วันนี้ทำให้ผมตื่นรู้ อยู่ตัว หัวใจงาม กับการได้อ่านหนังสือเรื่อง "ธรรมชาติของสรรพสิ่ง (บก.คือ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ปี พ.ศ. 2554) ด้วยความขอบพระคุณอย่างสูง" ซึ่่่งตอบโจทย์ที่ค้างคาใจผมตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมากับการพัฒนากรอบการทำงานของกิจกรรมบำบัดศึกษา จึงขออนุญาตนำมาอ้างอิงและแบ่งปันกับกัลยาณมิตรที่ต้องการแสวงหาคำตอบหรือพลังชีวิตบางอย่างก็เป็นได้...
โจทย์ที่ 1: ทำไมผมจึงเป็นทุกข์ในฐานะประธานหลักสูตรกิจกรรมบำบัด ที่แม้จะได้รับรองระดับโลก แต่ในใจรู้สึกว่า "นักกิจกรรมบำบัดที่จบจากหลักสูตรนี้ยังไม่สามารถบูรณาการความสุข ความสามารถ และความต้องการของผู้รับบริการได้เป็นรูปธรรม"
คำตอบ: หลักสูตรกิจกรรมบำบัดตามปรัชญาและกรอบอ้างอิงสากลมีความเป็นวิชาชีพตามบริบทของประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เมื่อนำมาใช้ตามบริบทไทย การพัฒนาผู้สอนและผู้เรียนตามกระบวนการธรรมชาติแห่งการเรียนรู้ย่อมเป็นทางออกหนึ่่ง "[อ้างอิงหน้า 17] ...เอาการรู้ตัวเองหรือรู้จิตของตัวเองเป็นตัวตั้ง ให้จิตสามารถเข้าถึงความจริงของธรรมชาติของสรรพสิ่งเพื่อการพัฒนาคุณภาพของจิต...[อ้างอิงหน้า 18]...จิตที่ไม่บรรลุ หมายถึง จิตที่ยังยึดติดกับตัวเอง...[อ้างอิงหน้า 19]...ร่างกาย จิตใจ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน...[อ้างอิงหน้า 20]...ไม่ว่าศึกษาเรื่องอะไร อย่าหลงไปเฉพาะเรื่องนั้นๆ อย่างแยกส่วน แต่โยงกลับมาสู่ภาพรวมหรือบูรณาการเสมอ และนำไปสู่การพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณให้สูงขึ้นทุกครั้งไป เพื่อความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์"
โจทย์ที่ 2: จากโจทย์แรก...ผมที่ป่วยเป็นหลอดเลือดสมองตีบจะป่วยซ้ำอีกหรือไม่ ถ้ายังต้องทำงานกิจกรรมบำบัดศึกษาในกรอบการทำงานเดิม-จำเจ-ซ้ำซาก และความท้าทายในการทำงานกับ "คนที่หลากหลาย" ไม่จบสิ้น
คำตอบ: ผมกำลังติดกับดักบนจิตอารมณ์ที่นำเรื่องความเจ็บป่วยของตัวเองมาเป็นที่ตั้ง ผมรู้แจ้งแห่งตนว่า จะป่วยซ้ำอีกหรือไม่อยู่ที่การดูแลสุขภาวะของตัวเองในทุกๆวัน สำหรับเรื่องกิจกรรมบำบัดศึกษาที่มีความหลากหลายของคนและความตึงในระบบ/กรอบการทำงาน ผมต้องทำความเข้าใจใหม่เพื่อเป็นคนหนึ่งที่ร่วมแก้ไขปัญหาให้เป็นระบบที่จำแนกเป็น "[อ้างอิงหน้า 22]...การศึกษาของมนุษย์ในปัจจุบัน...รู้และคิดแบบแยกส่วน...เรียนโดยเอาวิชาเป็นตัวตั้ง...ปัญหาของวิทยาศาสตร์ (แบบเก่า)...[อ้างอิงหน้า 28]...จึงควรมีการเรียนรู้ใหม่...เรียนรู้ธรรมชาตินอกตัวทุกชนิดมาพัฒนาธรรมชาติในตัว (จิต) ตลอดเวลาให้บรรลุความจริง บรรลุความงาม บรรลุความดี บรรลุความสุขและอิสรภาพ...[อ้างอิงหน้า 32]...ถ้าการศึกษาและการเรียนรู้ของมนุษย์ยังคงเป็นเรื่องภายนอก มนุษย์จะพัฒนาต่อไปไม่ได้ คงจะติดอยู่กับวัตถุนิยม บริโภคนิยม และมีโลภจริตเป็นเจ้าเรือน อันจะพามนุษยชาติไปสู่ความตึงเครียดและวิกฤตการณ์มากขึ้น]
โจทย์ที่ 3: จากโจทย์สอง...ผมจะค้นพบความจริงของการใช้ชีวิตตามที่ตัวเองฝันให้เป็นจริงก่อนที่ชีวิตจะหมดไปในแต่ละวันได้อย่างไร
คำตอบ: ปัจจุบันขณะผมค้นพบความจริงบางอย่าง หากแต่ควรคิดใคร่ครวญและนำมาปฏิบัติอย่างถ่องแท้ โดยปรับจิตใหม่มิให้ชีวิตไร้คุณค่าในแต่ละวัน โดย "[อ้างอิงหน้า 34]...มนุษย์ถูกทำให้หลงไป หรือไปติดในมายาภาพ ทำให้ไม่รู้เห็นธรรมชาติตามความเป็นจริง...เพราะเหตุ รู้เห็นสั้น ไม่เชื่อมโยง กับ จิตขาดความเป็นกลาง...[อ้างอิงหน้า 48]...กระบวนการของจิตที่ประกอบด้วย การรู้ (วิญญาณ) ความรู้สึกสุขทุกข์ (เวทนา) ความจำ (สัญญา) การคิด (สังขาร) ก็เกี่ยวข้องอยู่กับอวัยวะรับสัมผัส ระบบประสาท ระบบสมอง (กายหรือรูป)...[อ้างอิงหน้า 49-50]...จิตเองหรือที่กายหรือที่สิ่งแวดล้อมเป็นหนทางแห่งการพึ่งตนเอง...ทำแผนที่ความคิด...พยายามคิดเชื่อมโยงกันให้ครบทั้งระบบ ปัญญาก็จะแตกฉาน...งานต่างๆมักไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะขาดการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ...การใช้อำนาจสั่งการหรือการใช้ความรู้สำเร็จรูปเป็นเครื่องมือทำงานจึงไม่ได้ผล เพราะไม่ใช่การกระทำด้วยการรู้ความจริง การฝึกอบรมก็ไม่ได้ผล เพราะการฝึกอบรมคือการเอาความรู้สำเร็จรูปตายตัวลงไปบอกเล่า...[อ้างอิงหน้า 52]...การเข้าถึงอิทัปปัจจยตาเป็นเครื่องมือส่งเสริมความเมตตา...รู้จักตัวเองและเชื่อมโยงระหว่างภายในตัวกับสิ่งนอกตัว...ไม่ติดขัดทั้งรูปธรรมและนามธรรม เข้าใจความเป็นเช่นนั้นเองของบุคคลและเหตุการณ์ รู้เหตุปัขขัยของปัญหา รู้การดับสาเหตุของปัญหา...อยู่ร่วมกันด้วยสันติระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ"
เกร็ดชีวิตเพื่อปฏิบัติให้เกิดปัญญาแห่งการรู้ตัวเอง [อ้างอิงหน้า 61-64, 74-75, 99, 120, 391 และ 464-465]
ขอบพระคุณทุกๆท่านที่สร้างสรรค์ความงามแห่งการเจริญสติ (ศีล สมาธิ ปัญญา) ผสมผสานกับการเกิดแรงบันดาลใจให้ชีวิตเกิดสุขภาวะทางจิตวิญญาณคือ ความเมตตาและความสุขจากการทำงานของผมตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
ชอบใจหนังสือเล่มนี้
ตอนนั้นหายืมอ่านจากมหาวิทยาลัย
ขอบคุณมากๆที่น้องแนะนำ
ยินดีและขอบพระคุณมากครับพี่ขจิตและคุณ Anuroj48
ขอบพระคุณมากครับอ.ต้น คุณ GD และคุณวินัย
สวัสดีค่ะอาจารย์
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่นำมาแบ่งปันนะคะ
ยินดีและขอบคุณมากครับคุณมนัสดา
ขอบคุณมากครับคุณ Bonjure
สวัสดีค่ะ คุณหมอ Dr.S.K. มาให้กำลังใจคุณหมอค่ะ
ขอบพระคุณมากครับคุณครูทิพย์