คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 3 rd Asia-Pacific Joint Conference on Problem-Based Learning (APJC-PBL) 2014 : Past, Present and Prospect ที่ภูเก็ตระหว่างวันที่ ๔ - ๗ ธันวาคม ๒๕๕๗
ผมได้รับเชิญไปพูด Keynote เรื่อง PBL as a Transformative Learning จึงนำ Narrated Ppt มา ลปรร. ที่นี่
ผมได้อยู่ร่วมการประชุมตลอดวันที่ ๕ และวันที่ ๖ ครึ่งวันเช้า ได้ความรู้มากมาย
ที่น่าสนใจคือ มีการใช้ PBL ในสาขาวิชา ด้านการแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ และจิตวิทยา
และการประยุกต์ใช้ PBL ก็ทำ ๒ แบบ คือแบบทำอย่างเป็นระบบ เป็นทางการ กับแบบมีคนอยากทำอยู่คนเดียว ทำเป็น pilot project ซึ่งแบบหลังนี้ก็จะหมดแรง ตายจากไปในที่สุด
ประเทศที่นำเสนอแล้วให้ความรู้มาก แม้กิจการ PBL ไม่เข้มแข็ง คือฟิลิปปินส์ เพราะผลการวิจัยของเขาพบว่า มี ๙ โรงเรียนแพทย์จากทั้งหมด ๔๐ แห่งที่เคยใช้ PBL และเวลานี้เหลือ ๖ แห่ง โดยเหตุผลของแห่งที่เลิกใช้ คือเพราะผลการสอบกลาง ของประเทศตกต่ำ และแห่งที่ชอบ PBL และใช้ต่อ ก็บอกว่าเพราะทำให้ผลการ ทดสอบกลางได้คะแนนสูงขึ้น ผมตีความว่า น่าจะเป็นเพราะ โรงเรียนแพทย์สองกลุ่มนั้น ใช้ PBL คนละแบบ คือให้ความหมายของ PBL ในทางปฏิบัติแตกต่างกัน
ข้อมูลของฟิลิปปินส์ บอกว่า ปัจจัยที่ไม่เอื้อต่อ PBL คือจำนวนนักศึกษาต่อชั้น ที่ใหญ่มาก โรงเรียนแพทย์ที่เคยใช้ PBL แล้วเลิกไปนั้นแห่งหนึ่งรับนักศึกษา ๕๒๕ คน อีกแห่งหนึ่ง ๔๐๐ คน
ออสเตรเลียมีโรงเรียนแพทย์ ๑๘ แห่ง กระแสการเปลี่ยนแปลงคือรับนักศึกษา เข้าเรียนจากคนที่จบปริญญาตรีแล้ว ที่เรียกว่า graduate entry มากขึ้น เวลานี้มี ๑๐แห่ง มีการเปลี่ยนจากหลักสูตร MB BS ไปเป็น MD ส่วน PBL มีการใช้ทุกโรงเรียนแพทย์ บางแห่งปรับไปเป็น CBL (Case-Based Learning) และบางแห่งใช้ SBL (Scenario-Based Learning) รวมทั้งเอา eLearning เข้ามาใช้ด้วย เขาบอกว่า Key Success Factor ของ PBL คือ (๑) ทำเป็นระบบ (๒) graduate entry (๓) ฝึกอาจารย์ ที่เขาเรียก tutor และผมคิดว่า เรียก facilitator น่าจะเหมาะกว่า ซึ่งทางเดนมาร์คก็เรียก facilitator
แพทยสภาออสเตรเลียกำหนดว่า Interprofessional Skills เป็นส่วนหนึ่งของ competency ที่ต้องประเมิน ในการ accredit หลักสูตรแพทย์ แต่จัดการฝึกอย่างไร ให้ได้ผลนั้น ยังต้องมีการวิจัย
หลักการที่ถูกต้องในสายตาของผมคือ ใช้ outcome-based, integrated curriculum คือตั้งเป้าว่าต้องการให้บัณฑิตมีสมรรถนะอะไรบ้าง และเอา PBL เข้าไปสนอง (ไม่ใช่เอา PBL เป็นตัวตั้ง) แล้วประเมินผลด้วย competency-based assessment โดยต้องมีระบบจัดการ ประเมินผลการดำเนินการ และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยที่วิธีการ PBL ก็ไม่หยุดนิ่ง มีการปรับตัว ดังกรณีประเทศออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ที่มาเล่าก็เอา eLearning และ Flipped classroom เข้ามาผสม เรียกว่า hybrid PBL ที่หมายความว่า ใช้ PBL ผสมกับวิธีสอนแบบเดิมด้วย
ท่านเสนอวิธีดำเนินการ PBL ๓ แบบ คือ (๑) แบบนำไปเสริมวิธีการแบบเดิม (add on strategy) (๒) วิธีการนำไปใช้อย่างบูรณาการเป็นระบบ (integration strategy) (๓) วิธีสร้างระบบขึ้นใหม่ (re-building strategy) ใช้ในกรณีสร้างสถาบันใหม่ (ดูรูปที่ ๖)
มีการนำเสนอ PBL ในสาขามนุษยศาสตร์ จากมาเลเซีย สาขาครุศาสตร์จากสิงคโปร์ และในวิชา General Education (นศ. คละคณะวิชา) จากไต้หวัน และฮ่องกง
ผมตีความว่า การนำ PBL มาใช้ ก็เพื่อบรรลุ 21 st Century Learning นั่นเอง และได้เสนอต่อ รศ. ดร. จุฑามาส ศตสุข รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษา ของมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ และต่อ รศ. นพ. สุธรรม ปิ่นเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ให้ตั้งหน่วยพัฒนาการเรียนการสอน (Teaching and Learning Development Center) มีเจ้าหน้าที่ประจำระดับปริญญาโท หรือเอก ส่งคนไปเรียนต่อต่างประเทศ และทำงานร่วมมือกับต่างประเทศ
ผมเชื่อว่าหน่วยงานในทำนองนี้ในมหาวิทยาลัย จะมีส่วนช่วยฟื้นฟูคุณภาพ การศึกษาพื้นฐานด้วย
และที่สำคัญ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กำลังจะเปิด หลักสูตรแพทยศาสตร์แบบใหม่ที่จังหวัดตรัง เป็นหลักสูตร community-based คือมีฐานการฝึกปฏิบัติทางคลินิกในโรงพยาบาลชุมชนเป็นหลัก ผมเสนอให้ จัดการเรียนแบบ PBL แนว re-building strategy
ผลลัพธ์ของการศึกษา ๓ ด้าน |
ต้องบรรลุผลลัพธ์ขั้นสูงตาม Bloom Pyramid ทั้ง ๓ ด้าน |
ลักษณะของ PBL คือ 6S |
ห้าขั้นตอนของ PBL |
วิธีนำเสนอ PBL อีกแบบหนึ่ง |
วิธีนำ PBL ไปใช้ ๓ แบบ |
วิจารณ์ พานิช
๖ ธ.ค. ๕๗
ไม่มีความเห็น