ธรรมโม (Modified Dhamma)

http://drive.google.com/file/d/0B2Bk5HArQvmCbFRINk...

วันสร้างโลกพระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวหาร

วันนี้พระเจ้าทำได้แต่เป็นตัวบวกตัวลบ

วันสิ้นโลกพระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวคูณ หรือไม่ก็ตัวเลขยกกำลัง

พระเจ้าที่มีองค์เดียวนี้คือศูนย์ สุญญตา เลขศูนย์

---ธรรมถาง ๘๕๙^[1]

ธรรมะข้างต้นเป็นเสมือนโครงสร้างหรือวัตถุชิ้นหนึ่งที่อาจดูมีความซับซ้อนของแรงที่มากระทำต่อโครงสร้างชิ้นนี้ การจะพิจารณาแรงที่มากระทำ (หรือทำความเข้าใจ) นั้น การนำ Free Body Diagram (FBD) หรือ Dimensional Analysis (DA) มาประยุต์ใช้จะช่วยให้ทำความเข้าใจ และลดความซับซ้อน (ความยากของการตีความและนำไปใช้) ได้ดีขึ้น ก่อนวิเคราะห์และพิจารณา จะขอโม (Modify) ตามหลักศรัทธาในฐานะมุสลิมคนหนึ่ง ซึ่งจะได้ไอโซโทบ (รูปเสมือน) ของธรรมะข้างต้นดังนี้

วันสร้างโลก (เอกภพ) พระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวคูณหรือไม่ก็เลขยกกำลัง (อินทิกรัล) (ทำไมจึงไม่เป็นบวก?) - (A)

วันนี้พระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวหาร (ดิฟเฟอเรนเชียล) - (B)

วันสิ้นโลกพระเจ้าที่มีองค์เดียวนี้คือศูนย์ สุญญตา เลขศูนย์ - (C)

วันอาคิเราะห์พระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวบวกตัวลบ - (D)

---ธรรมโม (อ่านว่า ทำ-มะ-โม)

สมการ(A) วันสร้างโลก (เอกภพ) พระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวคูณหรือไม่ก็เลขยกกำลัง (อินทิกรัล)

Then He directed Himself to the heaven while it was smoke and said to it and to the earth, "Come [into being], willingly or by compulsion." They said, "We have come willingly." (Quran:41/11)

"...Come [into being], willingly or by compulsion (เจ้าทั้งสองจงมา (รวม) จะโดยเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม)..." (Quran:41/11)

"...the heavens and the earth were a joined entity, and We separated them and made from water every living thing..."(Quran:21/30)

การอินทิเกรชั่นทำให้เกิดสิ่งใหม่ดั่งเช่นการหาพื้นที่ กว้าง x กว้าง ได้พื้นที่ (กว้าง คือหน่วยความยาว Length-L), L² นั่นคือ สิ่งใหม่ เลขยกกำลังเป็น Exponential function^[2] และจากพัฒนาการของแคลคูลัสมนุษย์ค้นพบอินทิกรัลก่อนดิฟเฟอเรนเชียล^[3]

เมื่อนำ FBD หรือ DA มาใคร่ครวญและพิจารณา (ตะดับบูร) เราจะเห็นความเป็นอินทิกรัล (we have come willingly) ของกลุ่มหมอกหลังจากรวมตัวด้วยการอินทิเกรชั่น (Come, willingly or by compulsion) แล้วก็ถูกแยกกลายมาเป็นสิ่งใหม่ (heaven และ earth)

สมการ(B) วันนี้พระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวหาร (ดิฟเฟอเรนเชียล)

"...We separated them and made from water every living thing..."(Quran:21/30)

"With power and skill We have built the heaven: Verily, we are expanding it." (Quran:51/47)^[4]

ตัวหาร คือ อัตราการเปลี่ยนแปลง dy/dx หรือ dx/dt เป็นลักษณะของการขยายตัวตามที่เอกภพเรากำลังเป็น

"ชีวิตคล้ายเกลียวคลื่น มีขึ้น มีลง มีไหล ไปตามกระแส สุดท้ายก็อันตรธานหายไป ไร้ร่องรอย"(ธรรมถาง ๕๕๑)^[5]

การไหลไปตามกระแส ที่เกิดจากความต่างระดับ หรือความชันที่เกิดจากสองจุดราบที่ต่างระดับกัน^(*)

"The Universe is Differential"^[6]

“ความชันในแต่ละจุดของฟังก์ชัน f(x) = 1+ (x sin x²) ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าเส้นที่แสดงความชันที่จุดใดๆจะสัมผัส (tangent) กับกราฟของฟังก์ชัน ที่จุดนั้นๆ ความชันในที่นี้ก็คืออนุพันธ์ของฟังก์ชันนั้นเอง หมายเหตุ สีเขียว คือ ความชันเป็นบวก สีแดง คือ ความชันเป็นลบ สีดำ คือ ความชันเป็นศูนย์”^[7] และดิฟเฟอเรนเชียล คือต้นกำเนิดของทฤษฎีสัมพัทธภาพ อีกหนึ่งการสนับสนุนที่ว่า เอกภพเรานั้น กำลังขยายตัว^[8]

สมการ(C) วันสิ้นโลกพระเจ้าที่มีองค์เดียวนี้คือศูนย์ สุญญตา เลขศูนย์

"...First of all, there was nothing but Allah, and (then He created His Throne). His throne was over the water, and He wrote everything in the Book (in the Heaven) and created the Heavens and the Earth..." (Hadith: Sahih Bukhari 3191)^[9]

ณ จุดเริ่มต้น ก่อนที่สมการ(A) จะเกิด มีอะไรหลายอย่างอีกมากมายเกินขึ้นก่อนหน้านั้น และแน่นอนก่อนหน้านั้นอีก ก็มีแต่พระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น

พระเจ้าองค์เดียว มีความสัมพันธ์กับวันสิ้นโลกและเลขศูนย์อย่างไร วันสิ้นโลกคือวันดับ^(*) เกิดจากจุดราบกลับไปยังจุดราบ จุดเดียวกัน การเขียนเลขศูนย์ก็เฉกเช่นเดียวกัน เราลากเส้นออกจากจุดแรกแล้วบรรจบกลับจุดเดิม ถ้าพระเจ้ามีหลายองค์ การกลับไปยังจุดเดิมของเราจะมีปัญหาทันที เกิดมีพระเจ้าองค์หนึ่งไม่อยากให้วันสิ้นโลกเกิดขึ้นมา คงจะทะเลาะกันตาย เหมือนมนุษย์ที่เรากำลังตั้งตนเป็นพระเจ้าอยู่ทุกวันนี้ มันจึงมีแต่ปัญหา

"...Everything is perishable except Himself: Sovereignty is His, and to Him will all of you be returned."(Quran:28/88)

“Who, when disaster strikes them, say, "Indeed we belong to Allah, and indeed to Him we will return."(Quran:2/156)

"...and that to Us you would not be returned?"(Quran:23/115)

“And We have revealed to you, [O Muhammad], the Book in truth, confirming that which preceded it of the Scripture and as a criterion over it. So judge between them by what Allah has revealed and do not follow their inclinations away from what has come to you of the truth. To each of you We prescribed a law and a method. Had Allah willed, He would have made you one nation [united in religion], but [He intended] to test you in what He has given you; so race to [all that is] good. To Allah is your return all together, and He will [then] inform you concerning that over which you used to differ”(Quran:5/48)

สมการ(D) วันอาคิเราะห์พระเจ้าทำหน้าที่เป็นตัวบวกตัวลบ

บวกลบ คือถูกผิด คือความยุติธรรม ตัวบวกตัวลบ คือสิทธิ์ในการตัดสิน ว่าผลกรรมของมนุษย์ผู้ถูกสร้างอย่างเราๆ ได้ประกอบกรรมตามวัตถุประสงค์ดั่งที่พระเจ้าทรงสร้าง เรามาหรือไม่ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

"Then did you think that We created you uselessly..."(Quran:23/115)

"And I did not create the jinn and mankind except to worship Me."(Quran:51/56)

"But they who believe and do righteous deeds - those are the companions of Paradise; they will abide therein eternally."(Quran:2/82)

“...and to Him you shall be returned”...means, on the Day when you will be brought back, and He will reward or punish you according to your deeds: if they are good, then you will be rewarded, and if they are bad, then you will be punished. (Tafsir Ibn Kathir Quran:28/88 p.64-65)^[10]

“But they who believe and do righteous deeds - those are the companions of Paradise; they will abide therein eternally.”(Quran:2/82)

“Then did you think that We created you uselessly and that to Us you would not be returned?"(Quran:23/115)

เพราะโลกหรือเอกภพเป็นสิ่งชั่วคราว (ตามสมการข้างต้น) อย่างมากที่สุดสามารถให้ความยุติธรรมได้เพียงหนึ่งชีวิต (ชีวิต:ชีวิต) ความยุติธรรมของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่เสมอ ในวันนั้น (วันอาคิเราะห์) เป็นวันที่เราจะเห็นว่ามนุษย์ที่อธรรมต่อหลายๆชีวิตบนโลกนี้จะได้รับความเป็นธรรมอย่างไร (หรือแม้ผู้ถูกกระทำ) ที่เป็นลักษณะ ชีวิต:หลายชีวิต^[11] รวมถึงผลการตอบแทนเช่นเดียวกัน

การไร้ร่องรอย^(*) ในอีกบริบทหนึ่งคือ การเปลี่ยนสภาพความชัน (ที่ทำให้น้ำไหล) ที่เกิดจากสองจุดราบที่ต่างระดับกัน กลับไปยังจุดราบ คือสภาพเดิมที่ต่างเวลานั่นเอง^(*) ในสถานภาพที่สอง มนุษย์ถูกสร้างมาจากดิน ดินที่เป็นส่วนประกอบเอกภพ (สถานภาพแรก) ที่ถูกสร้างจากการอินทิเกรชั่นในสมการ(A) และเราก็ตายลงสู่ดิน เป็นการกลับสู่สภาพเดิมในสถานภาพที่สอง (1=>2_____ตายลง>_2=>1), 1 ซึ่งก็คือวิวัฒนาการของสมการ(C) เป็นการไปยังศูนย์ในขั้นตอนที่หนึ่ง (สถานภาพที่สอง จากดินสู่ดิน – ปัจเจกบุคคล) แล้วพัฒนาไปเป็น วันสิ้นโลกแบบรวม ไปยังต้นกำเนิดดั้งเดิมของเราที่มาจากกลุ่มหมอก

(ทำไมจึงไม่เป็นบวก?) เพราะการมองว่าเป็นบวก (surface horizon) นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถรวมกฎและทฤษฎีเกี่ยวกับเอกภพวิทยาต่างๆเข้าด้วยกันได้

อัซตัฆฟิรุ้ลลอฮฺ วัลลอฮูอะลัม

หัสซัน อาแว

11 มิถุนายน 2558

อ้างอิง:

[1] www.facebook.com/tawit.boon/posts/953323104712832?...

[2] http://mathpaper.net/index.php/5/225-2013-04-03-11...

[3]

[3] http://www2.kenyon.edu/Depts/Math/Aydin/Teach/Fall14/128/CalcIslamIndia.pdf

[3] http://th.wikipedia.org/wiki/ปริพันธ์

[3] http://en.wikipedia.org/wiki/History_of_calculus

[4] Abdul Rashid Khan-Prof. Astrophysics and the Holy Quran. 1st ed. K.S.A: Darussalam Publishers; 2012.

[5] www.facebook.com/tawit.boon/videos/896766297035180...

[6] www.facebook.com/222418551149070/photos/a.30131253...

[7] http://th.wikipedia.org/wiki/อนุพันธ์

[8] http://www.clipvidva.com/downloads/10

[9] http://sunnah.com/bukhari/59/2

[10] http://www.quran4u.com/tafsir ibn kathir/PDF/0...

[11] www.facebook.com/notes/hasan-awae/ทำไม-พระเจ้าถึงสร้างจักรวาล/10152502828264020

Tafsir Ibn Kathir English Version

http://quran.com

http://quran.ksu.edu.sa/tafseer/tafheem/

(Quran:41/11), (Quran:21/30), (Quran:21/30), (Quran:51/47), (Quran:28/88), (Quran:2/156), (Quran:23/115), (Quran:5/48), (Quran:23/115),

(Quran:51/56), (Quran:2/82), (Quran:28/88), (Quran:23/115)