การฟังบรรยายในหัวข้อของเวลา ครูสมาธิได้พูดว่า "มีอยู่ 3 อย่างในชีวิตคนเรานะ ที่เราเรียกกลับคืนมาไม่ได้ .... นั่นคือ
1. โอกาสดีที่พลาดไปแล้ว
2. คำพูดที่พูดออกไปแล้ว (เพราะคำพูดที่พูดไปแล้วนั้น เมื่อเราพูดออกไปแล้วมันจะเป็นนายของเราทันที.. จำไว้)
3. เวลาที่ใช้ไปอย่างสูญเปล่า ครูบอกว่าช่วงชีวิตคนเราที่เกิดมานั้น(คิดเฉลี่ยเมื่ออายุ 60 ปี) เราใช้เวลาหมดไปกับการนอนไม่ต่ำกว่า 23-24 ปี เลยทีเดียว
..
ทำไม! ครูถึงพูดสิ่งนี้
มันทำให้ข้าพเจ้าคิดต่อว่า...เราจะทำอย่างไรดีกับสิ่งที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้นี้ให้มันเหมาะสมที่สุดกับตัวเอง
..
..
มันเป็นข้อเตือนสติเราที่มีค่ายิ่ง...ข้าพเจ้าคิดเช่นนั้น
และวันนี้ ข้าพเจ้าได้พบอะไรบางอย่าง ที่แอบวิ่งหนีข้าพเจ้าอยู่เรื่อยมา มันวิ่งหนีข้าพเจ้าเสมอมา จนกระทั่งวันนี้!! ข้าพเจ้าเข้าไปตะครุบมันเอาไว้ และกว่าที่ข้าพเจ้าจะตะครุบสิ่งนี้ไว้ได้.... ร่างกายของข้าพเจ้าก็เริ่มอ่อนล้าลงไปทุกขณะ
..
ข้าพเจ้าดีใจ.....ที่ได้เก็บสิ่งนี้ไว้กับตัวเอง
..
สิ่งนี้เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงของใจ และจะคอยประคับประคองให้ใจของเรานั้นมันไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ทำให้เราได้เห็นอารมณ์ของตัวเอง และได้คอยเฝ้าดูมัน เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเจ้าอารมณ์นี้ ไปสู่อีกอารมณ์หนึ่ง
การเฝ้าติดตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี้เอง ----------------------->ที่เป็นหน้าที่ของ "สมาธิ"
สมาธิตัวนี้เองที่ทำเวลาไหน ก็ได้เวลานั้น------------------------->เพียงแค่เรา บริกรรม "พุทโธ" เราก็ได้สมาธิแล้ว
สมาธิเป็น "อกาลิโก" นะ เพราะสมาธิจะไม่เลือกเวลา เราทำเวลาไหน ย่อมได้เวลานั้น
และที่สำคัญไปกว่านั้น เราควรกำหนด สิ่งนี้ ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ
..
..
เวลาที่เราใช้ให้มันสูญเปล่าไปในแต่ละวันโดยหาประโยชน์อันใดไม่ได้........ จึงเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก
..
ครูบอกข้าพเจ้าว่า "เวลาเป็นสิ่งมีค่า คนแต่ละคนใช้เวลาแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นอยู่ที่ใครต่างหากที่จะสามารถใช้เวลาให้มีค่ามากกว่ากัน เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตคนเรานั้นมันหดสั้นลงทุกวัน ๆ เราจะสะสมสมาธิที่เป็น"อริยะทรัพย์" นี้ ไปกับตัวของเราได้มากน้อยแค่ไหน ก็ย่อมขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยเช่นกัน"
..
...
ในเทปคำบรรยายหลวงพ่อวิริยังค์ ท่านพูดไว้ว่า ...."พุทโธ" นั้นแปลว่า "รู้อยู่" มันเป็นพุทธะ ก็คือ ผู้รู้ นั่นเอง คำว่า "พุทโธ" เป็นคำที่สามารถบริกรรมได้ทุกสถานะ ถูกต้องและถูกเวลา เราทำเท่าไร?....... ย่อมได้ผลเท่านั้น.....(หลวงพ่อพูดทำให้ข้าพเจ้าคิดต่อ..ท่านคงหมายถึง เราทำมาก ย่อมได้อานิสสงส์มากนั่นเอง ) และที่สำคัญต้องทำอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ได้ทำนี้ ถือเป็นการเพิ่มพลังจิตให้กับตัวเรา โดยสามารถแบ่งพลังจิตนี้ออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่
- พลังจิตหลัก ------------------> พลังจิตนี้จะตามติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ มีมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ พลังจิตหลักนี้ จะอยู่ตรงจิตของเราที่เรากำหนดไว้ มันจะอยู่ตรงนั้น เสมอและตลอดไป
- พลังจิตเฉลี่ย ------------------> เป็นพลังจิตที่เราได้รับมา และใช้หมดไปในชีวิต มี 40 เปอร์เซนต์
..
หลวงพ่อยังบอกอีกว่า....สมาธิที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เกิดปัญญา และสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ คนที่เคยทำสมาธิแล้ว สมาธินี้จะเข้าไปแทรกขณะที่เราทำงานหรือเราแก้ไขปัญหาต่าง ๆในขณะนั้น ได้ัทันที
..
ข้าพเจ้า....สาธุกับสิ่งที่ข้าพเจ้่าได้รับรู้ในวันนี้ รู้สึกอิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก
มา สาธุ ค่ะคุณแสงแห่งความดี ครูทิพย์ก็ชอบอ่านธรรมะค่ะ แต่รู้ตัวเองว่าเป็นคนไม่ค่อยมีสมาธิ แต่ก็พยายามฟัง บ่อยๆ บางครั้ง ฟังแล้วฟังอีก