Flipped classroom


1.ให้สรุปความรู้ที่ได้เรียนรู้ตามความเข้าใจของตนเอง

Flipped classroom ห้องเรียนกลับด้าน= Fun Education เป็นการลัมล้างรูปแบบโรงเรียนแบบดั้งเดิม อะไรอะไรที่เคยทำที่โรงเรียนให้ไปทำที่บ้านอะไรอะไรที่เคยทำทีบ้านให้มาทำที่โรงเรียน แล้ว Flipped classroom ใช้ เทดโนโลยี พลิกห้องเรียน ทางออนไลน์ ให้นักเรียนเรียนทาง ออนไลน์ แล้วนำกานบ้านมาทำที่โรงเรียน การบวกการดำเนินการ Flipped classroom

ทำงานอย่างไร

1 ครูถ่ายวิดีโอทุกสัปดาห์เพื่อให้นักเรียนเรียนทางออนไลน์วิดีโอไม่ยาวเกินไป แต่มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาสาระสำคัญ

2 นักเรียนเรียนกับวิดีโอก่อนที่บ้าน เมื่อว่าง

3 หลังจากที่เรียนทางออนไลน์ แล้วมีแบบทดสอบ ออนไลน์ ใช้ในการทดสอบการเรียนของนักเรียน

4 นอกเหนือจากการทดสอบแล้วนักเรียน สามารถถามข้อสงสัย หรือปรึกษาหารือกับเพื่อนร่วมชั้น

5 ครูสามารถตรวจดูการเรียนของนักเรียนแต่ละคนก่อนเข้าสอนในห้องเรียนรวมถึงความคืบหน้าอุปสรรคในการเรียนรู้และความคิดของนักเรียน ครูสามารถรู้สภาพการเรียน ความสามารถของนักเรียนแต่ละคนชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือที่ตรงกับนักเรียนแต่ละคน ครูสามารถเตรียมการสอนี่ เหมาะกับนักเรียน ล่วงหน้าจากคำถามของนักเรียน

6 ครูมีเวลามากขึ้นในการดำเนินการปฏิบัติและสาธิต demonstrate ให้แก่นักเรียนในห้องเรียน

สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนได้คิดและตั้งคำถาม;

นักเรียนารถแลกแปลี่ยน ความคิดกับเพื่อนๆสร้างความปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในห้องเรียน และการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น

หลังจากที่ได้เข้าอบรมเรื่องห้องเรียนกลับด้านแล้วมีข้อคิดที่ผลิตห้องเรียนกลับด้านให้กับนักเรียนขอตัวเองแต่ยังต้องเตรียมความพร้อมก่อนที่จะทำจริงเนื่องจากนักเรียนในโรงเรียนไม่สามารถเรียนทางออนไลน์ได้แต่จะสร้างห้องเรียนเป็นActive classroomเชื่อดำเนินการอยู่แล้วหลังจากที่ได้เข้าอบรมแล้วได้รับประสบ การณ์จะวิทยากรคิดว่าจะนำไปสู่การพัฒนาวิธีการสอนของตน เองในอนาคต สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ

วิดีโอ2+2=5เชื่อให้นึกถึงตอนที่เรียนอยู่ครูใช้วิธีนี้ในการจัดการเรียนการสอนให้แก่ศิษย์ชื่นชมวิธีการแก้ไขปัญหาของครูกับกลุ่มนักเรียนที่ไม่ใส่ชุดนักเรียนมาโรงเรียนครูอาจจะไม่เก่งว่านักเรียนแต่สิ่งที่ครูต้องมีคือให้เหตุผลให้นักเรียนยอมรับในสิ่งที่ครูผุดและทำอยู่ซึ่งสะท้อนให้เราเห็นได้ว่านักเรียนในปัจจุบันมีความคิดของตนเองสูงไม่ชอบอยู่ในกรงชอบเลียนแบบ ครูจะทำอย่างไรกับนักเรียนกลุ่มนี้

2.สังเคราะห์ระบบการเรียนการสอนของตนเอง

ถ่ายวิดีโอสาระหรือเนื้อหาที่จะเรียนแล้ว โพสต์ใน Facebook ให้นักเรียนเรียนจากวิดีทัศน์ที่บ้านแล้วทำแบบฝึกหัดที่นำมาในเวลาเรียน เปิดโอกาสให้ได้ใช้เวลาในห้องเรียนเชื่อมโรงทฤษฎีหรือความรู้เหล่านั้นเข้า กับสถานการณ์จริงของโลก หรือสถานการณ์ในบ้านเมือง หรือในชุมชนใกล้ตัว นักเรียนอาจได้ฝึกโต้วาที กล่าวสุนทรพจน์ หรือเขียนเรียงความ

3.สะท้อนแง่คิดที่ได้จากการเรียนการนำไปใช้ในอนาคต

ผู้สอนต้องเรียนรู้ สิ่งที่ต้องการของผู้เรียน ใช้วิธีที่ผู้เรียนต้องการ เปิดโอกาสให้ผู้เรียน ไม่จำกัดความคิดของผู้เรียน

ผู้สอนจำเป็นต้องมีความเข้าใจผู้เรียนมีนิสัยของแต่ละวัย สิ่งที่ครูจำเป็นต้องมีในตัวคือความรัก ความเมตตาต่อผู้เรียน ชื่นชมให้กำลังใจ ความเป็นกันเอง ครูเป็นส่วนหนึ่งของในห้องเรียน ครูต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เมื่อนักเรียนทำผิดให้ เหตุผลโดยใช้วิธีนักเรียนมีส่วนร่วมในการตัดสิงไม่ใช่ใช้รูปแบบการสอนของครู

การจัดห้องเรียนแบบ Flipped classroom

เข้าใจและเรียนรู้นิสัยของแต่ละยุด สามารถทำให้ครูรู้สิงที่ต้องการของนักเรียน จะนำรูปแบบ flipped classroom ไปใช้ในการสอน ต่อไป

4.บรรยากาศในการเรียนความรู้สึกเพื่อนในห้องเรียน

วิทยากรเก่งมากผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ครบถ้วนพร้อมกับการ สนุกสนาน กับ Active Classroomการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน เพื่อนๆในห้องร่วมมือกันทำงานที่ อาจารย์มอบหมาย

คำสำคัญ (Tags): #flipped classroom
หมายเลขบันทึก: 578696เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2014 14:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ตุลาคม 2014 14:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท