ภาพบน = ตับปกติ__ สีแดงสด__ มีไขมันภายในน้อย
ภาพล่าง = ไขมันเกาะตับ__ สีเปลี่ยนจากแดง เป็นส้มๆ เหลืองๆ__ มีไขมันภายใน (จุดสีขาว) มากขึ้น
.
อ.นพ.เกบ เมียคิน ตีพิมพ์เรื่องของทอม แฮงส์ ที่ว่า การทำน้ำหนัก เพื่อเล่นหนัง
ทำให้เขาเป็นโรคไขมันเกาะตับ และเบาหวานได้อย่างไร, ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
ภาพยนต์ ที่ทอม แฮงส์แสดง ทำเงิน...
.
ก่อนหน้านี้, แฮงส์ เพิ่มน้ำหนัก
โดยกินพิซซาเป็นหลัก เพื่อให้ "อ้วนสมจริง"
แฮงส์ มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ไม่ถึงเกณฑ์วินิจฉัยเบาหวาน
หรือที่เรียกว่า "ภาวะก่อนเบาหวาน - ว่าที่เบาหวาน" ตั้งแต่อายุ 36 ปี
.
พออายุ 57 ในปี 2556 ก็เป็นเบาหวาน เต็มตัว
= เปลี่ยนจาก "ว่าที่ฯ" เป็น "เบาหวาน" ใน 21 ปี
และประกาศว่า จะไม่ยอมเพิ่มน้ำหนัก เพื่อเล่นหนังให้สมบทบาท... อีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงสำคัญ ในคนที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ หรือ "โยโย่" คือ
.
ภาพ__ อวัยวะในช่องท้อง
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คนเราเพิ่มไขมันได้ "ภายในไม่กี่ชั่วโมง"
ทว่า... ถ้าจะเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ต้องลงทุนมากหน่อย คือ
.
ถ้าเป็น "สว. (สูงวัย สูงอายุ)",
การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จะใช้เวลานานกว่านั้น (ฝึกต่อเนื่อง เกิน 6-8 สัปดาห์)
โยโย่ ภาษาอังกฤษ ออกเสียง "โย้ว โหย่ว"
.
อวัยวะที่เป็น "ฟองน้ำ" สำหรับดูดซับน้ำตาลในเลือดส่วนเกินได้แก่
(1). ตับ
(2). กล้ามเนื้อ
ถ้ามวลกล้ามเนื้อลดลง หรืออยู่นิ่งๆ นานเกิน 1 ชั่วโมง,
กล้ามเนื้อจะดูดซับน้ำตาลในเลือดได้น้อยลง
.
ภาพ__ ทางซ้าย เป็นไขมันเกาะตับ
.
คนเราเสียมวลกล้ามเนื้อ ตามอายุ
อายุยิ่งมาก, มวลกล้ามเนื้อยิ่งน้อย
ภาวะต่อไปนี้ ทำให้มวลกล้ามเนื้อ ลดลงได้เร็ว
.
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ "ไขมันเกาะตับ" เพิ่มขึ้น
ไขมันเกาะตับ ทำให้ตับดึงน้ำตาลในเลือดที่สูงเกิน มาเก็บเป็นแป้ง (ไกลโคเจน) ได้น้อยลง
เปลี่ยนเป็นไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ มากขึ้น
ไขมันนี้ จะไปเกาะตับมากขึ้น (แบบวงจรอุบาทว์ - vicious cycle)
.
ไขมันเกาะตับ หรือไขมันอ้วนลงพุง ที่สะสมในช่องท้อง - หลังช่องท้อง
จะร่วมกัน ปล่อยสารก่อการอักเสบ หรือสาร "ก่อการร้าย" เข้าสู่กระแสเลือด
ทำให้ น้ำตาลในเลือด เข้าสู่ตับ + กล้ามเนื้อได้น้อยลงไปเรื่อยๆ
น้ำตาลในเลือด จะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นเบาหวาน... เต็มตัว
.
ภาพ__ จากตับดีๆ (ด้านบน)__ เป็นไขมันเกาะตับ (ตรงกลาง)__ และตับแข็ง (ด้านล่าง)
.
ผนังเลือดที่ดี จะมีความเรียบ + ความลื่น
เปรียบคล้าย กระทะเคลือบเทฟลอน
น้ำตาลในเลือดที่สูงมากๆ
จะทำให้เกิดน้ำตาลพิเศษ (ซอร์บิทอว - sorbitol)" ที่ผนังหลอดเลือด
.
น้ำตาลพิเศษนี้ จะทำให้ผนังหลอดเลือด อักเสบ บวม
ผิวไม่เรียบ คล้ายกระทะขึ้นสนิม
ทั้งหมดนี้ ทำให้โรคไขมันเกาะตับ - ภาวะก่อนเบาหวาน - เบาหวาน ทำร้ายเซลล์ได้ทั่วร่างกาย
คือ เพิ่มเสี่ยงโรค "หัว - หัวใจ - ไต - ตา - ตีน" + มะเร็งหลายชนิด
.
มะเร็งชอบน้ำตาลมากกว่าเซลล์ทั่วไป
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้มะเร็ง "โต - แบ่งตัว - กระจาย" ได้เร็วขึ้น
.
ภาพบน__ ไขมันเกาะตับ ทำให้ตับโตขึ้น__ สีแดงน้อยลง__ สีเหลืองๆ ส้มๆ มากขึ้น__
ภาพล่าง__ ตับปกติ__ สีแดง ปนน้ำตาล
วิธีป้องกันไขมันเกาะตับ + ว่าที่เบาหวาน + เบาหวาน ได้แก่
(1). ระวังน้ำหนักเกิน - อ้วน
และระวัง... น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ แบบ "โยโย่"
.
(2). ไม่ลดน้ำหนักแบบเร็ว หรือเกิน 1/2 กก. ต่อสัปดาห์
ลดน้ำหนักเร็ว ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงเร็ว
และไขมันที่ลดเร็ว เพิ่มเสี่ยง
.
(3). กินผัก + ผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้)
สูตรทั่วไปในเรื่องผลไม้ คือ
แบ่งเป็นหลายมื้อๆ ละน้อยๆ ดีกว่า กินหนักมื้อเดียว
.
ยกเว้น หลังออกกำลังใหม่ ๆ ไม่เกิน 1/2-1 ชั่วโมง
ช่วงหลังออกกำลังใหม่ๆ,
กล้ามเนื้อจะดูดซับน้ำตาลในเลือด ได้ดีมาก เป็นพิเศษ
ถ้าอยากกิน มากกว่านี้, ควรแบ่งไปมื้ออื่น
.
ภาพ__ ซ้ายมือ เป็นตับดีๆ__ ขวามือ เป็นไขมันเกาะตับ ทำให้ตับโตขึ้น
.
(4). ลด "ข้าวขาว-แป้งขาว-น้ำตาล"
.
(5). ลดเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์ใหญ่
เนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น แพะ แกะ วัว หมู ฯลฯ มีไขมันที่มองไม่เห็น หรือไขมันแฝงสูง + มีไขมันอิ่มตัวสูง
(6). ลดอาหารทอด
อาหารทอด เพิ่มเสี่ยงสาร "เร่งความแก่" หรือ สารกลุ่ม AGEs (advanced glycation end products)
สารนี้ ทำให้เกิดการอักเสบ + ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
.
(7). ออกแรง-ออกกำลัง เป็นประจำ
(8). ไม่นั่งนิ่ง นานเกิน 1 ชั่วโมง/ครั้ง
การเดินไปเดินมาสลับ, ลุกขึ้นยืนสลับนั่ง, หรือโยกตัวบนเก้าอี้บ่อยๆ ลดเสี่ยงได้
.
ภาพ__ ซ้ายมือ เป็นไขมันเกาะตับ
ตรงกลาง__ เป็นไขมันเกาะตับ + ตับอักเสบเรื้อรัง (พบในบางคน)
ซ้ายมือ__ เป็นตับแข็ง จากไขมันเกาะตับ (พบได้น้อย แต่ก็พบได้จริงๆ)
.
(9). รับแสงแดดอ่อน เช้า-เย็น เพื่อให้ผิวหนัง สร้างวิตามิน D ได้
ภาวะวิตามิน D ต่ำ เพิ่มเสี่ยง เบาหวาน
.
ทั้งหมดนี้ บอกเป็นนัยว่า
น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เพิ่มเสี่ยง ไขมันเกาะตับ + เบาหวาน ในระยะยาว
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
From Dr.Gabe Mirkin's Ezine > http://drmirkin.com/histories-and-mysteries/tom-hanks-diabetes-and-yoyo-dieting.html
Would you suggest (increasing) beans and nuts, green vegetables and (not so ripe) fruits diet?