เป็นลูกแก้วทรงกลมกลวง ภายในมีโลหะกลมอยู่ตรงกลาง มีศักย์ไฟฟ้าสูง
ภายในมีก๊าซเฉื่อยความดันต่ำ เมื่อให้ศักย์ไฟฟ้าสูง ความถี่สูง ก็จะเกิดการ
แตกตัวของก๊าซประจุ+ และ - เรียกว่าพลาสมา ตรงโลหะกลมตรงกลาง และเกิด
มีเส้นสายของก๊าซที่แตกตัวเป็นอิออน ไหลกระจายไปทั่ว
เนื่องจากก๊าซเมื่อได้รับการกระตุ้นก็จะพยายามกลับมาสู่สถานะพื้น
ก็จะมีการเปล่งแสงนั่นเอง ก๊าซแต่ละชนิดสีก็จะต่างกัน
เมื่อทดลองค่อย ๆ เพิ่มศักย์ไฟฟ้าไปเรื่อย ๆ จะเป็นดังภาพต่อไปนี้
เริ่มเปิด
เพิ่มศักย์ไฟฟ้าทีละนิดไปเรื่อย ๆ
1
2
3
4
5
6
7
พบว่าเมื่อศักย์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ก็จะมีจำนวนเส้นพลาสมา เพิ่มจำนวนเส้นขึ้น
การนำวัตถุสัมผัสกับลูกแก้ว
เมื่อนำนิ้วมือไปแตะจะเกิดเส้นของสายไฟชัดเจน
ทั้งนี้เกิดจากมือเรามีศักย์ไฟฟ้าที่ต่ำ กว่าอากาศภายนอก
เมื่อสัมผัสกับแก้วทำให้กระแสไฟฟ้าไหลจากศักย์สูงไปหาศักย์ต่ำนั่นเอง
เมื่อแตะ 5 นิ้วพบว่าทุกนิ้วมือจะมีเส้นพลาสมามาแตะที่นิ้วทุกนิ้ว
แต่เมื่อนำฝ่ามือไปแตะได้ผลดังภาพ
พบว่าเกิดเป็นเส้นกระแสไฟฟ้า เส้นเดียวไหลมายังอุ้งมือที่นำไปแตะและ
เป็นเส้นที่เข้มมาก
ทั้งนี้ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลน่าจะมีความสัมพันธ์กับพื้นที่ผิวสัมผัสด้วย
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันจ้ะ