​Story teling (ฟังจากเพื่อน 3 คน)


Story teling (ฟังจากเพื่อน 3 คน)

รายวิชาการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ (102611)

ผู้สอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์

โดยนายวัชระ เทียนทิพย์การุณย์ รหัสนักศึกษา 57D0103128 เลขที่ 28 ภาคพิเศษ หมู่ 1

วันที่ 31 สิงหาคม 2557 เบอร์โทร 088-4700094 e-mail : [email protected]

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชื่อผู้เล่า นางสาวโชติรส เจษฎาศิริ

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ตำแหน่งปัจจุบัน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง " เงินออม "

สถานที่ โรงเรียนบ้านหนองปรึก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกๆวันนักเรียนจะมาฝากเงินออมทรัพย์กับครูประจำชั้น แต่การฝากเงินจำนวนเงินน้อยมากจนผิดสังเกต จึงเกิดข้อสงสัยของการฝากเงินของนักเรียนประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ว่าเกิดปัญหาอะไรที่ทำให้การฝากเงินออมทรัพย์น้อยลง จึงได้ลองสัมภาษณ์นักเรียนพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการที่นักเรียนไม่กล้าฝากเงินเยอะเพราะกลัวเงินที่ฝากไปกับครูประจำชั้นนั้นจะไม่ได้คืน จึงลองถามดว่านักเรียนทำไมถึงคิดเช่นนั้นนักเรียนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าตอนอยูชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เคยฝากเงินกับครูประจำชั้นแต่กลับไม่ได้เงินที่ฝากเลยจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักเรียนไม่กล้าที่จะฝากเงินกับคุณครู จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการให้นักเรียนคอยตรวจสอบและเช็คยอดเงินที่ตนเองฝากได้ตลอดจึงทำให้นักเรียนกล้าที่จะมั่นใจในการฝากเงินกับครูประจำชั้นเหมือนเดิม

ชื่อผู้เล่า นางสาวอุไรวรรณ ภูจ่าพล

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ตำแหน่งปัจจุบัน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง " ต้นสายปลายเหตุ "

สถานที่ โรงเรียนระดมวิทยานุสรณ์ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

เมื่อนักเรียนย้ายมาจากที่โรงเรียนอื่น นักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่สุภาพ การแต่งการไม่เรียนร้อย บอกอยาก คุณครูทุกคนบอกก็ไม่ปฎิบัติตามจึงทำให้คุณครูทุกๆคนเกิดความเบื่อหน่ายกับเด็กนักเรียนคนนี้

ในปีต่อมา ได้เป็นครูประจำชั้นของเด็กนักเรียนคนนี้ ซึ่งบอกให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายหรืองานที่เรียนไม่มีความรับผิดชอบ จนมาถึงเหตุการณ์ๆที่โรงเรียนได้แข่งขันกีฬาสีอยู่ๆเขาแข่งกีฬาเสร็จและชนะจึงวิ่งมากอดครูประชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และช่วงเวลานั้นครูประจำชั้นได้ไปเยี่ยมบ้านของนักเรียน แต่หนึ่งในนั้นคือเด็กนักเรียนคนนี้ได้ไปเยี่ยมก็ได้รู้จักว่าเขาเป็นเด็กมีปัญหาเพราะพ่อแม่แยกทางกัน และไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ความรักจากพ่อแม่ โดยเขาอยู่แต่กับตาและยาย ทำให้รู้จักถึงสถานะของสภาพครอบครัวว่าเป็นเด็กที่ต้องการการเอาใจใส่ โดยการสร้างจุดเด่นให้กับตัวเองแต่เป็นในทางลบ จนคุณครูให้ความรักและเอาใจใส่เป็นพิเศษโดยการบอกและแนะนำ ชมในด้านที่เป็นด้านบวกจนทำให้เด้กเป็นพฤติกรรมและมีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อเพื่อนร่วมห้องได้ จึงทำให้เกิดความภาคภูมิใจในการที่เด็กคนหนึ่งๆที่ไม่เคยคิดว่าเขาจะเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีได้โดยสามารณมีความรับผิดชอบและเป็นผู้นำคนอื่นได้อย่างน่ายมเชยทั้งๆที่จากเป็นเด็กที่ไม่เอาไหน

ชื่อผู้เล่า นางสาวธันยพร พงศ์จันทร์

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูฝึกสอน ประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ตำแหน่งปัจจุบัน

ชื่อเรื่อง

สถานที่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

ในช่วงของการฝึกสอนได้มีโอกาสไปฝึกสอนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในช่วงแรกมีนักเรียน 40 คน โดยที่เด็กนักเรียนห้องนี้ เป็นเด็กที่เรียนดีมาก ต่อมาเด็กลดจำนวนลงเหลือ 30 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มีเด็กที่ดื้ออยู่ 2 คน โดยเด็กคนหนึ่งเป็นเด็กที่เรียนดี แต่มีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน ชอบเล่น ชอบคุยกับเพื่อน ไม่สนใจเรียน ส่วนเด็กอีกคนหนึ่งเป็นเด็กที่มีผลการเรียนไม่ดี และมียังมีพฤติกรรมที่ไม่ตั้งใจเรียนอีก ครูจึงจับเด็กสองคนย้ายที่นั่งแยกออกจากกัน โดยย้ายด็กทั้งสองคนไปนั่งสลับกับเพื่อนคนอื่นที่มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ว่าครูจะใช้วิธีการตำหนิ หรือลงโทษด้วยวิธีใด ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ต่อมาครูจึงเปลี่ยนแนวความคิด โดยเปลี่ยนไปใช้วิธีการคอยดูแลเอาใจใส่ คอยถาม และเดินไปดูบ่อยๆ จนทำให้เด็กเกิดความเกรงใจ และพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น

ชื่อผู้เล่า

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูประจำชั้นปมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

ตำแหน่งปัจจุบัน ครูประจำชั้นปมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

ตำแหน่งปัจจุบัน

ชื่อเรื่อง

สถานที่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

ในชั้นเรียนห้อง ม.4/2 พบว่า เด็กในห้องนี้มีความหลากหลายทางพฤติกรรม เช่นเด็กบางคนเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนที่ดีมาก แต่เด็กบางคน มีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนและยังมีผลการเรียนที่มีปัญหา บางคน ก็เป็นเด็กที่มีระดับความรู้ ความสามารถอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ขาดการเอาใจใส่ บางคนก็มีพฤติกรรมต่อต้านไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครู ขาดความรับผิดชอบ ไม่ว่าครูท่านใดจะใช้วิธีใดก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ต่อมาวันหนึ่ง ครูประจำชั้นจึงเลือกใช้วิธีการทำแบบอย่า โดยครูประจำชั้นจะกวาดห้อง และทำงานอื่นๆด้วยตัวเองในทุกๆวันโดยไม่ขอความช่วยเหลือจากนักเรียน แม้จะเหน็ดเหนื่อยสักเพียงใดก็ตาม อยู่มาวันหนึ่ง มีเด็กสงสัยและเข้ามาถามครูประจำชั้นว่า ทำไมเดี๋ยวนี้คุณครูต้องทำงานพวกนี้เองด้วย พอช่วงคาบแนะแนว ครูจึงได้อธิบายถึงเรื่องคุณค่าของงาน รวมถึงเรื่องหน้าที่และความรับผิดชอบให้เด็กๆฟัง พร้อมทั้งกับการยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับภาระงานที่ครูปฎิบัติในทุกๆวัน หลังจากนั้นต่อมา เมื่อเด็กๆเรียนจบ และด้มาโอกาสไปศึกษาต่อแล้ว แต่พวกเขายังกลับมาเยี่ยม และขอบคุณครูที่ช่วยสอนให้นักเรียนมีความรับผิด ขอบคุณในแบบอย่างที่ดี ให้แก่นักเรียน จนทักวันนี้นักเรียนสามมารถประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานได้

ชื่อผู้เล่า

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ตำแหน่งปัจจุบัน ครูประจำชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง

สถานที่

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

ได้รับมอบหมายให้เป็นครูประจำรายวิชาภาษาอังกฤษ ม. 1 ซึ่งปัญหาที่พบคือ เด็กๆไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับคำศัพท์มาก่อน ไม่รู้คำศัพท์เลย ซึ่งไม่ว่าครูจะใช้วิธีท่องจำ หรือวิธีใดๆก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ต่อมาครูจึงเลือกใช้เทคนิคการเล่นเกมเข้ามาช่วยดึงดูความสนใจของเด็ก เช่นการเล่นเกมใบ้คำศัพท์ เพื่อช่วยเสริมสร้างการจดจำให้แก่นักเรียน ซึงผลจากการจัดการเรียนการสอนเช่นนี้ มีผลทำให้ เด็กๆชอบ และสนุกสานในการเรียน และช่วยเสริมสร้างการจดจำคำศัพ์ให้แก่นักเรียนได้เป็นอย่างดี

ชื่อผู้เล่า

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ตำแหน่งปัจจุบัน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

ในช่วงเปิดภาคเรียน ภาคเรียนที่ 1 มีเด็กแทรกชั้นย้ายเข้ามาใหม่ ในชั้น ป.5 ซึ่งเด็กคนนี้พฤติกรรมไม่สุภาพ ก้าวร้าว มีการต่อต้านและไม่ให้ความร่วมมือ แต่งกายไม่เรียบร้อย หัวแข็ง ไม่ว่าครูคนใดจะตักเตือน หรือใช้วิธีการใด ก็ไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมของเขาได้ วันหนึ่งครูประจำชั้น ป.6 จึงเรียกมาพบ และสอบถามถึงสาเหตุ และปัญหาของเด็ก เพื่อหาทางแก้ไข และพยายามใช้ความเอาใจใส่ ความเชื่อใจ เพื่อให้นักเรียนไว้วางใจ และเชื่อใจ อยู่มาวันหนึ่ง ทางโรงเรียนได้จัดการแข่งขันกีฬาสีภายใน โรงเรียนขึ้น และเด็กคนนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นนักกีฬา หลังจากที่เขาแข่งกีฬาชนะ ทันทีที่เขาชะ สิ่งแรกที่เขาทำ คือการวิ่งเข้ามากอดครูประจำชั้นด้วยความดีใจ และครูประจำชั้นก็เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของเขาในด้านที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่มาวันหนึ่ง ครูประจำชั้นได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของเด็กคนนี้ จึงทราบว่า พ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน เด็กอาศัยอยู่กับตาและยาย จึงทำให้ครูมีได้ทราบและเข้าใจถึงสาเหตุและที่มาปัญหาชัดเจนขึ้น จากนั้นมา ครูจึงพยายามสร้างจุดเด่น เพื่อกลบเกลื่อนจุดด้อยในตัวเขา และพยายามผลักดันจุดเด่นของเขา ออกมา เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับเขา และทำให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเอง ใช้วิธีการชื่นชม และไว้วางใจ มากกว่าการจ้องจับหาจุดผิดเพื่อตำหนิ ปรับวิธีคิดและมุมมองของเขาใหม่ ทำให้เขามั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเอง

ชื่อผู้เล่า นายวัชระ เทียนทิพย์การุณย์

ตำแหน่งในขณะนั้น ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ตำแหน่งปัจจุบัน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อเรื่อง เสน์ของนักกีฬา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ

มีการจัดแข่งขันเกี่ยวกับกีฬาเยาว์ชน โดยจุดประสงค์ในการส่งแข่งเพื่อที่อยากให้นักเรียนรู้จักให้เวลาว่างในการเล่นกีฬาและสนใจในการฝึกซ้อมกีฬา โดยข้าพเจ้านั้นเป็นครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ทำทีมฟุตบอลซึ่งการทำทีมฟุตบอล นั้นต้องดูแลนักกีฬาในทุกๆเรื่อง เช่น การวอมล์ร่างกายบางครั้งนั้นกีฬาบ้างคนไม่วอร์มร่างกายทำให้บาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง การดูแลเรื่องทักษะในเล่นฟุตบอล โดยนักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีพื้นฐานหรือทักษะในกีฬาประเภทนี้เลยซึ่งเป็นอุตสรรค์ต่อการพัฒนาการทักษะ แต่ประเด็นที่สำคัญคือนักกีฬาส่วนใหญ่มีทักษะการการเรียนรู้ที่ด้อยกว่านักเรียนในระดับชั้นเดี่ยวกันโดยเฉพาะการอ่านหนังสือ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการฝึกซ้อม แต่ที่ต้องตระหนักในทีมนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนนักกีฬาจะชอบคุยอวดกัน ว่าตังเองมีทักษะหรือความสามารถเหนือกว่าเพื่อนๆในทีมทำให้ทีมเกิดความแตกแยกโดยเฉพาะนักกีฬาที่มีประสบการณ์บางคนชอบคุย อวด ว่าคนอื่นๆอยู่เป็นประจำซึ่งในทีมฟุตบอลของโรงเรียนมีนักกีฬาอยู่ทั้งหมด 16 คน โดยมีอยู่ 3-4 คนที่เป็นปัญหาหนักสุดพร้อมกับนักกีฬาส่วนใหญ่ไม่มีมารยาทในการพูดจา และการเชื่อฟังโค้ชทำให้เป็นอุตสรรค์ต่อการบริหารทีมฟุตบอลอย่างยิ่ง ยิ่งบอกยิ่งไม่ย้อมรับและเถียงตลอดเวลาโดยมีครั้งหนึ่งโค้ชบอกว่าการที่เล่นกีฬามาเหนื่อยๆไม่ควรกินน้ำแต่นักกีฬาบางคนไม่ฟังอยากดื่มน้ำจึงทำให้เกิดอาการจุดเสียดท้องอย่างรุ่นแรง มารยาทในการพูดที่ไม่มีหางเสียง

การสอนนักเรียนได้ให้ความรู้แก่เขาโดยบอกถึงประโยชน์ของการพูด เช่น ถ้าเราพูดจารดีไพเราะเพื่อนๆก็ก็ยากพูดคุยกับเรา การทิ้งขยะในสถานที่ที่มึควรทิ้งสอนให้ตระหนักถึงผลกระทบหรือผลเสียของขยะที่เราทิ้งไปโดยให้นักกีฬามีจิตสำนึกและคิดถึงส่วนร่วมที่ได้รับผลกระทบในการกระทำไม่เป็นประโยชน์ การมีน้ำใจในการเล่นกีฬาโดยเฉพาะเมื่อเล่นกับทีมนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนอื่นเรามีควรมีน้ำใจในการช่วยเหลือเพื่อนนักกีฬาด้วยกันถึงแม้จะต่างโรงเรียนแต่ต้องมีน้ำใจ เช่น ช่วยดึงเพื่อนในขณะที่เพื่อนล้มลง หรือแม้แต่การมีน้ำใจแบ่งปันน้ำดื่มหรือสื่งของที่จำเป็นจะต้องช่วยเหลือ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักกีฬาและสร้างในเป็นนักกีฬาที่สมบูรณ์ในภายนอกและภายในของตัวเองอีกด้วย

หมายเลขบันทึก: 580071เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2014 17:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2014 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท