บันทึกที่ 15 25 พฤศจิกายน 2557
วันนี้ดิฉันได้มาสอนชั้น ป.5 พอดีดิฉันเช็คชื่อนักเรียนมีคนขาดไป 1 คน เป็นเด็กนักเรียนชาย นักเรียนในห้องบอกว่าเพื่อนเขาโดนไล่ออกจากโรงเรียนแล้วค่ะ ดิฉันก็ก็ถามว่าโดนไล่ออกเพราะอะไร นักเรียนก็เล่าให้ฟังว่า นักเรียนคนนี้เขาไปขโมยเงินของครู ซึ่งเป็นเงินของทางโรงเรียน ดิฉันก็แปลกใจขโมยเงินถึงกับต้องไล่ออกเลยหรอ นักเรียนจึงตอบว่าครูครับเพื่อนผมเขาขโมยเงินไปตั้ง 20,000 บาท นะครับ ดิฉันถึงกับตกใจเด็ก ป.5 เนี่ยน่ะทำไมถึงขโมยเงินครูมากมายได้ขนาดนั้น นักเรียนเล่าให้ฟังว่าเพื่อนเขาเป็นคนที่น่าสงสารมาก เป็นครอบครัวที่มีปัญหา ตอนที่เขาถูกจับได้เขาได้ใช้เงินไปมดแล้ว ทางโรงเรียนก็เลยไล่เขาออกจากโรงเรียน ดิฉันก็ไม่รู้ว่าความผิดครั้งนี้เป็นความผิดของใครกันแน่ เพราะถ้าครูรู้จักเก็บเงินให้ปลอดภัย และมิดชิดกว่านี้เงินก็คงจะไม่หาย แต่อีกแง่มุมหนึ่งถ้าพ่อแม่รู้จักดูแลเอาใจใสให้ความรักมากกว่านี้ สั่งสอนในทางที่ถูกเด็กก็คงไม่กล้าทำในเรื่องแบบนี้...
ดิฉันเข้าใจว่าโรงเรียนเป็นสถานที่กล่อมเกลานิสัยเด็ก ให้เป็นเด็กดี เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี จึงรู้สึกแปลกใจที่โรงเรียนไม่ให้โอกาสเด็ก ไม่กล่อมเกลาเด็ก .. บันทึกนี้ให้ข้อมูลน้อยมากจนไม่สามารถวิเคราะห์อะไรได้เลย ดิฉันขอแนะนำกว้างๆ เป็นแนวทางในการดูแลเด็กๆ ที่ยังอยู่ในความดูแลนะคะ
1. คุณครูควรปรับแนวคิดใหม่ มองเด็กอย่างเข้าใจ พร้อมให้โอกาส .. เด็กจะทำผิดพลาดอย่างไรก็ให้นึกว่า การกระทำที่ไม่เหมาะสมของเด็กนั้นเป็น 'สัญญาณ' ร้องขอความช่วยเหลือ' เด็กๆ เหล่านี้คือผู้ได้รับผลกระทบทางลบจากสังคมค่ะ
2. มองหาพันธมิตร ร่วมมือกันดูแลช่วยเหลือเด็กและครอบครัว .. มีหน่วยงานราชการและมูลนิธิหลายแห่งที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ .. ขอนะคะ ขออย่าผลักไสเด็กๆ ที่น่าสงสารเหล่านี้ให้จมลึกลงในเงามืดของสังคมมากขึ้นจนเกินเยียวยาเลย เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการ "สร้างความเข้าใจ" แล้ว "ให้โอกาส" นะคะ
สวัสดีค่ะคุณ ดารนี ชัยอิทธิพร
เห็นด้วยค่ะ กับความคิดที่ว่า ควรให้โอกาสเด็ก ดิฉันเป็นครูฝึกประสบการณ์ การที่ได้ข้อคิด คำแนะนำที่ดีแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ