กรณีศึกษาสิทธิของชาวเขาซึ่งไม่รู้ภาษาไทยในล่ามที่ยืนยันโดยศาลฎีกาใน ฎ.๓๙๓๙/๒๕๕๔
------------
ข้อสังเกต
------------
ศาลฎีกาใน ฎ.๓๙๓๙/๒๕๕๔ ยืนยันสิทธิของชาวเขาซึ่งไม่รู้ภาษาไทยในล่ามเพื่อกระบวนการสอบข้อเท็จจริงก่อนกระบวนการในศาล
จะเห็นว่า ศาลนี้เห็นด้วยว่า มนุษย์จึงทรงสิทธิในความช่วยเหลือทางกฎหมาย การอ้างไม่ยอมรับฟังชาวเขาที่ได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากบุคคลอื่นโดยอำเภอ ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแน่นอน เราพบว่า มีชาวเขามากมายตามแนวชายแดนและพื้นที่ห่างไกลที่มีปัญหากฎหมายมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อมีการเข้าไปให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ชาวเขาดังกล่าว ก็มีการต่อต้านจากอำเภอบางอำเภอ โดยการแสดงท่าทีว่า หากเป็นชาวเขาที่มีบุคคลภายนอกเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว ก็จะไม่น่าเชื่อถือ และที่น่าแปลกไปกว่านั้น ก็คือ อำเภอดังกล่าวเองก็จะไม่สนใจให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเขาเหล่านั้น จะเห็นว่า ท่าทีของศาลฎีกาใน ฎ.๓๙๓๙/๒๕๕๔ จึงเป็นการยืนยันความถูกต้องแก่คนด้อยโอกาส เป็นการรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมทางสังคมแก่คนยากไร้ในเขตพื้นที่สูงของประเทศไทย
-------------------------------------------------------------------------
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3939/2554
พนักงานอัยการจังหวัดฝาง โจทก์
นายอ้ายจาย ไม่มีชื่อสกุล จำเลย
ป.วิ.อ. มาตรา 13, 134/4
จำเลยเป็นชาวเขาเผ่าว้าไม่เข้าใจภาษาไทยและต้องสื่อสารกันด้วยภาษามือ กับจำเลยต้องเบิกความผ่านล่าม เชื่อว่าจำเลยไม่รู้และเข้าใจภาษาไทย การที่พันตำรวจโท ช. สอบปากคำจำเลยโดยไม่ได้จัดหาล่ามแปลให้จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 13 จึงยังถือไม่ได้ว่า จำเลยเข้าใจข้อหาและให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ถ้อยคำรับสารภาพของจำเลยจึงไม่สามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 134/4
________________________________
( ประเสริฐ โอนพรัตน์วิบูล - นิยุต สุภัทรพาหิรผล - วิรุฬห์ แสงเทียน )
ศาลจังหวัดฝาง - นายคณากร เพียรชนะ
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 - นางศุภลักษณ์ พิชญเวคิน
ไม่มีความเห็น