วันที่เจ็ด-วันของการเยี่ยม (คนไข้) ที่เยี่ยม
วันเสาร์ ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558
ครบรอบอาทิตย์ วันนี้ได้ทำอะไรที่ไม่ได้คาดคิด แล้วมีเรื่องประทับใจเยอะมาก ประคองตนเองมาเรื่อยเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายกลับมาตกม้าตายตอนจบ น่าเสียดาย
มีอะไรที่ตั้งใจ ทำกับข้าวถวายพระ ภารกิจขับรถไปเยี่ยมโบโซ่ ไปรับเด็ก เข้ามาวัด ที่เหลือก็เป็นข้อวัตรประจำวัน
พอลงมือทำเป็นยังไง ทำอาหารก็ดำเนินไปได้ รับข้าวที่ลานธรรมเสร็จได้ฟังเทศน์หลวงปู่ สิ่งที่พอระลึกได้ คือท่านเอ่ยถึง
การตัดถนนเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านหลายคนไม่เห็นด้วย แล้วก็ว่า
"จะมีรถที่ไหนมาวิ่ง" คนมันคิดสั้น ๆ ไม่มองการไกลคิดยาว ๆ
ใจหนูนึกย้อนเข้ามาถึงตนเอง สิ่งต่าง ๆที่ครูมอบหมายให้ทำ หนูก็เหมือนชาวบ้าน คือ
ไม่มีปัญญา แล้วก็เลยเสียโอกาสในการได้ร่วมสร้างกุศลใหญ่
รู้สึกกับตนเองว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ฟังสองกัณฑ์เทศใหญ่ๆ เรื่อง R2R กับเบเกอร์รี่
ที่ใจหนูตอบสนองต่อเรื่องราวคล้ายกัน แต่ลงมือทำต่างกันในอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้คิดกับตนเองว่า ปัญญาไม่ถึงแล้วอย่าปล่อยให้ใจไปปรามาสครูบาอาจารย์ ร่องเก่ามันไหล เหยียบไว้ให้ทัน ย้ำกับตนเอง
อีกประเด็นคือ ท่านเล่าถึงเรื่องราวที่ไปธุดงค์ในที่ต่างๆ หนูประทับใจตอนที่ท่านบอกว่า
"ไม่ทำวัตร แล้วนอนผีเลยมาหลอกเอา"
ใจหนูย้อนทวนกับตนเอง
"หลวงปู่ท่านก็ยังเคยลืม แล้วท่านก็ลงมือแก้ไข ไม่ได้มานั่งเสียเวลาคร่ำครวญ"
ย้ำชัดให้กิเลสตนเองเลิกเสียเวลา
กับการเดินทางไปเยี่ยมโบโซ่เป็นเรื่องเกินคาดและประทับใจตลอดเส้นทาง ครูร่วมเดินทางไปด้วย พอทราบรู้สึกดีใจและทุก ๆคนที่ร่วมเดินทางก็มีความสุขมาก ๆ ตลอดเส้นทางทั้งขาไปและขากลับ
ประทับใจอะไร การพูดอย่างจริงใจของแม่แก้ว ทั้งวิธีพูดและเรื่องราว มันเยี่ยมมากสำหรับคนท่ามากอย่างหนู
เยี่ยมยังไง รู้สึกได้ถึงการพูดจากใจแบบไม่มีกั๊ก ทั้งความรู้สึกด้านบวกด้านลบ ที่ตอบสนองต่อเรื่องราวผู้คน ถ่ายทอดออกมาเป็นฉาก ๆ แม่กระทั่งเรื่องราวของหนูเองที่มักจะเสื้อผ้ามอมสกปรกเหมือนไม่ซัก
พูดปั๊บถึงใจหนูย้อนทวนกับตนเอง เรื่องนี้เชื่อครูและแก้ไขแล้วตั้งแต่ต้นปี หลาย ๆเรื่องฟังแล้วย้อนทวน หนูเป็นไหม เอาเข้าจริง ๆก็เป็นคือ
ทำข้างนอกดูดี แต่ใจไม่ได้ สร้างภาพว่า รักษาศีล แต่ใจข้างในยังห่างไกลคำว่า
"มีศีล" ระลึกย้อนทวน ตอนทำคนที่ขาดสติ ไม่รู้และมองไม่เห็น กิเลสที่ฝังอยู่ข้างในลากให้ไปทำนั่นทำนี่ แต่พอครูบาอาจารย์ชี้แบบเหมือนขนาบข้าง กิเลสตัวร้อนรนก็มาขัดขวาง
แต่เมื่อวาน สิ่งแวดล้อมชวนให้มีความสุขและได้คิดมาก ๆ
การทำอะไรที่ไม่ได้ออกมาจากภายใน กุศลจะเกิดกับจิตน้อย แม้ดูจากภายนอกเหมือนสร้างบุญใหญ่
แต่ขณะเดียวกันถ้าเราทำเพียงสิ่งเล็ก ๆ แต่ตั้งใจเต็มที่โดยเป็นไปเพื่อการสร้างกุศลและขัดเกลากิเลส
การที่เราจะไปบอกไปสอนคนอื่นในเรื่องที่เราทำไม่ได้นั้น มันเป็นเรื่องยากที่คนจะเข้าใจ เหมือนเป็นอะไรที่เราเองยังไม่รู้ไม่ถ่องแท้แล้วก็ไปบอกเขาแบบเดา ๆ ก็เหมือนตาบอดคำช้าง แล้วก็ไปบอกเขาว่าช้างเป็นแบบนี้ ๆ นั่นแหละติ๋วเอ้ย จำไว้ ทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปบอกไปสอนใครเขา
การเดินทางครั้งนี้กับครูประทับใจทุก ๆ คนที่ขึ้นรถมาด้วยกัน
ครูที่ให้ความอบอุ่นใจ เย็นใจสนุกสนาน
แม่แก้วเรียกเสียงหัวเราะไม่ขาด
แม่รีร่วมหัวเราะสดใสไปได้กับทุกๆเหตุการณ์
มลก็เหมือนกันสอดรับกันแบบร้อยเรียงเป็นเชือกเส้นเดียวกัน
แม้กระทั้ง น้องนิน้อย ที่เดิมความบริสุทธิ์และเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นช่วง ๆ กับความไร้เดียงสาและเป็นธรรมชาติของเด็ก
ส่วนหนูขับรถก็ได้หัวเราะไปตลอดทาง ย้ำเตือนกับตนเองเรื่อย ๆ ให้รักษาสติ งานนี้บุญใหญ่โอกาสใหญ่ก็ยังโดนกิเลสตัวเดิม ๆ เล่นงานแบบก่อนขึ้นรถ ก่อนถึงที่หมายแต่ก็พอผ่านมาได้กับตนเองแบบประคอง ได้บทเรียนหลายอย่าง เป็นการเดินทางเยี่ยมโบโซ่ที่มหัศจรรย์มาก ๆ
แม้กระทั่งการได้เยี่ยมเอง ก็เยี่ยมกันตั้งแต่โผล่หน้าจากหน้าต่าง แบบใจถึงกัน จนมานั่งลงตรงหน้าแล้วได้พูดจาและสวมกอดกันและกันระหว่าง โบโซ่แม่แก้ว แม่รี ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่ออกจากใจจริง ๆ มันเบา มันใช่และเยี่ยม
สิ่งที่ไม่เป็นไปตามคาดวันนี้ไปรับเด็ก ๆ ไม่มีใครมาวัด ใจย้อนทวนตนเองอะไรที่หนูต้องเรียนรู้ ใจหนูเชื่อมไม่ถึงเด็ก ๆ ซินะ พอมีอะไรนิดหน่อยเข้ามาให้สะดุดก็เลย ขอพักกันก่อน
สุดท้ายข้อวัตรตอนเย็น การอ้างเรื่องการนอนน้อยและเดินทางนั้น เป็นแค่เหตุผลของกิเลสที่เอามาอ้าง สุดท้ายเลยอดได้เรียนรู้เรื่อง ความอดทนและปัญญา แบบฝืนความง่วง ฝืนใจตนเอง
แต่ถึงอย่างไร วันนี้ข้างในรู้สึกประทับใจ โล่ง แค่นึกย้อนถึงเรื่องราวยังเหมือนมีความสุขเล็ก ๆ โชยขึ้นมาเอง อยู่ภายใน
ไม่มีความเห็น