูณ์แบบที่ไหนไกล แค่ใจเราสงบ นั่นแหละคือที่ชีวิตที่ดีแล้ว" พ.เพชรศรีจันทร์ Pechsrijun

60 ปี ของการทำมาหากินบนหัวคน..ด้วยความมั่นคงซื่อสัตย์และจรรยาบรรณ..ที่ไม่เสื่อมคลาย....


....ชายแก่ที่ท่าทางแข็งแรง..ในชุดสบายๆด้วยเสื้อเชิ๊ตแขนสั้น..สีสดใส..กำลังขะมักเขม้น..ใจจดใจจ่ออยู่กับทรงผมลูกค้าวัยกลางคน ผมขาว..ท่าทางการซอยกรรไกรตัดผม..ถี่ยิบ..แน่วแน่ บอกถึงความตั้งใจ...เสียงกรรไกรดังรัวเป็นจังหวะ..สม่ำเสมอ...โดยไม่ติดขัด..สายตามองเพ่งไปที่ต้นคอลูกค้า....เหมือนจะหาลายแทงอะไรบางอย่าง....ปากก้อพูดคุยเรื่องราวต่างๆกับลูกค้าด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ....บางครั้งก้อยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขในเรื่องที่คุยกัน...ออกรสออกชาด..........เหมือนกับว่า...ไม่มีอะไรต้องรีบร้อน...สบายๆ..ด้วยท่าทางการสบัดผ้าผืนขาวหม่นๆ..ที่ใช้ห่มตัวลูกค้า..กันเส้นผม..หล่นมาใส่เสื้อผ้าลูกค้า...แล้วเดินอ้อมโต๊ะตัดผม..ไปเอาผ้าขาวผืนเล็กๆมาจากกระติกน้ำแข็งใบใหญ่....เช็ดหน้าเช็ดตา เช็ดต้นคอ ใต้ใบหูลูกค้า อย่างทนุถนอม....แล้วพูดเบาว่า "เสร็จแล้วครับ"...

.

......ชายที่พูดถึงอยู่นี้..ไม่ใช่ใครที่ไหน..คุณลุงขรรชัย บุญจันทร์ แห่งร้านตัดผม"โชคชัยเกษา"...ร้านตัดผมเก่าแก่ ที่ตั้งมายาวนานถึง 60 ปี..ย่าน"ท่าเสด็จ"..แห่งช๊อบของที่ระลึกและสถานที่ชมวิว ริมฝั่งโขง..จังหวัดหนองคาย...นี่เอง...ชายที่มีอายุอานามเข้าไปตั้ง 77 ปีกับ 2 เดือน..ที่เริ่มทำมาหารับทาน บนหัวคนมาตั้งแต่ อายุ 17 ปี และมีสถานที่ทำงานทุกวันๆอยู่ที่เดียวโดยไม่ย้ายไปไหนเลย ...ตั้งแต่เปิดร้านมาเมื่อ 60 ปีก่อน ด้วยค่าแรงตัดผมสมัยนั้น หัวแรกในราคาผู้ใหญ่ 3 บาท.เด็ก 50 สตางค์...(ปัจจุบัน ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท)ด้วยค่าเช่าร้านเมื่อเริ่มต้นในห้องเล็กๆแห่งนี้ ในราคาค่าเช่าเดือนละ 200 บาท จนมาถึง เดือนละ 3000บาทในปัจจุบัน..(ขึ้นราคามาเป็นระยะรวม 5 ครั้งตลอด 60 ปี)

............ใครเดินทางไปเที่ยวท่าเสด็จ..หนองคาย..จะเห็นความเจริญก้าวหน้าในพื้นที่ค้าขายย่านนี้..มากมาย..ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ แหล่งท่องเที่ยว แห่งช๊อปปิ้ง ร้านขายของที่ระลึก ทัวส์ท่องเที่ยว ร้านกาแฟสด..ร้านอาหารริมโขง ..ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา..ตึก อาคารสวยๆเกิดขึ้นมากมายในแถบนี้ เย็นๆค่ำๆ จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินจับจ่ายสินค้า..หาของทานกันตลอดสองข้างทาง..เพราะปัจจุบัน หนองคาย..เป็น"ประตูสู่อาเซียน"..ไปซะแล้ว..ความเจริญเข้ามาใน"หนองคาย"อย่างรวดเร็ว..ไปแพ้ อุดรฯ/ขอนแก่น..ที่อยู่ใกล้กันนัก..

...........แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเหมือนสถานที่..ในจังหวัดนี้ ก็เห็นจะเป็นร้านตัดผม"โชคชัยเกษา"..ของคุณลุงขรรชัย..นี่แหล่ะครับ...คุณลุงเล่าให้ฟังว่า..อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ลุงภาคภูมิใจมาก..เป็นอาชีพเดียวที่ลุงมี..และไม่เคยคิดเปลี่ยน..อาชีพที่ทำเงินเลี้ยงลูกเมียมาจนลูกๆโตๆกันหมด..ไปประกอบอาชีพทำร้านอาหารริมโขงบ้าง เข้ากรุงเทพฯบ้าง..จนตอนนี้ลุงขรรชัย อยู่ตัวคนเดียว กับลูกน้องรุ่นราวคราวเดียวกันอีกหนึ่ง รวมสองโต๊ะ..ทำมาหากินแบบนี้หลายสิบปี..หนีน้ำท่วมขึ้นไปตัดผมบนหลังคาร้านมา 2 ครั้ง..ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา เพราะร้านของคุณลุงไม่ง้อไฟฟ้า..โดยสามารถใช้กรรไกรมือ แบ๊ตเตอร์เลี่ยนมือตัดได้โดยไม่เดือดร้อนอะไร...


.............จึงไม่ต้องแปลกใจอะไร..ที่จะเห็นอุปกรณ์ในร้าน เกือบทุกๆชิ้น..ดูเหมือนจะเป็นรุ่นเก่าๆเกือบทั้งหมด..ไม่ว่าจะเป็นหวี กรรไกรโบราณ แปรงปัดผม..ตระกร้าใส่หวี..หรือแม้กระทั่งผ้าขาวคุมตัวลูกค้าที่มีรอยหม่นๆตามอายุผ้า..อย่างเห็นได้ชัด..แต่มีความสะอาด กลิ่นโคโลญจน์...ยังหอมเย็นๆอยู่....รูปภาพเก่าสมัยที่ลุงแกไปเรียนตัดผมรุ่นแรก ของจังหวัดหนองคาย เป็นภาพขาว-ดำ ที่ลุงเอามาไว้หน้ากระจกบานใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นเครื่องบอกถึงวัยวุฒิ-คุณวุฒิ..ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน....รูปภาพดาราสมัย"มิตร ชัยบัญชา"..เป็นพระเอกหนังสมัย 40-50 ปีก่อน ยังคงติดไว้ให้ลูกค้าชมอยู่อย่างเด่นชัด..

....คุณลุงขรรชัย..เล่าด้วยความภูมิใจว่า..ลูกค้าของลุง มีทุกรุ่น ทุกอาชีพ ทุกวงการ คั้งแต่นักการเมือง ผู้ว่าฯ ข้าราชการ นักเรียนนักศึกษาให้ความไว้วางใจกันมาโดยตลอด สนิทกันจนเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันก็มากมาย..ลุงให้ความเป็นกันเองมาโดยตลอด บางครอบครัวตัดกันมาจนรุ่นปู่-รุ่นหลานกันเลยทีเดียว..ราคาก้อไล่เรียงไปตามยุคตามสมัยตั้งแต่ 3 บาท จนถึง 60 บาทสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก 30 บาทในปัจจุบัน....ได้ถามลุงว่า เจ้าของตึกแถวที่ลุงเช่า เค้าไม่เอาร้านคืนบ้างหรอ คุณลุงบอกว่า คนให้เช่าร้านรุ่นพ่อแม่เจ้าของตายหมดแล้ว เจ้าของใหม่เป็นลูกๆ..ที่ลุงเห็นมาแต่เด็ก "ท่าเสด็จ" เจริญปานใด เจ้าของก้อยังให้คุณลุงอยู่ไปแบบนี้ตลอดมา...คุณลุง เหมือนคนเก่าแก่ย่านนี้ ..เป็นบุคคลากรอันทรงคุณค่า ทางประวัติศาสตร์ ที่ใครต่อใคร จะแวะเวียนมาตัดผม มาคุยเรื่องการเมือง-การบ้าน ต่างๆนานา กับลุงเสมอๆ ไม่ขาดสาย..

......ด้วยเหตุนี้เอง...คุณลุงขรรชัย..จึงบอกว่าอายุปูนนี้แล้ว 77 ปี แล้วไม่ไปไหนแล้ว..เพราะตั้งแต่ยึดอาชีพนี้มา ร้านไม่เคยปิดบริการ เคยหยุดไปไหว้พระฯตลอด 60 ปีที่ทำมา แค่ 3 ครั้ง ไปทั่วประเทศแค่ 3 จังหวัด คือนครพนม อุดร และกรุงเทพแค่นั้น..ข่าวสารดูเอาจากทีวีเครื่องเก่า ที่ใช้มาหลายสิบปีพอแล้ว...ถ้าจะนับก้าวเดิน.รอบโต๊ะมานับได้ ประมาณ กรุงเทพ-เชียงใหม่ 10 รอบสบายๆ... จะทำแบบนี้ไปจนตายคาร้านเลย...

....สัมมาอาชีพ..ที่น่าภาคภูมิใจจริงๆนะครับ...เห็นความเป็นอยู่แล้ว "ใช้ชีวิตแบบพอเพียงจริงๆ"..ความสุขที่ซื้อหาไม่ได้ง่ายๆนัก..ในชีวิตคนปัจจุบัน...หวังว่า"สักวัน"..จะกลับไปใช้บริการ ของคุณลุงขรรชัย อีกอย่างแน่นอน...

....เป็นความสุขเล็กๆ..ที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังในวันสบายๆ....น้ำแล้งๆแบบนี้นะครับ...



"The One".....

๑๓ กรกฏาคม ๒๕๕๘

หมายเลขบันทึก: 592297เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2015 09:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม 2015 09:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณสาระดีๆที่มอบให้ ..ชอบอ่านมากๆสาระดีของชีวิตที่พอเพียง เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม..

...ขอขอบคุณ"คุณพี่รวงทอง"..นะครับ...ที่ติดตามมุมมอง..เล็กๆของ"The One"..มาโดยตลอด..อาชีพช่างตัดผม..เป็นอีกความภาคภูมิใจที่ได้เห็น..คนรุ่นเก่าๆที่น้อยนัก..จะผูกพันกับ"งานที่รัก"..งานที่ตัวเองทำมาโดยตลอด โดยไม่คิดเปลี่ยนแปลงอะไร..ไปตาม"สังคม"ปัจจุบัน...สิ่งยั่วยุ..มากมาย ในที่แห่งนี้..ไม่ทำให้คนอย่าง"คุณลุงขรรชัย"...ทิ้งอาชีพที่ตนรักไปเลย แม้แต่น้อย นับถือๆๆครับ..อยากให้ความสำคัญกับสังคมแบบบ้านๆ..ไว้อีกสักคน....ครับคุณพี่.....

.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท