วันที่สิบเอ็ด-จิตร้ายกาจ
วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวาน คือตั้งใจทำ Lab แบบลงตัวอย่างซะที แต่ใจก็คิดว่า
("บ่ต้องฟ้าวดอกเหนาะ ฟ้าวบาดได๋ ลนแล้วพลาดตลอด)
"อย่าพึ่งรีบเลย เพราะรีบทีไร ลนทุกที แทนที่จะเร็ว กลับจะช้า"
เอาเป็นว่า "เช้าเตรียมตัวอย่าง บ่ายฉีดละกัน"
พอลงมือทำ พี่เตรียมทุกอย่างไว้ แม้พี่จะปรับระบบอะไรบางอย่าง แต่หนูก็ยัง บดยาอย่างช้า
ธรรมชาตินิสัยเสีย ๆ ของหนูคือ
"ยิ่งถูกกดดันยิ่งช้า ยิ่งรู้สึกว่าถูกเร่งยิ่งเฉื่อย"
เหมือนจิตที่ร้ายกาจกำลังแกล้งพี่อยู่ ดูอยู่ก็เซ็ง ๆ ทั้งๆที่ลงมือทำค่ะ
คนอื่นดูผิวเผิน ไม่ออกว่า มันกำลังแสดงความร้ายกาจ
แต่หนูเห็นมันทำบ่อยนะ เมื่อก่อนไม่เห็น พอครูชี้ก็ไม่ยอมรับ"
วันนี้หน้าตา มันชัดเจนมาก ๆ ค่ะ
นึกสงสารพี่ แต่ตนเองก็บังคับมันก็ยังไม่ได้
แต่พอบ่าย ๆ ตัวอย่างที่เตรียมไว้ พี่นำไปฉีด
ประจวบกับตัวอย่างที่หนูชั่งอยู่ เห็นเทคนิคการแก้ปัญหาของพี่เขาเรื่องลดขั้นตอน ลดระยะเวลาการชั่งยา ทำให้ช่วยได้มากขึ้น เมื่อหนูลองทำอย่างพี่เขาสอน ก็สะดวกขึ้นจริง ๆ
แต่ก็มีจุดหน้าประทับใจ ที่จิตชั่ว ๆ ถูกดัดหลัง คือว่า เครื่องชั่งที่ใช้อยู่ ช่างมา Calibrate หน้าจอไฟไม่ค่อยสว่างมันแก้ไขไม่ได้ ต้องยกเครื่องกลับบริษัท วันศุกร์
เท่านั้นแหละค่ะ หนูมีเสียงว่า
"ตายหล่ะหว่า"
"ช้าไม่ได้แล้ว ไม่มีเวลาแล้ว ต้องเร่ง"
โห ข้างในแบบนี้ จิตแบบนี้ ทำงานสนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ พยายามมากขึ้นกับตนเอง
(ทั้ง ๆที่รู้ตอนท้าย ว่า ยังไม่ให้ช่างเอาเครื่องไปซ่อมก็ตาม จิตก็ยังคึกคักอยู่ค่ะ"
หาที่ ๆ น่าจะทำให้บดยาได้เร็วขึ้น จากเดิมบด เคาเตอร์ในห้องแล็บ ลองขยับมาบดที่พื้นเป็นหินอ่อน
โอ้ ผิดกันเลยค่ะ
ความต่างของพื้นที่รองรับโกร่ง มีผลกับการบดยามาก ๆ อย่างเห็นได้ชัด แม้จะพยายามมากขึ้นแต่ก็ถือว่า ช้าค่ะ
แต่ก็ลุยทุกตัวอย่างที่อยู่ในตะกร้าคือ 10 ตัวอย่าง ไปช่าง ขั้นตอนนี้ปราบเซียนมากอยู่ เอ๋อ ๆ ก็พลาดง่าย หนูทำช้า
พี่เพียงจึงมาช่วยแบ่งชั่งครึ่งหนึ่ง ประทับใจจิตของตนเอง ที่ระลึกรู้ถึงคำว่า
ความรวดเร็ว เป็นเรื่องของทักษะและความชำนาญ
ฝีมือของศิษย์ ไม่อาจจะไปเทียบอาจารย์ได้
เป็นการย้อนทวนกับตนเอง
แล้วระลึกถึงครู เหมือนครูเมตตาสอนหนู
รู้ทุกลำดับขั้นตอนของภารกิจที่ท่านมอบหมาย สิ่งใดที่เกิดการติดขัด หรือ มีปัญหา
ครูก็ให้โอกาส หรือ ลงมือช่วยเหลือ ประคองมาตลอด จนพอจะเห็นกิเลสตนเองได้จนวันนี้
ได้เรียนรู้อะไรชัดขึ้นวันนี้
"ตอนเช้า ๆ กิเลสหนูจะ แรงมาก จะเป็นเอื่อย ๆ เฉื่อย ๆ แต่พอเที่ยง ๆ บ่าย ๆ จะมีกำลัง หัวค่ำซึ่งเป็นเวลาออกวิ่ง จะค่อยข้างดีมาก แต่พอเริ่มดึก สักทุ่มสองทุ่มเริ่มง่วงอีกที เป็นแบบนี้อย่างที่ครูเมตตาบอกมา แต่ไม่ค่อยได้เห็น วันนี้ชัดขึ้นค่ะ"
ประทับใจอะไร กำลังใจจากครู เพียงการโทรมา การตอบในบันทึก ระลึกรู้ถึงใจเลยว่า
"ครูให้กำลังใจ"
วันนี้ ตอนทำงาน พอบ่าย ๆ ค่ำ ๆ เหมือนจะมีอาการแบตหมด แต่พอได้อ่านข้อความจากครู ไม่รู้พลังฟื้นมาจากไหนค่ะ
เป็นพลังของความอบอุ่นจากครูที่ส่งถึงกลางใจ
ล้า ๆ จากความอยากที่ จะทำตัวอย่างให้ได้เยอะ ๆ ก็เหมือนพลังกลับมาอีกเฮือก
และแล้ววันนี้ก็ได้ฉีดตัวอย่างที่มีเกือบหมด ขาดเพียงตัวเดียวที่ ค่าที่ออกจากเครื่องชั่งเป็นสามตำแหน่งซึ่งใช้ไม่ได้ต้องทำใหม่
ประทับใจทุกความช่วยเหลือของพี่ ๆ คือ ความกรุณา ที่ไม่เคยขาดสาย คือ องค์ความรู้ที่ถ่ายทอดอย่างไม่ปิดกั้น
ที่ผ่านมา หนูนี่เอง ที่ปิดกั้นตนเอง แต่พอเปิดใจ ลงมือทำ มีอะไร เจ๋ง ๆ ให้สนุกได้อีกเยอะทีเดียวค่ะ
เป็นอีกวันที่วุ่นกับงาน และเฝ้ามองจิตชั่ว ๆ ของตนเองทำงาน แล้วถูกตลบหลัง ด้วยบริบท แล้วก็นึกขำมันค่ะ
ไม่มีความเห็น