การศึกษารายงานการวิจัยที่ใช้สถิติในการวิจัยเรื่องผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง ทรัพยากรในท้องถิ่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โดยใช้การสอนแบบวัฎจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
1.ชื่อเรื่อง: ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง ทรัพยากรใน
ท้องถิ่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบวัฎจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
(5Es)
2.ชื่อผู้วิจัย: สหพรบุญสุข
3.แหล่งที่มา: วิทยานิพนธ์ก.ศม.มหาวิทยาลัยขอนแก่นปี พ.ศ.2551
4.ความมุ่งหมายของการวิจัย
1.เพื่อศึกษาทักษะการคิดพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทรัพยากรในท้องถิ่นโดยใช้การสอนแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)ให้มีจำนวนนักเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม
2.เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทรัพยากรในท้องถิ่นโดยใช้การสอนแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)ให้มีจำนวนนักเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม
5.ขอบเขตของการวิจัย
1.กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2550โรงเรียนบ้านม่วงอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 1จำนวน 1 ห้องเรียนนักเรียนทั้งหมด 23 คน
2.เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยคือเนื้อหากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง ทรัพยากรในท้องถิ่น
3.ระยะเวลาที่ในการวิจัยดำเนินการในภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2550
4.ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัยคือทักษะการคิดพื้นฐานและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่สอนโดยใช้การสอนแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
6.สถิติที่ใช้ในการวิจัย
สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ
7.ผลการวิเคราะห์ด้วยสถิติ
1.ผลการวัดทักษะการคิดพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปรากฏว่าจากคะแนนเต็มทั้งหมด 30 คะแนนนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยทั้งหมด 23.09จำนวนนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จากคะแนนเต็มมีผู้สอบผ่าน 19 คนจากนักเรียนทั้งหมด 23 คนคิดเป็นร้อยละ 82.61 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีผู้สอบไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 4 คนจากนักเรียนทั้งหมด 23 คนคิดเป็นร้อยละ 17.39 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดดังตารางที่ 1
จำนวนนักเรียน |
คะแนนเต็ม |
คะแนน เฉลี่ยทั้งหมด |
เกณฑ์ |
จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ |
ร้อยละ (%) |
จำนวนนักเรียน ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ |
ร้อยละ (%) |
|
คะแนน ที่ผ่านเกณฑ์ |
ร้อยละ (%) |
|||||||
23 |
30 |
23.09 |
21 |
70 |
19 |
82.61 |
4 |
17.39 |
ตารางที่ 1แสดงจำนวนนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70ในการทำแบบทดสอบวัดทักษะการคิดพื้นฐาน
2.ผลการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ปรากฏว่าจากคะแนนเต็มทั้งหมด 30 คะแนนนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยทั้งหมด 22.74จำนวนนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 จากคะแนนเต็มมีผู้สอบผ่าน 18 คนจากนักเรียนทั้งหมด 23 คนคิดเป็นร้อยละ 78.26 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดมีผู้สอบไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 5 คนจากนักเรียนทั้งหมด 23 คนคิดเป็นร้อยละ 21.74 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดดังตารางที่ 2
จำนวนนักเรียน |
คะแนนเต็ม |
คะแนน เฉลี่ยทั้งหมด |
เกณฑ์ |
จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ |
ร้อยละ (%) |
จำนวนนักเรียน ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ |
ร้อยละ (%) |
|
คะแนน ที่ผ่านเกณฑ์ |
ร้อยละ (%) |
|||||||
23 |
30 |
22.74 |
21 |
70 |
18 |
78.26 |
5 |
21.74 |
ตารางที่ 2แสดงจำนวนนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70ในการทำแบบทดสอบวัดวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
8.วิจารณ์การใช้สถิติ
สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละเหมาะสมกับการวิจัยเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากความมุ่งหมายของการวิจัยได้ตั้งไว้ว่าต้องการให้มีจำนวนนักเรียนร้อยละ 70 ที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70ของคะแนนเต็มทั้งทักษะการคิดพื้นฐานและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สถิติร้อยละ (Percentage) เพื่อหาค่าร้อยละของจำนวนนักเรียนที่มีทักษะการคิดพื้นฐานและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่ความมุ่งหมายของการวิจัย (ข้อ 4)ได้ตั้งเอาไว้ส่วนการใช้ค่าเฉลี่ย (ArithmeticMean)เป็นสถิติที่ใช้กับข้อมูลที่อยู่ในมาตราอันตรภาคชั้น (IntervalScale)
อนึ่งในการใช้สถิติค่าเฉลี่ยจำเป็นต้องใช้คู่กับการหาสถิติค่าร้อยละ
การศึกษารายงานการวิจัยที่ใช้สถิติในการวิจัยเรื่องการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
1.ชื่อเรื่อง: การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่อง สิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2.ชื่อผู้วิจัย: ทนงศักดิ์ปัดสินธุ์
3.แหล่งที่มา: วิทยานิพนธ์ก.ศม.มหาวิทยาลัยขอนแก่นปี พ.ศ.2551
4.ความมุ่งหมายของการวิจัย
1.เพื่อพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2.เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เกิดจากการเรียนรู้ตามกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
3.เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
5.ขอบเขตของการวิจัย
1.กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนบ้านเทพปัญญาอำเภอกุมภวาปีจังหวัดอุดรธานีภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2550จำนวน 36 คน
2.เนื้อหาที่ใช้ในการสร้างหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวจะเน้นเนื้อหาในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมโดยบูรณาการแบ่งเป็นหน่วยย่อยในเรื่องของสิ่งแวดล้อมรอบตัวรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพย์ในดินแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์และอากาศอันบริสุทธิ์
3.การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ในครั้งนี้ดำเนินการตามแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
4.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระในแต่ละแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
5.ระยะเวลาที่ในการวิจัยดำเนินการในภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2550
6.สมมติฐานของการวิจัย
นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ตามกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในหน่วยการเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียน
7.สถิติที่ใช้ในการวิจัย
สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือค่าเฉลี่ยค่าร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และความเรียง
8. ผลการวิเคราะห์ด้วยสถิติ
1.ผลการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ผู้วิจัยได้พัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยบูรณาการเนื้อหาในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมและได้หน่วยการเรียนรู้ทั้งหมด 6 หน่วยการเรียนรู้จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ได้แก่
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1ประโยชน์คุณค่ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2ทรัพยากรธรรมชาติกับการอนุรักษ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3ป่ากับแนวทางการอนุรักษ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4ชนิดของดินและการอนุรักษ์ดิน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5การอนุรักษ์น้ำเพื่อการดำรงชีวิตในชุมชน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6อากาศกับการปฏิบัติตนในการดำรงชีวิต
ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในภาคผนวก(สำเนาเอกสารเรื่องการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6)
2.ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้เรียนรู้จากการเรียนรู้ตามกิจกรรมการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนได้ผลดังนี้
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจำนวน 36 คนก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01ดังตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 3แสดงคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
คนที่ |
คะแนนเต็ม (30) |
เฉลี่ยร้อยละ (%) |
||
ก่อน |
หลัง |
ก่อน |
หลัง |
|
1 |
20 |
26 |
67 |
87 |
2 |
15 |
24 |
50 |
80 |
3 |
16 |
21 |
53 |
70 |
4 |
14 |
20 |
47 |
67 |
5 |
15 |
25 |
50 |
83 |
ตารางที่ 3แสดงคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ต่อ)
คนที่ |
คะแนนเต็ม (30) |
เฉลี่ยร้อยละ (%) |
||
ก่อน |
หลัง |
ก่อน |
หลัง |
|
6 |
12 |
19 |
40 |
63 |
7 |
13 |
26 |
43 |
87 |
8 |
14 |
23 |
47 |
77 |
9 |
10 |
25 |
33 |
83 |
10 |
10 |
18 |
33 |
60 |
11 |
13 |
20 |
43 |
67 |
12 |
12 |
21 |
40 |
70 |
13 |
10 |
22 |
33 |
73 |
14 |
15 |
19 |
50 |
63 |
15 |
15 |
24 |
50 |
80 |
16 |
15 |
25 |
50 |
83 |
17 |
10 |
26 |
33 |
86 |
18 |
14 |
21 |
47 |
70 |
19 |
11 |
20 |
37 |
66 |
20 |
11 |
23 |
37 |
76 |
21 |
12 |
20 |
40 |
66 |
21 |
12 |
20 |
40 |
66 |
22 |
14 |
26 |
47 |
68 |
23 |
11 |
23 |
37 |
76 |
24 |
10 |
24 |
33 |
80 |
25 |
14 |
21 |
47 |
70 |
26 |
14 |
20 |
47 |
67 |
27 |
10 |
19 |
33 |
63 |
28 |
12 |
22 |
40 |
73 |
29 |
12 |
24 |
40 |
80 |
30 |
12 |
25 |
40 |
83 |
ตารางที่ 3แสดงคะแนนวัดผลสัมฤทธิ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ต่อ)
คนที่ |
คะแนนเต็ม (30) |
เฉลี่ยร้อยละ (%) |
||
ก่อน |
หลัง |
ก่อน |
หลัง |
|
31 |
14 |
20 |
47 |
67 |
32 |
13 |
19 |
43 |
63 |
33 |
14 |
21 |
47 |
70 |
34 |
16 |
23 |
53 |
77 |
35 |
13 |
24 |
43 |
80 |
36 |
14 |
23 |
47 |
76 |
|
ตารางที่ 4แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
การทดลอง |
n |
X |
S.D. |
t |
ก่อนการทดลอง |
36 |
13.06 |
2.19 |
18.77** |
หลังการทดลอง |
36 |
22.28 |
2.41 |
|
**มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
|
3.ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนพบว่าความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับ”มาก”(X= 2.60)โดยในด้านเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้นักเรียนเห็นว่าเนื้อหาเป็นที่น่าสนใจของผู้เรียนและน่าสนใจในการเรียนรู้เนื้อหามีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมในชุมชน(X= 2.92)ส่วนในด้านกะบวนการเรียนรู้นักเรียนและครูปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันอย่างสนุกสนานนักเรียนได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมในชุมชนโดยตรงและครูใช้กิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลากหลายและมีความน่าสนใจ(X= 2.92)
ตารางที่ 5แสดงความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ข้อที่ |
รายการ |
|
แปลความ |
|||
X |
S.D. |
|||||
ด้านเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ |
||||||
1 |
เนื้อหามีความง่าย เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน |
2.72 |
0.45 |
มาก |
||
2 |
เนื้อหามีความทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน |
2.67 |
0.48 |
มาก |
||
3 |
เนื้อหาเป็นที่น่าสนใจของผู้เรียนและน่าสนใจในการเรียนรู้ |
2.92 |
0.28 |
มาก |
||
4 |
เนื้อหามีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมในชุมชน |
2.92 |
0.28 |
มาก |
||
ด้านกระบวนการเรียนรู้ |
||||||
5 |
การนำเข้าสู่บทเรียนมีความสัมพันธ์กับเนื้อหา |
2.72 |
0.45 |
มาก |
||
6 |
การนำเข้าสู่บทเรียนมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์เดิมของนักเรียน |
2.47 |
0.51 |
มาก |
||
7 |
การนำเข้าสู่บทเรียนมีวิธีที่น่าสนใจ |
2.89 |
0.31 |
มาก |
||
8 |
นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นและแสดงออกอย่างอิสระ |
2.83 |
0.38 |
มาก |
||
9 |
นักเรียนและครูปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันอย่างสนุกสนาน |
2.92 |
0.28 |
มาก |
||
10 |
นักเรียนได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมโดยตรง |
2.92 |
0.28 |
มาก |
||
11 |
นักเรียนมีโอกาสได้ซักถามข้อสงสัยจากครูผู้สอน |
2.64 |
0.49 |
มาก |
||
12 |
ครูใช้กิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลากหลายและมีความน่าสนใจ |
2.92 |
0.28 |
มาก |
||
13 |
ครูใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างน่าสนใจ |
2.89 |
0.32 |
มาก |
||
14 |
กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียนร่วมมือกันเรียนรู้และทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม |
2.89 |
0.32 |
มาก |
||
15 |
การสรุปกิจกรรมและเนื้อหามีความน่าสนใจ |
2.89 |
0.32 |
มาก |
||
16 |
นักเรียนสามารถสรุปบทเรียนได้ด้วยตนเอง |
2.89 |
0.40 |
มาก |
||
ด้านการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ |
||||||
17 |
สื่อการเรียนรู้มีความน่าสนใจ |
2.81 |
0.44 |
มาก |
ตารางที่ 5แสดงความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้ เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ข้อที่ |
รายการ |
|
แปลความ |
|||
X |
S.D. |
|||||
18 |
สื่อการเรียนรู้มีความสัมพันธ์กับเนื้อหาที่เรียน |
2.75 |
0.44 |
มาก |
||
19 |
สื่อการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับวัยของนักเรียน |
2.81 |
0.40 |
มาก |
||
20 |
นักเรียนมีส่วนร่วมในการใช้สื่อการสอน |
2.81 |
0.40 |
มาก |
||
21 |
นักเรียนได้เรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ในชุมชน |
2.86 |
0.35 |
มาก |
||
ด้านการวัดและประเมินผล |
||||||
22 |
มีการวัดและประเมินผลจากสภาพจริงเช่นผลงานพฤติกรรมฯลฯ |
2.42 |
0.50 |
มาก |
||
23 |
นักเรียนมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล |
2.33 |
0.48 |
มาก |
||
24 |
นักเรียนได้เรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ในชุมชน |
2.42 |
0.50 |
มาก |
||
ด้านการนำความรู้ไป |
||||||
25 |
นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ในชีวิตประจำวัน |
2.64 |
0.49 |
มาก |
||
26 |
นักเรียนมีความภาคภูมิใจที่ได้เรียนหน่วยการเรียนรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเอง |
2.72 |
0.45 |
มาก |
||
27 |
นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้กับวิชาอื่น ๆ |
2.50 |
0.51 |
มาก |
||
ด้านเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ |
||||||
28 |
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละเรื่องมีความเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ |
2.17 |
0.38 |
มาก |
||
29 |
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนมีความเหมาะสมในแต่ละกิจกรรม |
2.22 |
0.42 |
มาก |
||
30 |
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละกิจกรรม |
2.14 |
0.35 |
มาก |
||
รวมค่าเฉลี่ย |
2.60 |
0.40 |
มาก |
9.วิจารณ์การใช้สถิติ
สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือค่าเฉลี่ยค่าร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและความเรียง
ความเหมาะสมของการใช้สถิติกับการวิจัยเรื่องดังกล่าวเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง(เฉพาะค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ)เนื่องจากหากใช้สถิติทางการวิจัยเฉพาะค่าเฉลี่ยค่าร้อยละและความเรียงก็สามารถตอบคำถามของวัตถุประสงค์ของการวิจัย (ความมุ่งหมายของการวิจัย)และสมมติฐานของการวิจัยได้แล้วเนื่องจากการหาค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละเป็นการเทียบตัวเลขจำนวนหนึ่งหรือหลายจำนวนกับตัวเลขจำนวนหนึ่งนั่นคือการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน(อนึ่งสถิติทั้งสองตัวนี้จำเป็นต้องใช้คู่กันเสมออีกประการหนึ่ง)ส่วนการใช้ความเรียงหรือเรียกว่าสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics)เหมาะสมกับการนำไปใช้ในความมุ่งหมายของการวิจัยข้อ 1)เพื่อพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6เพราะผู้วิจัยประสงค์พัฒนาหน่วยการเรียนรู้และหน่วยการเรียนรู้เป็นเรื่องของเนื้อหาของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจึงจำเป็นต้องใช้ความเรียงเป็นสถิติที่ใช้ในการวิจัยอีกตัว
ส่วนสถิติส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานทำให้มองเห็นการกระจายตัวของคะแนนก่อนและหลังการพัฒนา
บรรณานุกรม
คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. (2551).วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย = Statistical
Methods for Research. พิมพ์ครั้งที่ 4.กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์.
ทนงศักดิ์ปัดสินธุ์. (2551). การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมลำน้ำปาวโดยใช้แหล่ง
เรียนรู้ในชุมชนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสต
มหาบัณฑิตสาขาสิ่งแวดล้อมศึกษาคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ภูษิตบุญทองเถิง.(2536).การสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ศึกษาในระดับ
ประถมศึกษา.ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สหพรบุญสุข. (2551). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่อง
ทรัพยากรในท้องถิ่น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนแบบวัฎจักรสืบเสาะหาความรู้ 5
ขั้น (5Es). วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาหลักสูตรและการสอนคณะ
ศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สุชาจันทน์เอม.การวิจัยทางการศึกษา = Research in Education.กรุงเทพฯ : แพร่พิทยา, 2521.
ภาคผนวก
ข้อมูลส่วนตัวผู้รายงาน
ชื่อ - สกุล:นางกลิ่นแก้วลิวไธสง
วัน เดือน ปี เกิด:วันที่ 4เดือนธันวาคมพุทธศักราช 2515
วุฒิการศึกษา:ปริญญาตรีวิชาเอกบรรณารักษศาสตร์สถาบันราชภัฏนครราชสีมา
สถานที่ปฏิบัติราชการ:โรงเรียนบ้านสงเปือยฮ่องเดื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ขอนแก่น เขต 1
ที่อยู่ปัจจุบัน: โรงเรียนบ้านสงเปือยฮ่องเดื่อตำบลบึงเนียมอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นรหัสไปรษณีย์ 40000
หมายเลขโทรศัพท์ :08-6864-6865
E-mail :[email protected]
ศึกษาเพิ่มเติม : ปีการศึกษา 2556
รูปภาพผู้จัดทำรายงาน(นางกลิ่นแก้วลิวไธสง)
ไม่มีความเห็น