วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558
วันนี้คาดหวังว่า งานเขียนเรียบร้อย เอาเงินที่จะไปซื้อโทรศัพท์แปรรูปเป็นสลากก่อนเพื่อกันท่าตนเอง แบ่งเงินส่วนที่เหลือสำหรับที่บ้านและเก็บไว้ใช้เองตามคำแนะนำของพระพี่ชาย
แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้าง จากที่หงาย ๆ ก็ลุกขึ้นมาสวดมนต์ แต่ก็ยังเป็นแบบมึน ๆ งง ๆ เซ็ง ๆ กับตนเอง ก็เป็นโจทย์เดิมที่ "ไม่ผ่าน" ส่วนเรื่องการเขียนงาน ก็เป็นอะไรที่พยายามมากขึ้น พบว่า เออเหนาะ พอมันจะทำจริง ๆ มันก็ด้นสดไปได้ นี่แหละหนาไฟไม่ลนก้นก็ไม่ลงมือ เขียน ๆ ไปก็...รู้สึกสนุกดี ทั้งวันงมอยู่หน้าคอม ไม่ได้ออกไปไหนเงินไม่ได้ไปซื้อสลาก ทั้ง ๆที่เอกสารเตรียมพร้อม
เมื่อเช้าระหว่างเดินอยู่ในบ้านนึกย้อนกับตนเอง
"ไอ้เรานี่มันชอบทำอะไรสนุก ๆ พอเรื่องที่ทำอยู่ใจมันหาความสนุกไม่เจอ มันเจอหงายเก๋งกับตนเอง หากเปรียบความสนุกเป็น ฉันทะ ก็คงใช่ แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องผ่านเมฆหมอกของกิเลสอีกมากมายเลย"
เป็นอีกเสียงที่ย้ำกับตนเอง ว่า
"ไอ้ติ๋วเอ้ย แค่ข้อวัตรยังกอดไว้ไม่ได้ สอบที่ไรก็ตกเอา ตกเอา แล้วยังจะมา โง่อีก เสียเวลา"
มันมีความรู้สึกอยากถอย อยากตามใจตนเองตลอดเวลา พลาดบ้างล้มบ้าง กิเลสไม่ออกทางหนึ่ง ไปออกทางหนึ่งบ้าง เหยียบไว้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็อดเอา ก็บอกตนเองว่า "เอาหล่ะ ทำใจ"
ประทับใจอะไรวันนี้ ลึก ๆ ก็ดีใจที่ตนเองเขียนงานได้คล่องขึ้น ประทับใจตนเอง ประทำใจพี่เพียงด้วย ช่วยอ่านงาน ท่ามกลาง งานแบบเต็มหน้าตัก
มีเรื่องวุ่น ๆ ให้ต้องร่วมคิด ร่วมมองเป็นเรื่อง ความผาสุขขององค์กรและความปลอดภัย
แม้ไดม่ได้ข้อสรุป แต่เราก็ได้มุมมอง
แบบหลายหลายบนความจริงของโลก ที่มือถือและสื่อต่าง ๆ เข้ามามีผลกระทบต่อชีวิต
เราไม่ยุ่งกับใคร แต่อย่าลืมว่า อาจจะมีใคร แอบมาทำอะไรกับเราได้ บนความคะนอง
เตือนย้ำกับตน นี่ซินะ ท่านถึงสอนให้ มีสติ สิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ผ่านทุกอย่างไปได้
ไม่มีความเห็น