แผนที่: ผลผลิตข้าวสาลี ปลูกมาก ในเขตอบอุ่น ใช้น้ำน้อย
แผนที่: ผลผลิตข้าวเจ้า ปลูกมาก ในเขตร้อน (มากกว่า เขตอบอุ่น) ใช้น้ำมาก
แผนที่: ทางเหนือของจีน ปลูกข้าวสาลีมาก, ทางใต้ของจีน ปลูกข้าวเจ้ามาก
เส้น A-B เป็น แนวแบ่ง อู่อารยธรรม "ข้าวสาลี-ข้าวเจ้า"
แผนที่: แสดงพื้นที่ปลูกข้าวเจ้า, จากขาว (0%) ไปจนถึงม่วงเข้ม (90%)
แผนที่: แสดงพื้นที่ปลูกข้าวสาลี (สีน้ำเงิน) - ข้าวเจ้า (สีแดง)
แผนที่อินเดีย มีรูปคล้าย 4 เหลี่ยมตะแคง หรือรูปว่าวลอยลม
....................................
มีส่วนยื่นไปทางตะวันออก คล้ายรูปหัวไก่
คอคอดอยู่ที่คอ (chicken neck) เป็น จุดอ่อนของอินเดีย
โดยเฉพาะ อยู่ใกล้ อรุณาจัลประเทศ ที่ตกลงเขตแดนกับจีนไม่ได้
.
หมู่เกาะทางตะวันออก (Andaman) อยู่ใกล้พม่า
เป็น จุดยุทธศาสตร์ ใกล้ปากทางเข้า-ออก ช่องแคบมะละกา
....................................
อู่ อารยธรรมอินเดีย น่าจะแบ่งได้เป็น
"2 ข้าว 2 วัฒนธรรม" คล้ายจีน
.
ในอาเซียน, แม้จะมีการปลูก
ทั้ง ข้าวเหนียว (ข้าวไร่ ใช้น้ำน้อย)
และ ข้าวเจ้า (ข้าวที่ลุ่ม ใช้น้ำมาก)
.
ทว่า... ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
น่าจะไม่มากเท่า "ข้าวสาลี-ข้าวเจ้า"
....................................
คนอเมริกัน มีแนวโน้ม แห่ง ความเป็นปัจเจกชน (individualistic),
อิสระ นิยมวิเคราะห์ โดยใช้ "ความรู้" (เช่น สถิติ ฯลฯ)
และกล้าที่จะ "คิดต่าง" (ไม่เหมือน คนอื่นในกลุ่ม) มากกว่า
.
คนจีน มีแนวโน้ม แห่ง ความพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกัน (interdependence)
รักวัฒนธรรม, ชอบ "คิดตาม"
และ "ทำตาม" หรือ "ให้ความร่วมมือ (cooperative)" กับ กลุ่มที่สังกัด
เช่น หมู่บ้าน-ตำบล-มณฑล สูงกว่า
....................................
อาจารย์โตมัส ทาวเฮม (Thomas Talhelm)
นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐฯ
ทำการศึกษา จากลุ่มตัวอย่างนักศึกษาจีน 1,162 คน ทั่วประเทศ
ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีน พบว่า
.
"2 ข้าว เป็นเครื่องกำหนด 2 วัฒนธรรมจีน"
โดยมีแม่น้ำยังสี่ (Yangtze - แยงซีเกียง) เป็นเส้นแบ่ง แนวเหนือ-ใต้
....................................
อ.ทาวเฮล์ม พัฒนา "ทฤษฎีข้าว (rice theory)" หลังจากเข้าไปอยู่ในจีน 4 ปี
ปี 2007/2553 ท่านเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ในโรงเรียนมัธยมศึกษา
ที่กวางโจว (Guangzhou) ทางใต้ (รัฐข้าวเจ้า)
.
ต่อมา ท่านย้ายไปสอนที่ ปักกิ่ง (รัฐข้าวสาลี)
ก่อน ทำงานเป็นนักข่าว
และ สังเกตว่า คนที่นั่นเป็นตัวของตัวเอง
ตรงไปตรงมา
และ ไม่ค่อยเกรงใจใครมาก แบบคนจีนทางใต้
....................................
ทางเหนือ ปลูก ข้าวสาลีมากกว่า
วัฒนธรรม คล้าย คนตะวันตกมากกว่า
.
ทางใต้ ปลูก ข้าวเจ้ามากกว่า
วัฒนธรรม คล้าย คนตะวันออก
เน้น ความเป็นคน "ของสังคม"
เช่น หมู่บ้าน-ตำบล-มณฑล มากกว่า
....................................
ความต่างนี้ รวมไปถึง การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้วย
คือ ชาวตะวันตก และ คนจีนทางเหนือ
มีแนวโน้มจะมีเพื่อน กลุ่มใหญ่กว่า
.
ส่วนคนจีนทางใต้ มีแนวโน้มจะมีเพื่อน กลุ่มเล็กกว่า
คล้าย กับ มีความเป็น "หมู่บ้าน-ตำบล" มากกว่า
....................................
พื้นฐานทางวัฒนธรรม มาจากการปลูกข้าว
เพราะ ข้าวสาลี ใช้น้ำน้อย
ต่างคนต่างปลูกได้
.
ทำให้ คนจีนทางเหนือ มีแนวโน้ม คือ
....................................
ข้าวเจ้า ใช้น้ำมาก
ต้องหาแหล่งน้ำ ทำเขื่อน วิดน้ำเข้า วิดน้ำออก
ถ้าช่วยกันทำ เช่น "ลงแขก" มักจะเหนื่อยน้อยลง
ได้ผลผลิตมากขึ้น
.
ทำให้ คนจีนทางใต้ มีแนวโน้ม คือ
....................................
"ความจำเป็น (ต้องร่วมมือกัน)" ที่สืบทอดกันมานับร้อย นับพันปี
ค่อยๆ หล่อหลอม ให้ คนข้าวเจ้า (ทางใต้ของจีน)
ต่างจาก คนข้าวสาลี (ทางเหนือของจีน)
.
มีคำกล่าวว่า "ตะวันออกเป็นตะวันออก และ ตะวันตกเป็นตะวันตก"
= คนเอเชีย กับคนตะวันตก (ฝรั่ง) ไม่เหมือนกัน
ทว่า... การศึกษาใหม่บอกเป็นนัยว่า
"คนข้าวสาลี กับ คนข้าวเจ้า (มักจะ) ไม่เหมือนกัน"
....................................
ก่อนหน้านี้ มีการศึกษาพบว่า
คนในเขตอบอุ่น หรือ คนในเขตที่อากาศเย็นกว่า
มีแนวโน้มจะ ต้องเตรียมการก่อนเข้าฤดูหนาว
เช่น สะสมเสบียงอาหาร เชื้อเพลิง ฯลฯ
.
ทำให้ คนในเขตอบอุ่น พัฒนา อารยธรรมไปได้
ไกลกว่าคนในเขตร้อน
เรื่องเหล่านี้ คงจะทำให้เราเข้าใจ
คน "จีน-อินเดีย-เอเชีย" มากขึ้นได้เช่นกัน
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ทุกๆ ท่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
........................................................
From > http://www.businessinsider.com/two-cultures-of-china-2014-5
Reference by BI > J Science.
.......................................................
Interesting theory!
When I was young I was told stories about 2 lands one eats rice and fish, another eats wheat and chicken. I now wonder if these stories bear more truth than just 'bed times'.