การเป็นอาสาสมัครในสถานสงเคราะห์เด็ก


การเป็นอาสาสมัครในสถานสงเคราะห์เด็ก

อาสาสมัครที่มาช่วยดูแลเด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้บริจาคแบบไวยาวัจมัย คือเสียสละแรงกายใจมาช่วยดูแลเด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์ เป็นการทำกุสลกรรมที่ดีมากอย่างหนึ่งที่จำเป็นและสำคัญ การร่วมมือ การเสียสละเวลา การแบ่งปันมีน้ำใจมาช่วยกันให้ความรักความอบอุ่นแก่เด็ก ๆ จึงเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ นอกจากเด็ก ๆ ในความรักของสถานสงเคราะห์จะได้รับความรักความอบอุ่นจากอาสาสมัครโดยตรงแทนความรักความอบอุ่นที่ขาดหรือไม่มีเลยจากครอบครัวบิดามารดาของตัวเองแล้ว ยังเป็นการสร้างความสุขความรู้สึกที่ดีงามในจิตใจของผู้มาเป็นอาสาสมัครอีกด้วยจะได้เป็นความขาด ความต้องการความยากลำบากของเด็ก ๆ ทำให้อาสาสมัครรู้สึกถึงความสำคัญของความรักความอบอุ่น หากโรงเรียนมีกิจกรรมให้เด็ก ๆ นักเรียนมาเรียนรู้มาช่วยเหลือนอกจากเด็ก ๆ ในความอุปการระได้รับความรักความอบอุ่น แล้วสิ่งที่นักเรียนจะได้รับกลับไปคือความรู้สึกที่ดี กลับไปจะได้รู้รักพ่อแม่เข้าใจพ่อแม่มากขึ้น บางครั้งมาจากครอบครัวที่พ่อแม่รักมากกแต่ไม่ค่อยมีเวลาใจใจกันมากก็ยังได้นับความเข้าใจว่าพ่อแม่เหนื่อยยากเพื่อให้ลูกได้เรียนหนังสือเพื่อให้ลูก ๆ สบายช่วยตนเองได้ในภายภาคหน้านั่นเอง และนอกจากนั้นยังเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเรียนนักศึกษาเองเช่นในอนาคตการทำงานในการแข่งขันสูง ๆ ที่ต้องแย่งกันสมัครงานเข้าทำงานตามความต้องการ หากเราเป็นอาสาสมัครย่อมเป็นที่น่าสนใจ แก่องค์กรเนื่องจากการเป็นอาสาสมัครแสดงให้เห็นว่าเป็นคนดีมีน้ำใจได้ดีอย่างหนึ่งเมื่อไปสัมภาษณ์เข้าทำงานจึงเป็นคุณสมบัติที่ดีน่าสนใจคนหนึ่งเลยที่เดียว

มีอาสาสมัครจำนวนมากที่มีเวลาให้ความรักความสุขให้กับเด็ก ๆ ได้แต่ต้องเป็นผู้มีเวลาตั้งใจจริง ๆ มีรายละเอียดที่รู้และศึกษาเช่นระเบียบแต่ละหน่วยงานก็แตกต่างกันไป ต้องเข้าไปรู้จักศึกษาเรียนรู้ให้เป็นประโยชน์ และประโยชน์นั้นได้เป็นประโยชน์สูงสุดของเด็ก และเป็นความชอบของทั้งอาสาสมัครเด็ก ๆ บุคลากรและตัวอาสาสมัคร การทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ บางครั้งอาสาสมัครตั้งใจมาก ๆ ที่จะมาช่วยมาทำงานให้เด็ก แต่อาจเจออุปสรรคเช่นไม่สามมารถเข้ากันได้กับบุคลากร เช่นภาษา หรือความแตกต่างกันในความคิดหรือแตกต่างกันด้านการศึกษา การเป็นอาสาสมัครจึงต้องเรียนรู้และต้องอดทนไม่แตกต่างจากการเริ่มงานที่ใหม่เช่นเดียวกัน อาสาต้องอดทนเสียสละเวลากายใจและการปรับตัว อยู่ร่วมกันกันกับเด็ก ๆ บุคลากร ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่าน่าการปรับตัวยากอาจมาจากฐานะทางสังคมที่แตกต่างกัน ความคาดหวังต่าง ๆ การเลี้ยงดูเด็ก ๆ ของบุคลากรคือการดูแลเหมือนพ่อแม่เหมือนธรรมชาติของการเป็นอยู่โดยทั่ว ๆ ไปหากอาสาสมัครเข้าใจว่าบุคลากรเสียสละต้องมีวาจางดงามสละสลวยหรือเป็นนางฟ้าในใจเหมือนครูโรงเรียนอนุบาลเอกชนที่วัฒนธรรมองค์กรหรือคุณสมบัติทางการศึกษาค่าตอบแทนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอาจจะผิดหวังได้ อาสาสมัครจึงจำเป็นต้องเข้าใจวิถีปกติดูแลเด็ก ๆ ได้ได้รับความรักความรักความอบอุ่นเติบโตมาช่วยเหลือตนเองเป็นคนดีในสังคมได้

มีกลุ่มอาสาสมัครอยู่หลายกลุ่มที่ผู้เขียนประทับใจ เช่นกลุ่มอาสาสมัคร กาชาดไทย เป็นอาสาสมัครที่มีผู้สูงอายุจากกาชาดรวมกันมาช่วยกันดูแลเด็ก ๆ คุณยาย เหล่านี้ไม่มีเงื่อนไขเมาก็เลี้ยงดูป้อนข้าว เด็ก ๆ มีอะไรหยิบจับช่วยเหลือก็ดูแลถึงเวลาก็กลับไม่บ่นว่าหรือใส่ใจมากตั้งใจทำหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ แล้วก็กลับเป็นไปตามระเบียบให้ความร่วมมือเข้าใจความลำบากและความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ เป็นอาอาสาสมัครที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง จากการสังเกตผู้เขียนขอชมและมองว่าคุณป้าคุณยายเหล่านี้ไม่สนใจอะไรมาก มาแล้วก็มุ่งงานอย่างเดียวนึกถึงว่าจะมาช่วยเด็ก ๆ เสร็จก็กลับแค่นั้น

หมายเลขบันทึก: 584773เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2015 16:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม 2015 16:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ชื่นชมการทำงานของอาสาสมัคร

หายไปนานมากเลยครับ

วันก่อนไปบ้านราชวิถีมา

ไม่ได้ไปบ้านเด็กพญาไทเลย

ว่างๆจะแวะไป

หายไปนานมากๆ

สบายดีนะครับ

ขอบคุณครับสบายดีครับ ยังมีอาสามาอยู่หลายคนครับโดยเฉพาะผู้สูงอายุกาชาดครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท