นายฉลาดและนายเฉลียว เพิ่งเรียนจบ ม.๖ จาก โรงเรียนบางลี่วิทยา
ได้รับความรู้จากครูคนเดียวกัน เรียนเหมือนกัน ห้องเดียวกัน แผนการเรียนเดียวกัน เขาทั้งสอง เป็นคนเก่ง บัดนี้เขาต้องไปเผชิญชีวิต
เขาเข้าป่า พบรอยเท้าสัตว์
นายฉลาด: นี่เป็นรอยเท้าช้างแน่ๆ
นายเฉลียว : ใช่รอยเท้าช้าง แต่ช้างตัวนี้ตาบอดข้างหนึ่ง
นายฉลาด: แกรู้ได้อย่างไร ว่าช้างตาบอดข้างเดียว
นายเฉลียว: ข้าสังเกตรอยใบไม้ใบหญ้า มีรอยถูกกินอยู่ด้านเดียว
ทั้งสองคนเดินต่อไป
นายฉลาด : นีผู้หญิงมาปัสสาวะใส่หลุมไว้นี่
นายเฉลียว: ใช่หลุมปัสสาวะของผู้หญิง ท้องแก่ด้วยซี
นายฉลาด : แกรู้ได้ยังไงว่า ผู้หญิงคนนี้ท้องแก่
นายเฉลียว: มีรอยมือเท้าประคองตัวลุกขึ้น
นายฉลาดเกิดความอิจฉา ว่านายเฉลียวมีความรู้ลึกซึ้งกว่าตน แสดงว่าครูโรงเรียนบางลี่วิทยา ลำเอียงให้ความรู้นายเฉลียวมากกว่าตน
นายฉลาดจึงชวนนายเฉลียว มาหาครูพิสูจน์ และต่อว่าหาว่าครูพิสูจน์ ให้ความรู้นักเรียนอย่างลำเอียง
ครูพิสูจน์ไม่โต้ตอบว่าอะไร ไปหยิบหม้อดินมา ๒ ใบ ขนาดเท่ากัน
ครูพิสูจน์ : เอ้า ฉลาด กับ เฉลียว มาเลือกหม้อดินไปคนละใบ
ฉลาด : ผมขอเลือกก่อน(หยิบหม้อดินไป ๑ ใบ)
ครูพิสูจน์: อีก ๒ ชั่วโมงครูจะให้เธอเล่นเกม เติมน้ำความรู้ที่ครูจะให้ ตอนนี้ครูไปประชุมก่อน ๒ ชั่วโมงผ่านไปครูพิสูจน์กลับมา
ครูพิสูจน์ : เอาละครูมีน้ำมาให้ คนละถัง ความจุเท่ากับ หม้อดิน เธอทั้งสองคน จงนำน้ำเติมในหม้อดิน ใครเต็มก่อนชนะ
ครูพิสูจน์ : ผลการแข่งขัน นายเฉลียว เติมน้ำเต็มหม้อดินก่อน (เพราะนายเฉลียวเอาหม้อดินไปแช่น้ำ จนอิ่มตัว ส่วนนายฉลาดนั่งเล่นเกมไม่ได้คิดทำอะไร พอถึงเวลาเติมน้ำ หม้อดินที่แห้งก็ดูดน้ำ จึงทำให้น้ำหายไปไม่เต็มหม้อดิน ผิดกับหม้อของนายเฉลียว)
ครูพิสูจน์ : นายฉลาดเอ๋ย ครูโรงเรียนบางลี่วิทยา ให้ความรู้ศิษย์เหมือนกัน ไม่ได้ลำเอียงหรอก เหมือนน้ำที่ครูให้เธอคนละถังเท่ากัน เพียงแต่ศิษย์บางคนรู้จักคิด ให้ลึกซึ้ง กว้างขวางออกไป ไม่ใช่เก่งตามตำราเท่านั้น เราต้องรู้จักนำความรู้ไปพัฒนา ไปใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม นะลูก โลกข้างหน้ายังมีอะไรให้เราต้องเรียนรู้อีกมากมาย
ไม่มีความเห็น