แปลงกายเป็น..คุณแม่ลูก 4


สวัสดีค่า..ห่าง.....หาย.....กันไปนานเลยเนาะ อันที่จริงไม่ใช่ไม่มีเรื่องมาแบ่งปันกัน มีเยอะเลยทีเดียว ด้วยหลายเหตุหลายปัจจัยก็ทำให้ต้องห่างและหายกันไป มันหลายเหตุผลเนาะ หลัง ๆ ไม่ค่อยจะแบ่งปันเรื่องลูกตัวเอง เพราะเจ้าตัวไม่อนุญาต555 แม่เลยต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของลูก

กลับมาคราวนี้เป็นเรื่องราววุ่น ๆ ชวนปวดหัว กับการสวมบทบาทสมมุตเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก 4 คน จริง ๆ บทนี้ก็เล่นมาหลายครั้งเหมือนกันนะคะ แต่ไม่เร้าใจจนอยากแบ่งปันเท่าครั้งนี้ มาแนะนำลูก ๆ ทั้ง 4 กันเลยดีกว่าขอไม่ใช้ชื่อจริงเนาะ

ลูกสาว1 คนที่1 ตาคม ผมยาวและหยิก อายุ 9 ขวบ ฉลาด(แกมโกง)มีไหวพริบ ยืดหยุ่นเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย ขี้งอน เอาแต่ใจ มีความเป็นผู้นำสูง ชอบเรียนรู้ ชอบศิลปะ กีฬา ช่างพูด ช่างคิด มีความอดทนและพยายามดีที่เดียว (แม่แท้ ๆ ดุ เข้ม โดยเฉพาะเรื่องการเรียนมาก ไม่ได้ดั่งใจมีแจกขนมเปี๊ย คุณแม่ใจร้อนเจ้าอารมณ์ แต่มีพ่อใจดีมาก )

ลูกชาย1 คนที่ 2 เด็กชายเจ้าเนื้อ บึกบึน อายุ 7.8 ขวบ เป็นเด็กยืดหยุ่นเช่นกัน เป็นคนง่าย ๆ อะไรก็ได้ เรื่องกินเรื่องใหญ่ ซื่อ ๆ มีน้ำใจ รักพวกพ้อง อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ค่อยจะทันคนสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็มักยิ้มได้เสมอ กระทั่งตอนจมน้ำก็ยังยิ้ม (แม่แท้ๆ รักและดูแลลูกในเรื่องอาหารการกินดีมาก ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกเท่าไหร่ แต่ใจเต็มร้อย เวลาแม่อารมณ์ขึ้นก็มีหยิก ตี ดุ ตวาด พ่อขยันหาเงินจนแทบไม่มีเวลาได้เห็นหน้ากันแต่รักลูกมาก มีแอบชดเชยความรักด้วยการซื้อของเล่นให้ ขนมฯลฯ เท่าที่พอจะหาซื้อได้มาให้ลูก)

ลูกชาย2 คนที่3 ตาตี่แก้มป่อง ขาวผ่อง อายุ 7.5 ขวบ ฉลาดเฉลียวเลี้ยวเลาะไปเรื่อย ช่างพูด ช่างคิด ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นยาก ใจร้อน เอาแต่ใจ แต่หากมีเหตุผลมากพอ ก็ต่อรองกันได้ ชอบเป็นที่หนึ่ง แต่ไม่ค่อยมีความอดทนและพยายามสักเท่าไหร่ แอบขี้อาย แต่เก็กหน้าเอาไว้ เลยดูคล้ายจะแข็งๆ ไม่ชอบก้มหัวให้ใครง่าย ๆ (ไม่ค่อยจะยอมยกมือไหว้ใครง่าย ๆ ถ้าไม่รู้จักจริง ๆ ) คนนี้ลูกชายแม่ดาวเอง พ่อเขาจะเจ้าระเบียบ จุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น เป็นผู้ชายที่รักและรัดครอบครัวมาก เป็นประเภท รักนะ แต่ดูแลไม่่ค่อยจะเป็น 5555 แอบนินทาสามีอีกล่ะ

ลูกชาย3 คนที่4 ตาตี่ ตี๋ขาว ผมหยักศก อายุ 3.8 ขวบ เด็กไทย 2 ภาษา ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่ายมาก ร่าเริง ยิ้มเก่ง เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เก็บความรู้สึกเก่ง เอาแต่ใจตามวัย (รายนี้แรก ๆ คุณแม่ดูแลเลี้ยงดูมาเอง เพิ่งไปทำงานได้ไม่นาน หลัง ๆ มีปัญหาหลายอย่างทำให้เกิดรอยร้าวบางอย่างในใจเจ้าตัวน้อยรายนี้)

ลูก ๆ 4 คนมักจะมารวมตัวกันวันหยุด หากมารวมพลกันที่บ้านก็ไม่เท่าไหร่ ทุกปัญหาจัดการได้ไม่ยากนัก แม่เองก็ทำใจ เข้าใจได้ไม่ยากเย็น แต่หากออกนอกบ้าน แม่ 1 ลูก 4 นี่ปัญหาเกิด หลายอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ต้องพยายามเข้าไปควบคุมดูแล ก่อนออกนอกบ้านมีการวางแผน คุยทำความเข้าใจกันแล้วว่า เราจะไปที่ไหน ทำอะไร อย่างไร เมื่อไหร่กลับ แต่พอออกนอกบ้านจริง ๆ เฮ้อ...แม่นี่เพลีย

ล่าสุดหลังจากที่แยกย้าย ห่างหายกันไปนาน เนื่องจากปิดเทอม มีการอพยพกลับไปต่างจังหวัดชั่วคราว พาลูกไปคลุกดิน ชุบโคลน ฟอกปอด กลับมารอบนี้เลยเหมือนมีช่องว่างระหว่างกันเล็กน้อย เพราะแต่ละคนก็จะได้รับการเลี้ยงดูแตกต่างกันไปเนาะ มีวิถีชีวิตของตัวเอง หลังจากที่เล่นกันที่บ้านพอสมควร อยู่บ้านเล่นเกมส์มือถือบ้าง ดูทีวีบ้าง เล่นตัวต่อบ้าง ฯลฯ ก็คิดว่า ต้องพาลูก ๆ ทั้งหลายไปออกกำลังกายสักหน่อย คิด ๆ หากพาไปสวนสาธารณะ ก็ต้องอยากปั่นจักรยานกันคนละคัน เกรงว่าจะดูแลกันไม่ไหว เพราะแต่ละรายก็สุด ๆ กันไปคนละแนว เลยพาไปว่ายน้ำกันดีกว่า ตกลงคุยกันถึงความรับผิดชอบของแต่ละคน คุยกำหนดการเวลาออกจากบ้าน ช่วงระยะเวลาในการเล่นน้ำ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายเตรียมตัวกันเพื่อไป ว่ายน้ำ

การพาเด็ก ๆ 4 คนไปว่ายน้ำนี้ เด็ก ๆ มักสนุก แต่แม่ไม่ค่อยจะสนุกสักเท่าไหร่ ตาต้องไว ปากก็ต้องพูด เวลาที่เล่นอะไรพิเลนเกินเหตุ ระหว่างที่ดูแล แลดู หูเงี้ยคอยฟังเสียง เผื่อมีใครตะโกนขอความช่วยเหลือฮ่าๆๆๆ ลูก 3 คนแรก ว่ายน้ำพอเป็นกันแล้วไปเล่นสระใหญ่ ขอไว้ว่า เล่นแค่ถึงบริเวณไหน พอหากไปไกลมากเป็นห่วงมองไม่เห็น อีกมีช่วงที่ลึกมาก ๆ 2.60 เมตร ไม่ใช่คำว่าอย่า ห้าม แต่ขอไว้ว่าเล่นแค่เขตไหนพอ เพราะตามจิตวิทยาว่าไว้ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ส่วนเจ้าคนเล็กสุดเล่นสระเด็ก ว่ายน้ำยังไม่เป็น ดำน้ำไม่เป็น เดินเล่นในน้ำอย่างเดียว

ระหว่างรอก็จะได้ยินเสียงแม่ๆ ที่มารอทะเลาะกับลูก ๆ เป็นระยะ ๆ "จะขึ้นได้หรือยัง นี่มันกี่โมงแล้วฮ่ะ" หรือไม่ "จะขึ้นหรือไม่ขึ้น ถ้าไม่ขึ้นแม่ไปล่ะนะ" หรืออาจจะมีคำหยาบหลุดมาบ้าง เวลาอารมณ์แบบขึ้นสุด ๆ เหล่านี้หากเราศึกษามาดี เราจะรู้ว่า เป็นคำถามที่ไม่ใช่คำถาม เป็นการแสดงออกถึงความเบื่อหน่าย โกรธ เป็นการออกคำสั่งแบบใช้รูปประโยคคำถาม ส่วนมากคำตอบที่ได้ยินจากเด็กที่ลอยคอ แหวกว่ายในสระอย่างสำเริงสำราญก็จะ "เดี๋ยวขึ้น ขอเล่นอีกนิด" หรือ "โห....เพิ่่งเล่นได้แป๊บเดียวเอง" ทั้งที่จริง ๆ คงเล่นมาไม่ต่ำกว่าชม. ดูจากอาการแม่ลูก นี่หากมีการคุยตกลงกันก่อนลงสระคงไม่เกิดปัญหาแบบนี้กันเยอะมากเนาะ ได้ยินเสียงแบบนี้เป็นระยะๆ จากคนๆ เดิมบ้าง จากแม่ลูกคู่อื่น หรือพ่อลูก หรือป้าหลาน ฯลฯ เด็ก ๆ ก็กลัวที่ไหนฮ่าๆๆ ว่ายหนีไปที่ไกล ๆ ขอบสระ ไม่ขึ้นจะทำไมประมาณนั้น แล้วพ่อแม่จะทำไงได้ ก็ได้แต่ตะโกน บ้างก็ตัดพ้อ ฯลฯ วน ๆๆๆๆ ไปมา จนกว่าเด็ก ๆ จะยอมตัดสินใจเลิกเล่น

ที่สระว่ายน้ำมีนาฬิกาใหญ่มากแขวนเด่นเห็นชัด หากเราตกลงกันว่าเราจะเล่นกันเท่าไหร่ ก็ให้เขาเห็นเป็นรูปธรรมโดยชี้ให้ดูที่เข็มนาฬิกา ว่าเมื่อเข้มสั้นถึงเลขนี้ เข็มยาวถึงเลขนี้หมายถึงขึ้นจากสระ อาบน้ำ แต่งตัว กลับบ้าน ปกติส่วนตัวจะให้ตัวเลือกแก่เด็ก ๆ เช่น เล่น 1 หรือ 1.30 ชม. ดีค่ะ ให้เขาเลือก มาเยอะก็ต้องโหวต แต่รอบนี้มีเวลาจำกัด เพราะลูกสาวคนโตทางบ้านต้องพาไปธุระนอกบ้านตอนเย็นต่อ จึงคุยกันตั้งแต่ที่บ้านเลยว่า วันนี้เรามีเวลาเท่าไหร่ เพราะอะไร เด็ก ๆ ชอบเล่นน้ำ พอได้ลงน้ำ ก็เหมือนปล่อยปลาลงน้ำ ปลามีรึจะอยากขึ้นจากสระง่าย ๆ จริงไหม เด็ก ๆ หากเรามีเหตุผลเขาก็พร้อมจะรับฟัง เข้าใจและปฏิบัติตามเราได้ไม่ยากนัก เด็ก ๆ บ้านนี้มีปัญหาอยู่คนเดียว คือ เจ้าตัวเล็ก ถึงเราจะมีการเตือนใกล้หมดเวลาก่อนแล้ว คือให้มีการเตรียมใจไว้ก่อน พี่ ๆ ขึ้นหมดแล้ว เจ้าตัวเล็ก ไม่ยอมจะขึ้น

คิดว่าแม่ดาวจะทำยังไงนะ....ทายกันไปก่อนพอดีเวลาหมดค่าฮ่าๆๆๆๆ หรือถ้าเป็นคุณ ๆ คิดว่าคิดจะใช้วิธีการไหนในการจัดการเจ้าตัวเล็กคนนี้



หมายเลขบันทึก: 580890เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2014 13:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2014 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ทายนะ

ใช้วิธีทหาร ไม่ก็

ใช้วิธีบัดดี๊ 55

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท