วันศุกร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๕๘ เป็นกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ วันสุดท้าย
เด็ก ๆ สนุกสนานกับกิจกรรมที่ น้อง ดร.ขจิต และท่านลุงวอญ่า ที่จัดให้เป็นอย่างมาก
โดยมีคณะของคุณมะเดื่อร่วมแจมบ้างในบางกิจกรรม อย่างในภาพนี้เป็นการแสดงท่าทาง
ตัวหนังตะลุงกตามบทร้องหนังตะลุงของท่านลุงวอญ่า โดยมี ครูต้อยร่วมแสดงด้วย
กิจกรรมเสร็จสิ้นราวบ่ายสามโมงเศษ ๆ
หลังกิจกรรมสิ้นสุด น้องขจิตกลายเป็น...ไอดอล...ยอดนิยมของ " วัยรุ่น" ไปเลย
ถูกเด็ก ๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่ยอมห่าง
ออกจากโรงเรียน พ่อบ้านก็พาคุณมะเดื่อ เจ้าตัวเล็ก ลุงวอญ่า และน้องขจิต
มุ่งหน้าสู่ บ้าน ป่าละอู แห่งห้วยสัตว์ใหญ่ ทันที ไปถึงเกือบค่ำ พ่อบ้านพาพวกเรา
ไปพักแรมที่ " ฟาร์มโคนมบ้านต้นปาล์ม" ซึ่งเจ้าของฟาร์มเป็นเพื่อนของ
พ่อบ้านของคุณมะเดื่อ
ที่ฟาร์มนี้ เลี้ยงโคนมราว ๘๐ ตัว ให้น้ำนมวันละประมาณ ห้าร้อยกว่ากิโลกรัม
ที่นี่ เจ้าของบ้านอัธยาศัยไม่ตรีดีมาก ๆ ต้อนรับคณะของเราด้วยอาหาร
พื้นบ้านรสอร่อย และยังมี " นมสดจากเต้า" ที่ทั้งใหม่และสดรสหวาน
กลิ่นใบเตยให้พวกเราได้ดื่ม ทั้งแบบนมสด และกาแฟนมสด กันทุกคน
ยามเช้าพวกเราตื่นมารับอากาศสดชื่น และได้ชม " หมอก" ยามเช้า ที่ปกคลุมอยู่
ทั่วไป เจ้าของบ้านบอกว่า วันนี้ยังมีน้อย วันก่อน ๆ จะหนากว่านี้ และที่นี่จะมี
หมอกให้เห็นทุกวัน และทุกฤดูกาล
ต้นบุก เพิ่งแตกใบอ่อน มีให้เห็นทั่วไป ชาวบ้านเรียกบุกชนิดนี้ว่า
" บุกลอ" หรือ " บุกคางคก" เอาไปแกงกินได้
นอกจากต้นไม้ใบหญ้าแล้ว เจ้าของบ้านยังพาไปดู " รอยตีนช้าง" ที่เหยียบย่ำ
ในพื้นที่ปลูกมะนาว แล้วทิ้งรอยตืนไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งมีอยู่หลายรอย...เมื่อคืนที่ผ่านมา
พวกเราได้ยินเสียง " ปืน" ( หรือประทัดยักษ์ก็อาจเป็นได้) ตั้งแต่หัวค่ำ
เจ้าของบ้านบอกว่า เขายิงไล่ช้างที่ลงมากิน มาเหยียบย่ำพืชผลที่ปลูกไว้
เสียงปืน ดังเป็นระยะ ตลอดคืน ทีเดียว......ลักษณะของรอยตืนช้างที่เห็น
เป็นหลุมกว้างราวฟุตเศษ ลึกลงไป ถ้าเจ้าของบ้านไม่บอกว่าเป็นรอยตีนช้าง
คุณมะเดื่อก็จะเข้าใจว่า เป็นหลุมที่ขุดไว้ปลูกพืชแน่ ๆ
หลังอาหารเช้า พวกเราพักผ่อน รอเวลาให้เจ้าของบ้านเสร็จงานฟาร์มก่อน เพื่อจะนำทาง
ไปยัง กลุ่มอนุรักษ์ผ้าทอมือ หมู่บ้านกะเหรี่ยง และน้ำตกป่าละอู
ผ้าทอมือของที่นี่ เป็นผ้าฝ้าย ที่่รับซื้อฝ้ายจากที่อื่น คุณมะเดื่อ ซื้อผ้าคลุมไหล่ ๒ ผืน
ฝากน้องขจิต เอาไปให้น้องกล้วยไข่ผืนหนึ่ง ฝากลุงวอ เพื่อฝากให้แม่บ้านของลุงวอ
ผืนหนึ่ง เราแวะดูที่นี่เพียงครู่เดียว ก็เดินทางต่อไปหมู่บ้านกะเหรี่ยง
กะเหร่ียงกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเล็ก ๆ มีประมาณ ๑๐ ครอบครัว มีสัญชาติไทยเพียง ๒ ครอบครัว
ที่ได้รับการช่วยเหลือดูแล จากหมอสอนศาสนาที่มาจากอเมริกาใต้ (เสื้อฟ้า ขวามือ)
ที่มาสอนศาสนา และภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ และคนในหมู่บ้านนี้่้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์
หมอสอนศาสนาคนนี้ อยู่เมืองไทยมา ๖ ปี พูดภาษาไทยได้ชัดเจนคลอ่งแคล่วมาก
อาคารที่ัพักของ หมอสอนศาสนา ที่ปลูกสร้างแบบง่าย ๆ ใช้เป็นทั้งที่พัก
และเป็นอาคารเรียน
ที่หมู่บ้านนี้ พวกเราเห็นแต่เด็กเล็ก ๆ มีผู้ใหญ่ (กะเหร่ียง) เพียงคนเดียว ได้ความว่า
พวกผู้ใหญ่ และเด็กโต จะออกไปทำงานรับจ้างกันหมด
คุณมะเดื่อสอบถามจำนวนคนในหมู่บ้านได้ความว่า...
หมู่บ้านแห่งนี้ มี ๑๐ ครอบครัว แต่มีเด็ก ๆ รวมกันร่วม ๓๐ คน
โอ้โฮ้ ! เฉลี่ยแล้ว ครอบครัวหนึ่งก็มีลูก ๑๐ คน !!
น้องขจิตเล่าว่า เคยมาทำงาน ที่บ้านป่าเด็ง เกี่ยวกับจำนวนสมาชิก
ของชาวกะเหรี่ยงที่บ้านป่าเด็ง สอบถามแม่บ้านคนหนึ่งว่า
มีลูกกี่คน ได้คำตอบว่า " สิ..ห้าคน " ก็เข้าใจว่า มี สี่..ห้า คน
แต่...ไม่ใช่ เพราะจริง ๆ แล้ว เป็น " สิบห้า" คน...!
ก่อน ๆ กะเหรี่ยงไม่มีการคุมกำเนิด แต่ปัจจุบันเริ่มมีการคุมกำเนิดแล้ว
น้องขจิต...นับเป็นขวัญใจวัยโจ๋ตัวจริงเสียงจริง ไม่ว่าเด็กไทย เด็กกะเหรี่ยง
ก็จะเดินตามล้อมหน้าล้อมหลังมะรุมมะตุ้มไปหมด ดูเอาละกัน...! คณะเราไม่ได้คิดว่า
จะเจอเด็ก ๆ แบบนี้ จึงไม่ได้เตรียมขนมไปฝาก คุณมะเดื่อกับน้องขจิตจึงมอบเงิน
เล็กน้อยให้กับหมอสอนศาสนาเพื่อซื้อขนมแจกเด็ก ๆ ด้วย
จากนั้น พวกเราจึงเดินทางต่อไปยังน้ำตกป่าละอู ซึีงวันนี้มีนักท่องเที่ยวไปพักผ่อน
และเล่นน้ำตกพอควร แล้วต่อไปยัง โครงการพระราชดำริชั่งหัวมัน แต่ที่นั่นพวกเรา
เจอฝนตกอย่างหนัก จึงไม่ได้ดูอะไรได้มากนัก ออกจากชั่งหัวมันก็กลับเมืองสามอ่าว
เพื่อส่งน้องขจิต ที่จะเดินทางต่อไปยังชุมพร และลุงวอ เดินทางกลับพัทลุง ในเวลา
สองทุ่ม
" หมอสมชาย " (ซ้ายมือ) เจ้าของฟาร์มโคนม เพื่อนของพ่อบ้านของคุณมะเดื่อ
ผู้มากน้ำใจ ให้การเอื้อเฟื้อดูแลคณะของคุณมะเดื่อเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่มาพักที่นี่
ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง โอกาสหน้าคุณมะเดื่อคงมีโอกาสต้อนรับท่านบ้าง
ที่ป่าละอู เป็นแหล่งดูผีเสื้อแหล่งใหญ่แห่งหนึ่ง น้องขจิต กับลุงวอ เพลินกับการ
ถ่ายรูปผีเสื้อที่มีอยู่มากมายในบริเวณที่เดินผ่าน
ฝูงปลาพลวงหิน ในบริเวณแอ่งน้ำตก มีมากมายว่ายเข้ามาแย่งกินอาหารที่โปรย
ลงไปให้กิน
ก่อนจบบันทึกนี้ ขอกราบขอบคุณน้องขจิต และลุงวอญ่า ด้วยความเคารพ
ทั้งสองมีพระคุณต่อคุณมะเดื่อและทีมงานเป็นล้นพ้น ยากที่คุณมะเดื่อจะตอบแทนได้
ทั้งสองเหมือนสวรรค์ส่งมาให้ช่วยคุณมะเดื่อโดยแท้ ขอบคุณมากมายในน้ำใจจริง ๆ
เราคงได้พบกันอีกในวันหน้านะจ๊ะ ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ
...ธรรมชาติสวยงามมากนะคะคุณมะเดื่อ อยากไปเที่ยวด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณมะเดื่อ เป็นภาพที่ประทับใจและมีความสุขมากค่ะ
ยินดีมากครับ กับมิตรภาพ และกิจกรรมที่จรรโลงการเรียนรู้ของเด็กๆ
ยิ่งเห็นแล้วยิ่งปลื้มกับอาจารย์ขจิต และท่านวอ....กินอยู่เรียบง่ายดีจังครับ
คิดถึง..
ป่าละอูเจริญขึ้นนะครับ
เป็นกิจกรรมที่อบอุ่นด้วยมิตรภาพค่ะ
ขอบคุณมากๆที่ให้โอกาสได้ทำความดี
รู้แล้วก็ไม่บอกใคร 555
ชอบใจธรรมชาติที่ป่าละอู
ไม่ได้ไปพบคุณเพชร
ยังอบรมครูต่อที่ชุมพร ถึง 28 เลยครับ
ขอบคุณมิตรรักแฟนเพลงทุก ๆ คนที่เข้ามาทักทาย ไม่ลืมกัน
และให้กำลังใจกันเสมอมา คิดถึงทุก ๆ คนเสมอจ้าา