BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

พรรษาที่ ๓๐


พรรษาที่ ๓๐

และแล้วคืนสุดท้ายของเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ก็ผ่านไป ซึ่งสมภารก็ต้องมาบอกเล่าความคิดเห็นไว้ตามที่ประพฤติมาซึ่งก็หลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้เป็นสมภารโน้นแหละ โดยเขียนในคืนเข้าพรรษาบ้างออกพรรษาบ้าง ลองไปดูของปีแล้ว ปรากฏว่าเขียนวันเข้าพรรษา ซึ่งผู้สนใจจะดูก็เชิญ (คลิกที่นี้) ส่วนปีนี้เขียนคืนออกพรรษา...

สำหรับวงรอบปีที่ผ่านมา สิ่งที่สำเร็จเพิ่มเติมก็คือ สมภารได้จัดสร้างหลวงพ่อบ่อยางจำลองและจัดงานสมโภชเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้หลวงพ่อบ่อยางองค์จำลองประดิษฐานอยู่ในวิหารบ่อยาง... แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องไม่ได้เปิดวิหารบ่อยาง เพราะว่าประตูวิหารไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ยังไม่ได้แก้ไขให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น... บานประตูนั้นเป็นชนิดบานเพี้ยมหรือบานเซี้ยม คือห้อยลงจากข้างบนแล้วมีลูกล้อด้านล่างช่วยในการเปิดปิด แต่พอใช้ไปไม่กิ่วันมันก็ห้อยลงมาทำให้ติดขัดในการเปิดปิด แล้วอุปกรณ์ก็ค่อยๆ หลุดไป ซึ่งสมภารก็ให้ช่างมาแก้แล้ว ๒ ครั้ง ปรากฏว่ายังเหมือนเดิม... ตอนหลังก็เหนื่อยใจจึงปิดไว้หลายเดือนแล้ว ตอนนี้ได้หลวงพ่อบ่อยางจำลองมาแล้ว ตั้งใจว่าออกพรรษานี้ จะเรียกช่างมาคุยว่าจะเอายังไง... เรื่องนี้ เป็นปัญหาหนึ่งที่สมภารรู้สึกกระทบกระทั้งจิตทุกครั้ง เมื่อผ่านเข้ามาสู่คลองความคิด...

กุฏีเก่าที่สมภารเคยอยู่ และเคยทอดผ้าป่าซ่อมหลังคาและส่วนอื่นๆ ของชั้นบนตอนที่ไม่ได้เป็นสมภาร และเพิ่งปรุงปรุงซ่อมแซมชั้นล่างเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้มีกระเบื้องแตก ซึ่งหลงเหลืออยู่ตอนเกิดพายุ หน้าต่างแผ่นหนึ่งก็หลุดหาย พื้นกระดานบางจุดที่ฝนรั่วก็ผุหัก... นี้ก็อีกจุดหนึ่ง ที่คิดว่าจะต้องซ่อมแซม หลังจากออกพรรษาแล้ว...

อาสน์สงฆ์ภายในศาลาโรงธรรม ซึ่งทำด้วยไม้กระดานก็ผุหักเป็นจุดๆ ก็ต้องเร่งรื้อเพื่อทำใหม่... อันที่จริง คิดว่าจะทำให้เสร็จก่อนเข้าพรรษา แต่ชักช้าอยู่กับการติดต่อช่าง เมื่อเข้าพรรษาแล้วก็ไม่อาจทำได้ เพราะต้องใช้สถานที่ทุกคืน... พรุ่งนี้ก็ออกพรรษาแล้ว วันที่ ๑๙ ต.ค. ก็จะทอดกฐิน เสร็จงานก็คงจะให้รื้อทำใหม่เลย คงจะทำเป็นพื้นคอนกรีตแล้วปูกระเบื้อง หรือไม่ก็อาจทำเพียงขัดมันเพราะต้องปูพรมอีก ไม่จำเป็นต้องปูกระเบื้องให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น... ประเด็นนี้ ค่อยตัดสินใจอีกครั้งตอนจะทำจริงๆ...

ด้วยเหตุว่าภายในโรงธรรม ไม้กระดานเริ่มผุ ปลวกจึงเข้าโจมตี และรุกรานไปถึงตู้ไม้เก่าๆ ของวัด จึงต้องรื้อออก และตอนนี้ก็ได้ซ่อมเสร็จไปตู้หนึ่งแล้ว อีกตู้นั้น ช่างยังไม่ได้มาติดตั้งบานเลื่อนให้ ก็ทำให้ได้ของใหม่ขึ้นมา ดูดีมีราคาขึ้น เพราะเป็นของเก่า... ตู้สองลูกนี้ สมภารคิดว่าจะเก็บไว้ในห้องหรือหน้าห้องใหม่ที่จะสร้างเพิ่มขึ้นบนตอนท้ายของอาสน์สงฆ์... ตอนนี้ในโรงธรรมก็มีห้องสมภารอยู่ห้องเดียว ซึ่งก็รกรุงรัง ถ้าสร้างห้องใหม่เพิ่มขึ้นที่อาสน์สงฆ์ ก็จะได้ไว้เก็บของ และหรือพระเณรบางรูปก็อาจอยู่ได้ เพื่อช่วยเฝ้าโรงธรรมตอนที่สมภารไม่อยู่ในอนาคต หรืออาจใช้เป็นห้องไว้รับรองเพื่อนสหธัมมิกผู้คุ้นเคยที่อาจมาแวะพักแวะเยี่ยม...

มีประเด็นหนึ่งที่เป็นเรื่องขึ้นมา ก็คือ มีบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์มือถือมาขอเช่าพื้นที่วัดเพื่อติดตั้งเสาโทรศัพท์ สมภารก็ลองหยั่งเสียงบรรดาญาติโยมที่มาวัดว่าเค้ามาติดต่อ จะให้ค่าเช่าเท่านั้นๆ หลายคนก็สนับสนุนเห็นชอบ ก็ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว... แต่พอเริ่มขุดหลุมเพื่อก่อสร้างได้วันเดียว ญาติโยมที่มีบ้านติดกับวัดในบริเวณจะสร้างก็คัดค้านขึ้นมา แล้วก็พยายามสร้างกระแสหาแนวร่วมเพื่อไม่ให้สร้าง ซึ่งสมภารก็บอกไปแล้วว่า "ถ้าญาติโยมคัดค้านก็สร้างไม่ได้" และการก่อสร้างก็หยุดชะงักมาตั้งแต่วันนั้น ตอนนี้ก็ผ่านไปได้ประมาณสองอาทิตย์แล้ว... ตามสัญญานั้น ถ้ามีปัญหากับชุมชน บริษัทคู่สัญญาต้องเคลียร์เอง ยังไม่รู้ว่าประเด็นนี้จะเป็นอย่างไร...

สำหรับโครงการใหญ่ที่จะทำก็คือ สร้างกุฏีเจ้าอาวาสบริเวณด้านหลังโรงธรรม คิดว่าจะเป็นกุฏีคอนกรีตสองชั้น ราคาประมาณ ๔-๕ ล้านบาท... วัดยางทอง แม้จะอยู่กลางใจเมือง แต่ปัจจุบันเจ้าอาวาสก็ยังไม่มีกุฏีอยู่เลย กุฏีอดีตเจ้าอาวาสหลังเก่า ซึ่งเป็นกุฏีคอนกรีตชั้นเดียวขนาดเล็ก สมภารปัจจุบันก็ยกให้ท่านรองสมภารเป็นผู้อยู่ ซึ่งตอนนี้ก็เต็มไปด้วยสมบัติบ้าของวัด จนกระทั้งท่านรองฯ ต้องออกมาจำวัดนอกห้องแล้ว... กุฏีเก่าหลังใหญ่สองชั้นที่เพิ่งซ่อมไป ซึ่งก็มีหลายห้อง ก็ให้เป็นที่อยู่ของพระ... กุฏีหลังนี้ สมัยหลายสิบปีก่อนโน้นก็เคยเป็นกุฏีสมภาร แต่ปัจจุบันไม่เหมาะสมที่จะเป็นกุฏีสมภาร เพราะอยู่ลึกเข้าไปด้านในของวัด...

หลังจากสร้างเวจจกุฏีหรือส้วม ๖ ห้องเสร็จเมื่อปีที่แล้ว สมภารก็ไม่ได้ใช้จ่ายเงินวัดเลย รวมทั้งเงินที่ทอดกฐินปีแล้วและทอดผ้าป่าปีนี้ คงเก็บไว้ในบัญชี ตอนนี้ก็มีอยู่ ๙ แสนกว่า แต่ไม่ถึงล้าน จะเก็บไว้สร้างกุฏี... ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในเวลาปีกว่าๆ มานี้ ก็ใช้เงินส่วนตัวของสมภาร นับว่าภาระหนักเอาการเหมือนกัน เอาเงินส่วนตัวจริงๆ คือ เงินนิยตภัตร เงินอุดหนุนพระเณร ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เงินกิจนิมนต์ส่วนตัว... และเงินกึ่งส่วนตัว คือเงินที่ญาติโยมถวายไว้เป็นค่าน้ำค่าไฟหรือให้สมภารไว้ใช้จ่ายตามอัธยาศัย ในเวลามีงานในวัด เช่น งานศพ งานบวช งานทำบุญอื่นๆ... เงินส่วนตัวจริงๆ และเงินกึ่งส่วนตัวเหล่านี้ ต้องประหยัดและรู้จักจ่ายให้เกิดประโยชน์และคุณค่าสูงสุด เพื่อจะคงเงินวัดไว้... หลายคนคิดว่าสมภารทั่วๆ ไปนั้นมีเงิน เพราะเห็นแต่รายได้ ไม่ค่อยรู้ว่ามีรายจ่ายอะไรบ้าง ลองมาเป็นสมภารแล้วจะรู้เลย ( 5 5 5 . . . )

รู้สึกว่าการบ่นประจำพรรษาปีนี้ สมภารจะหนักไปทางนวกรรม คือการปลูกสร้างและซ่อมแซมมากกว่าประเด็นอื่น เหตุที่เป็นอย่างนี้ อาจเพราะว่าประเด็นอื่นนั้นลงตัว และสมภารทำใจรับสภาพความเป็นอยู่ได้แล้ว... พรรษานี้ มีพระภิกษุจำพรรษา ๘ รูป โดยรวมทั้งพระใหม่ ๒ รูปด้วย ไม่มีสามเณร... พระเก่า ๖ รูปนั้น อายุเจ็ดสิบกว่า ๒ รูป หกสิบกว่า ๒ รูป และห้าสิบกว่าอีก ๒ รูป โดยสมภารมีอายุน้อยที่สุด ฉะนั้น การจะทำอะไรจึงต้องทำใจ ท่านอายุมากๆ นั้น ไม่เจ็บไม่ไข้ก็ถือว่าเป็นบุญบารมีของสมภารแล้ว อย่าหวังว่าจะให้ท่านช่วยหรือพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เลย... ในพรรษา เมื่อมีพระใหม่อายุสามสิบกว่ากับยีสิบกว่าเพิ่มเข้ามา ก็ได้ช่วยทำโน้นทำนี้บ้าง ถ้าเค้าไม่ลาสิกขาไป ก็ค่อยๆ พัฒนากันต่อไป... สมภารนึกๆ ไป ก็น้อยใจในวาสนาของตนเอง ตอนเป็นพระหนุ่มนั้น ไม่ค่อยได้อยู่กับพระเถระที่มีคุณธรรมความรู้ที่คาดหวัง พอเป็นสมภารก็ไม่มีพระหนุ่มเณรน้อยหรือบริวารที่จะคอยช่วยเหลือหรือร่วมแรงร่วมใจพัฒนา...

มีอีกประเด็นที่ต้องการจะบอกเล่า ก็คือ ตอนนี้สมภารมีโทรศัพท์เครื่องใหม่ สามารถใช้ไลน์ได้ ตามการสนับสนุนของบรรดาญาติโยมที่ใกล้ชิดกับวัด แต่ก็ยังเล่นไม่ค่อยจะเป็น ใช้ไม่ค่อยจะถูก ซึ่งประเด็นนี้ ก็ต้องค่อยๆ พัฒนากันต่อไป... โลกเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อเรายังอยู่กับสังคม หลายอย่างเราก็ต้องร่วมสมัย มิฉะนั้น เราจะอยู่ไม่ได้ โดยส่วนตัวแล้ว สมภารไม่ได้หลงใหลกับบรรดาเทคโนโลยี่สมัยๆ เหล่านี้เลย..

ปีนี้ก็ขอบอกเล่า หรือบ่น ! เพียงแค่นี้ ปีหน้าถ้าไม่มรณภาพเสียก่อน ค่อยติดตามตอนต่อไป....

คำสำคัญ (Tags): #พรรษาที่ ๓๐
หมายเลขบันทึก: 578476เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2014 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม 2015 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

นมัสการ พระคุณเจ้า พระมหาชัยวุธ 

ฟังสมภารบ่น วันออก พรรษา ได้คิดและตามเรื่องราวของวัดยางทอง (ไม่ลองมาเป็นสมภารไม่รู้ว่าปัญหามากมาย)

และได้รู้ว่าสมภารท่านก็มีไลน์มาสื่สาร 

มีเพื่อนส่งไลน์มาให้อ่านแล้วถูกใจ  อานิสงส์ของการมีไลน์

https://www.gotoknow.org/posts/575158    

แต่ว่าอันตรายคือมักพิมพ์ผิดในข้อความ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท