นโยบายของผู้บริหารมหาวิทยาลัย ในการปรับปรุงหลักสูตรวิชาศึกษาทั่วไป (หลักสูตรปรับปรุง ๒๕๕๘) ส่วนหนึ่งเพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำด้านมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชนและสังคมโดยการบูรณาการการเรียนการสอนกับโครงการ ๑ หลักสูตร ๑ ชุมชน และอีกส่วนหนึ่งคือการเตรียมความพร้อมด้านภาษาสู่การเปิดมีส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๒ ประการ ประชาคมอาเซียนจึงมีการปรับโครงสร้างหลักสูตรใหม่ ดังนี้
๑) ปรับให้มีรายวิชา "๑ หลักสูตร ๑ ชุมชน" เป็นรายวิชาบังคับให้นิสิตทุกคนต้องเรียน โดยเปิดโอกาสให้คณะ-วิทยาลัยต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนร่วมกันเพื่อให้เกิดการบูรณาการกับโครงการ ๑ หลักสูตร ๑ ชุมชน อย่างเหมาะสม
๒) ปรับให้มีรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับวิชาชีพ เป็นวิชาเลือก โดยเปิดโอกาสให้คณะต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับการจัดการเรียนการสอนเช่นกัน ทั้งสองประเด็นนี้ถือเป็นนโยบายจากผู้บริหารมหาวิทยาลัย ที่ต้องนำไปปฏิบัติต่อไป ...
อย่างไรก็ดี... แม้จะมีหลักสูตรดีอย่างไรก็ตาม แต่หากกระบวนการเรียนรู้ไม่ดี การจะสร้างบัณฑิตที่เป็นคนสมบูรณร์หรือเป็นคนดีนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ
ถ้าวิเคราะห์จากเกณฑ์ประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอก จะพบตามลำดับดังนี้ว่า
หัวใจสำคัญของการจัดการเรียนการสอนโดยรายวิชาศึกษาทั่วไปคือ การจัดการเรียนการสอน ซึ่งจะมีคุณภาพไม่ได้เลย ถ้า "อาจารย์ไม่ได้สอน" หรือ "ไม่ตั้งใจสอน" หรือ "สอนแบบเดิมๆ โดยใช้ตนเองเป็นศูนย์กลาง" คำถามคือ สำนักศึกษาทั่วไป มีระบบหรือกลไกในการตรวจสอบหรือประเมินผลอาจารย์ผู้สอนอย่างไรหรือไม่....
คำตอบ... ที่มีผู้ทำสำเร็จแล้วคือ สร้างระบบติดตามและระบบฐานข้อมูลบันทึกการเข้าสอนของอาจารย์โดยใช้เจ้าหน้าที่ของคณะฯ ... อย่างไรก็ดี ผมคิดว่าวิธีนี้ไม่น่าจะให้ผลดีต่อการพัฒนาในระยะยาวสำหรับรายวิชาศึกษาทั่วไป เว้นแต่จะทำการสำรวจไปยังนิสิตโดยตรง หรือตัวแทนนิสิต โดยอาจารย์ผู้สอนเองก็ต้องยอมรับก่อนจะมีระบบติดตามนี้
แนวคิดของผู้บริหารสำนักศึกษาทั่วไปขณะนี้คือสร้างเครือข่ายและความร่วมมือของอาจารย์ผู้สอน คณะ/สาขา/วิทยาลัย ให้ทุกคนเข้าใจบทบาทของสำนักศึกษาทั่วไป ที่จะเน้นเป็นผู้ประสานงานกลาง เป็นผู้เอื้ออำนวยการให้อาจารย์ผู้สอนซึ่งควรเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาทั่วไป สามารถร่วมกันพัฒนาและออกแบบแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภายใต้นโยบายของผู้บริหารมหาวิทยาลัย
ไม่มีความเห็น