Reset 2558 : เทศกาลแห่งชีวิต ณ ชาโต เดอ จีมานอม


การนั่งสมาธิในป่าศักดิ์สิทธิ์ และนอนเต้นท์ในป่าช้าเมื่อคืนนี้ ทำให้ผมภาวนาก้าวหน้าจากเดิมได้อย่างมีนัยสำคัญ หนอ


เสาร์ - อาทิตย์ ที่ 17-18 ม.ค. 58 นี้

เป็นวันหยุดที่ดีและมีความหมายมากครับ

กล่าวคือ เป็นช่วงเทศกาลแห่งชีวิต ณ ชาโต เดอ จีมานอม จ.มุกดาหาร

ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 15 และเป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางไปร่วมงานได้สำเร็จ

ทั้ง ๆ ที่ตั้งท่าตั้งทางมากว่า 3 ปีแล้ว หนอ


ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ผมค่อย ๆ เดินทางออกจากมหาสารคาม มุ่งตรงสู่ จีมานอม จ.มุกดาหาร

ขับรถช้า ๆ ชิว ๆ สบาย ๆ และมองข้างทางเป็นระยะ เพื่อหาของฝากที่เป็นของพื้นถิ่นจริง ๆ

ไปฝากกัลยาณมิตรธรรมที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ


กองทัพเดินด้วยท้องผมจึงตัดสินใจ เอาพุทราสด ๆ จากไร่ไปฝากกระสอบใหญ่ ๆ ครับ 555


ด้วยความไม่รีบร้อนเพราะทราบดีว่า จะมีพิธิเปิดอย่างเป็นทางการตอนเย็น ๆ

ผมจึงวางแผนการเดินทางว่า จะทานข้าวเย็นก่อนจึงจะเดินทางเข้าไปร่วมพิธีในวัด


ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปในเส้นทางที่ผมไม่เคยไป

ทั้งนี้เพื่อสำรวจเส้นทาง ดูวิถีชุมชนไปในตัว หนอ



(ท่านที่เน้นสาระให้ลัดไปอ่านตอนท้ายบันทึกนะครับ
เพราะผมจะลัดไปเขียนสาระตอนท้ายก่อน แล้วค่อยกับมาอารัมภบทตรงนี้ไปเรื่อย ๆ 555)



ผมเดินทางไปถึงช่วงเวลาปฐมนิเทศน์เปิดเทศกาลแห่งชีวิต ครั้งที่ 15 พอดี

เป็นพิธีการเปิดที่กระชับโดยท่านเจ้าคณะตำบลและท่านเจ้าอาวาส






การนั่งสมาธิในป่าศักดิ์สิทธิ์ และนอนเต้นท์ในป่าช้าเมื่อคืนนี้

ทำให้ผมภาวนาก้าวหน้าจากเดิมได้อย่างมีนัยสำคัญ หนอ


หรือ อาจจะเพราะได้มีการบ่มใจไปตลอดการเดินทางกว่า 3 ชั่วโมงด้วยก็เป็นได้

หรือ อาจจะเพราะได้พบพระอาจารย์ และกัลยาณมิตรธรรมก็เป็นได้

หรือ อาจจะเพราะ เป็นคืนแรกที่ผมนอนก่อน 4 ทุ่มก็เป็นได้

หรือ อาจจะเป็นเพราะ นิทานเซน เรื่อง พระโปลิตะ ก็เป็นได้


หลังจากทำวัตรเย็น พระอาจารย์ท่านก็เทศนาธรรมพร้อมกับให้นั่งสมาธิต่อ

เมื่อจิตใจลูกศิษย์ลูกหาเริ่มปรับได้ที่แล้ว ท่านก็เล่านิทานเซน เกี่ยวกับ พระใบลานเปล่า

ผมเดาว่า เพื่อยกระดับ Reset ด้วยความรู้สึกทางกาย ไปสู่การ Reset ด้วยใจ ?


อาจจะเพราะความอ่อนเพลียและความหนาวจของอากาศ

ประกอบกับความสุขที่นาน ๆ ได้มีโอกาสนอนเต้นท์ในป่าช้าอย่างสมรรถะก็เป็นได้

จิตใจผมโล่งโปร่งสบายตั้งแต่นั่งสมาธิ สังเกตุเห็นว่า เข้าภวังค์ถึง 2 ครั้ง

ห่วงว่า จะเผลอหลับไปโดยเร็ว จึงตัดสินใจเลือกปฏิบัติตามตำนานนิทานเซน

คือ ปิดอายตนะกายทั้ง 5 (หู ตา จมูก ลิ้น กาย) แต่เปิดเพียงอายตนะเดียว คือ ใจ

หลังจากนั้นก็เป็นการตามดู ตามรู้ "ใจ" ทั้งคืน หนอ


อาจเพราะความเหนื่อย ผมเผลอเช้าภวังค์ไปพักใหญ่ ๆ

พอออกจากภวังค์แล้ว คราวนี้ สงสัยใจมันพักไปด้วย

ดูเหมือนใจ จะวิ่งช้าลง ผมสังเกตุเห็นว่า ผมเริ่มจะตามเจ้าใจทันบ้างแล้ว

มีความรู้สึกที่เท้า เจ้าใจมันก็ตามไปรู้ ได้ยินเสียงนก เสียงหนู เจ้าใจมันก็ตามไปรับรู้

แต่การรู้ในห้วงเวลานั้น มันไม่ปรุงแต่งต่อ ถ้าจะปรุ่งแต่งต่อก็เพราะผมตั้งใจจะปรุง

ปรุงแล้วก็วาง

จึงทดลองพิจารณาแยกธาตุ แยกขันธ์ดู คราวนี้ใจมันจนมุมแล้ว

มันเริ่มอายบ้างแล้ว เพราะคืนนั้น ตามมันทันทุกอย่าง หนอ






Morning dhamma talk ผมไม่รอช้าที่จะยิงชุดคำถามอันเป็นผลการปฏิบัติเมื่อคืนนี้

สอบถามพระอาจารย์ เหมือนท่านจะรู้ใจรีบจัดหนักแบบทันควัน

ผมย่อยแล้วย่อยอีก รับเอาเต็มท้อง เต็มพุง

จนต้องรีบแจ้งพระอาจารย์ไปว่า ฝึกถึงตรงนี้ครับ ถ้าท่านอรรถาธิบายต่อไป คงรับเอาไม่ไหวแน่

จึงโยนเข้าวงสนทนาให้เพื่อน ๆ ช่วยย่อย หนอ 555



แชร์ประสบการณ์ธรรม


...


หมายเลขบันทึก: 584144เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2015 23:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม 2015 00:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สาธุๆ

ได้เรียรู้ไปกับอาจารย์ด้วย

ขอบคุณมากๆครับ

ยินดีครับ สาธุ สาธุครับอาจารย์

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท