น้ำตาจะไหล


พวกเรา 3 คนพี่น้องผ่านวิกฤตต่างๆเพราะอาจารย์จรรยา ธนะนิมิตร เป็นคนแนะนำไม่ว่าจะเรื่องเรียน รายได้ การดำเนินชีวิต และสอนให้รู้ความอดทน หน้าที่ของลูกไม่ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นอย่างไร อาจารย์ยังคงปลอบใจและรับฟังปัญหาต่างๆอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ อาจารย์ยังสอนให้มีจิตอาสาเอื้ออาทร และช่วยเหลือคนอื่นๆทำให้เกิดการปลูกฝังดิฉันแห่งความเมตตาทำให้ งานที่เลือกทำเป็นงานด้านพยาบาลและการสาธารณสุข คอยช่วยผู้อื่น ส่วนน้องสาวคนที่ 2 ก็สามารถเลี้ยงลูกตนเองได้ และสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ ปัจจุบันเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการขยายร้านบะหมี่ของพ่อตามที่ตนเองจบการตลาดมา ตั้งแต่ปี2540 ถึง ปัจจุบัน อาจารย์ยังคงอยู่กับลูกศิษย์แบบนี้และยังคงสร้างสรรค์เด็กรุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง.....

ร้านบะหมี่ตาต๋อง ส่งลูกเรียนจนจบปริญญาโท

https://www.facebook.com/tong.chinese.noodle

ร้านบะหมี่ตาต๋อง


ในปี 2540 ดิฉัน นางปิยภัทร บุญสำเร็จ (ชื่อเดิม นางสาวประครองศรี ชุ่มดี) ได้สอบเข้าเป็นนักเรียนชั้น ม.ปลาย สายวิทย์ - คณิต ของโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ในปีนั้นเป็นปีที่เปลี่ยนเครื่องแบบนักเรียนใหม่ และหนังสือใหม่ ไม่รู้โชคดีหรือร้ายในตอนนั้นที่ได้อยู่ห้อง2ซึ่งเป้นห้องแถวหน้าของเด็กเก่ง แต่ก็ต้องเรียนเสริมเพิ่มเติมหลายตัว ทำให้เมื่อเปิดเทอมในช่วงแรก ดิฉันนั่งหน้าเศร้าเพราะไม่กล้าถามในสิ่งที่ไม่รู้เพราะเพื่อนๆคนอื่นๆในห้องตอบคำถามได้เกือบทั้งหมด และไม่ได้เรียนกวดวิชาเหมือนเพื่อนๆทำให้ยิ่งตามไม่ทัน พอเข้าไปขอเงินพ่อและแม่เพื่อไปเรียนกวดวิชา ผลที่ได้รับคือ ไม่มีเงินถ้าเรียนไม่รู้เรื่องก็ถามครูสิ ตอนนั้นดิฉันมืดแปดด้าน ไม่ใช่ไม่ตั้งใจเรียนแต่ตีโจทย์ไม่ทัน เพื่อนๆในห้องเรียนพิเศษเกือบทุกคน เมื่อพ่อแม่ไม่มีเงินให้กวดวิชา เลยต้องหารายได้พิเศษ ในตอนนั้นเอง อ.จรรยา ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ได้ชักชวนให้ทำงานพิเศษเป็นการทำความสะอาดห้องเรียนเพื่อใช้สอบบรรจุ ของข้าราชการ ก.พ. ในตอนเย็นวันศุกร์และเสาร์ – อาทิตย์ โดยได้รายได้สัปดาห์ละ 250 บาท สามารถเก็บหอมรอบริบเป็นค่าเรียนพิเศษและสามารถนำเงินให้แม่เก็บเป็นค่าดอกเบี้ยส่งอาบังปล่อยเงินกู้ที่ตลาดได้ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าจะทำงานนี้ได้ถูกเพื่อนผู้ชายขู่ว่าจะทำได้เหรอตัวเล็กแค่นี้ แต่สุดท้าย อ.จรรยา ก็ให้กำลังใจว่า แค่มีใจที่จะทำ ขยันซะอย่างอะไรก็ทำได้ นอกจากนั้น อาจารย์ยังชวนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ กศน.ที่ โรงเรียนสันติราษฎร์ ทำหน้าที่ขายแบบเรียน รับโทรศัพท์ และจัดสนามสอบ ได้รายได้อีกเดือนละ พันกว่าบาท ทำให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้สามารถนำเงินไปให้แม่ในวันที่ถูกเจ้าหนี้ทวงค่าหมู(ที่บ้านทำร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง)ได้ทันเวลาพอดี แต่เมื่อหาเงินมาได้ก็ต้องจ่ายค่าหนี้พ่อและแม่ที่อยู่ในตลาดสดกิ่งเพชร เมื่อใกล้เทอม 2 ก็เริ่มไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมอีกเช่นเคย ตอนนี้ได้แต่แอบร้องไห้ พอดี อ.จรรยา ไปคุยกับพ่อแม่และหาทางช่วยเหลือครอบครัว เลยไปติดต่อกับฝ่ายแนะแนว ทำเรื่องขอทุนเรียน กยศ.ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ และอาจารย์ยินดีที่จะรับรองรายได้ของพ่อและแม่ เนื่องจากอาจารย์ทราบรายละเอียดทั้งหมดอย่างลึกซึ้ง ทำให้ไม่ต้องไปเสียค่านายหน้าเหมือนคนอื่นๆเขา ดิฉันทำงานหลังเลิกเรียนและวันหยุดกับ อ.จรรยา ตั้งแต่ ม.4 – ม.6 จนสามารถสอบติดคณะพยาบาล ที่ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ได้ นอกจากนี้ยังพ่วงด้วยตำแหน่งนักเรียนเยาวชนดีเด่นของประเทศไทยด้วย ด้านการหารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัว โดย อ.จรรยา สอนให้รู้จักการเข้าใจและประยุกต์ไม่ใช่การท่องจำ เมื่อใกล้สอบก็ไล่ไปอ่านหนังสือ

นอกจากนี้ดิฉันยังขออนุญาต อ.จรรยา พาน้องสาวคนกลาง ชื่อ อาภาพร ชุ่มดี มาทำงานแบบเดียวกันกับที่ดิฉันทำอยู่ ทำให้พ่อและแม่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำงานของเรา 2 คนพี่น้อง และยังแนะนำให้น้องสาวดิฉันไปติดต่อที่แผนกทุนเพื่อขอรับทุน กยศ. ทุนนี้ทำให้ดิฉันสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้อย่างไม่ขัดสน และยังทำให้ดิฉันได้งานตั้งแต่ยังไม่จบปริญญา 4 ปี เนื่องจากประวัติการทำงานที่ อ.จรรยา แนะนำให้ทำและเทคนิคการประสานงานที่โดดเด่นกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน รวมทั้งงานแบ่งเวลาให้เป็น ทำให้ดิฉันภาคภูมิใจมาก เพราะก็ที่ดิฉันจะมาเรียนที่ ร.ร.สันติราษฎร์ ดิฉันเคยท้อแท้เรื่องการเรียนจนถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย พ่อที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้ลูก แม่ที่คอยแต่จะด่าลูกว่าให้ตั้งใจเรียนแต่ไม่เคยส่งเสริมเรื่องเวลาในการทำการบ้าน(คุณแม่ดื่มเหล้าทุกวัน)ทำให้ดิฉันไม่มีที่พึ่งไม่รู้จะไปพึ่งใคร โรงเรียนเป็นที่เดียวที่ดิฉันรู้สึกปลอดภัย จากวงเหล้าของแม่ และ

อ.จรรยา เป็นคนเดียวที่รับฟังปัญหาของดิฉันแล้วไม่นิ่งดูดายคิดหาทางแก้ปัญหาให้ลูกศิษย์เสมอและเป็นคนไปเจรจากับพ่อแม่ให้มาทำงานรวมทั้งการันตี ความประพฤติของดิฉันหากวันใดกลับดึก อ.จรรยา จะมาส่งที่ปากซอยและจะโทรศัพท์มาบอกพ่อแม่ด้วย นอกจากนี้น้องสาวคนที่ 2 ของดิฉันสร้างปัญหาใหญ่ให้กับทางบ้านและโรงเรียน คือ การท้องในช่วงทีกำลังเรียน ซึ่งตอนนั้นดิฉันได้ปรึกษาอาจารย์และขอคำแนะนำ คือ อาจารย์ให้สอบจนจบและไม่แนะนำให้ทำแท้งจนกระทั่งน้องคลอดลูก อาจารย์แนะนำให้เรียนที่ ม.รามคำแหง ตอนนี้น้องสาวดิฉันจบปริญญาตรีการตลาด 4 ปี และสามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆได้โดยมีอาจารย์เป็นกำลังใจ เมื่อน้องสาวคนที่ 3 ชื่อ เกศสุดา ชุ่มดี ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนี้และได้มาทำงานพิเศษกับอาจารย์เช่นเดียวกัน ปัจจุบันนี้ น้องสาวคนเล็กสอบติดคณะสาธารณสุข ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ พวกเรา 3 คนพี่น้องผ่านวิกฤตต่างๆเพราะอาจารย์จรรยา ธนะนิมิตร เป็นคนแนะนำไม่ว่าจะเรื่องเรียน รายได้ การดำเนินชีวิต และสอนให้รู้ความอดทน หน้าที่ของลูกไม่ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นอย่างไร อาจารย์ยังคงปลอบใจและรับฟังปัญหาต่างๆอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ อาจารย์ยังสอนให้มีจิตอาสาเอื้ออาทร และช่วยเหลือคนอื่นๆทำให้เกิดการปลูกฝังดิฉันแห่งความเมตตาทำให้ งานที่เลือกทำเป็นงานด้านพยาบาลและการสาธารณสุข คอยช่วยผู้อื่น ส่วนน้องสาวคนที่ 2 ก็สามารถเลี้ยงลูกตนเองได้ และสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ ปัจจุบันเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการขยายร้านบะหมี่ของพ่อตามที่ตนเองจบการตลาดมา ตั้งแต่ปี2540 ถึง ปัจจุบัน อาจารย์ยังคงอยู่กับลูกศิษย์แบบนี้และยังคงสร้างสรรค์เด็กรุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง


ใครคือครู ครูคือใครในวันนี้ ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล ใช่อยู่ที่เรียกว่า ครูอาจารย์ ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้สร้างงาน ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์ มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ใหญ่ยิ่ง สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง สร้างคนให้ได้เป็นตัวของตัวเอง ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู

ที่มา : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นักเขียนซีไรท์ (The S.E.A.Write Award)

หมายเลขบันทึก: 583041เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2014 13:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ธันวาคม 2014 23:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท