YC 2


จะเดินได้มากหรือน้อย อันนี้ ขึ้นอยู่กับพลัง เเละการเสริมพลัง

การ AAR จากการไปดูงาน โรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ ของกลุ่ม YC 

        วันนี้วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๗ เป็นการ AAR จากการไปดูงานกิจกรรม yc ณ โรงเรียนอุ่มเม้ามาอย่างจริงจัง โดยเมื่อวานนั้นเป็นเพราะบรรยาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการถอดบทเรียนจากการไปดูงาน

        วันนี้เป็นการชวนมาถอดวิธีการหรือคลี่วิธีการของเขาออกมา ซึ่งแต่ละคนก็มีสิ่งที่เห็นและประทับใจ ก็เลยชวนให้ลองคลี่วิธีการต่างๆเหล่านั้น ออกมาว่าเขาทำอย่างไร เห็นเสียงบอกว่า เห็น ความสามัคคี เห็นความกล้าแสดงออก เห็นความชำนาญของเขา เห็นการบูรณาการที่เกิดขึ้น ถามต่อไปว่าได้เรียนอะไรบ้าง เด็กก็ feedback กลับมาว่า
๑.ได้เรียนรู้วิธีการทำงานของเขาโดยเขามีเครือข่ายทั้งภายนอกเเละในโรงเรียน
๒.ได้เรียนรู้วิธีในการเข้าถึวในห้องเรียนโดยจะมีเด็กๆแกนนำอยู่ทุกห้องเรียนห้องละ ๑๐ คน
๓.ได้เรียนรู้ว่าเจาทำงานร่วมกันกับสภานักเรียน
๔.ได้เรียนรู้ว่าเขาบูรณาการงานหลายๆด้านในโรงเรียนเข้าไว้ด้วยกัน
๕.ได้เรียนรู้ว่าเจาแย่งเคสการทำงานออกเป็นประเภทๆไป ..

        ชวนมาคิดทุนที่เรามีอยู่แล้วในตอนนี้มีอะไรบ้าง เด็กก็บอกว่า ทุนทางเครือข่ายภายใน ที่เป็นผู้ทำ มีดังนี้
๑.มีสภานักเรียน
๒.มีฮักนะเชียงยืน
๓.มีกลุ่ม วายซี 


        ทุนทางผู้ในทุนทั้งที่ให้เงินเเละหลักคิด ความรู้ มีดังนี้
๑.โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม
๒.โรงเรียนอุ่มเม้า
๓.ฝ่ายบริหารทั่วไปโรงเรียน
๔.สภานักเรียน และ ฮักนะเชียงยืน
๕.ครูที่ปรึกษาทุกๆท่าน
        เครือข่ายภายนอก เห็นดังนี้
๑.รพ.เชียงยืน
๒.วาดราฏษ์สังคม
๓.อาศรมต้นบาก
๔.โรงเรียนบ้านเชียงยืน
๕.โรงเรียนบ้านหนองซอน


        จากนั้นก็ชวนมาเชื่อมโยงเครือข่ายภายในการทำงานของเรา โดยมีเมนหลักอยู่ ๓ ส่วน ได้แก่ วายซี สภานักเรียน เเละฮักนะเชียงยืน ซึ่งแต่ละหน่วยก็ประกอบด้วยดังต่อไปนี้
๑.กลุ่มวายซี จะประกอบด้วย การให้คำปรึกษา ที่มี ด้านการเรียน ด้านกิจกรรม ด้านครอบครัว ด้านสุขภาพ ด้านอื่นๆ
๒.กลุ่มสภานักเรียน จะประกอบด้วย ๔ ฝ่าย ที่มี การเรียน กิจกรรม สารวัตร เเละทั่วไปหรือการงานนั่นเอง
๓.กลุ่มฮักนะเชียงยืนที่ประกอบด้วย ๕ โครงการ ได้เเก่ ปลูกใตรักษ์โลก โรงเรียนวันสุข samsung ยุวเกษตร เเละกลุ่มวิจัย IS
เเล้วก็ชวนมาคิดต่อว่า "ลองโยงดูซิว่าอันไหนเข้ากันได้" ซึ่งเด็กก็โยงๆกัน ซึ่งก็ได้ตามที่เขาจัด ซึ่งเขาจะจัดเป็นประเภท เข่นการเรียนก็อยู่กับการเรียน กิจกรรมก็อยู่กับกิจกรรม ยุวก็ไปในเรื่องสุขภาพ ฯ
แล้วๆสุดท้ายเราก็ชวนคิด มาตั้งโมเดลการทำงานขึ้นมา โดยเด็กมีวิธีการทำงาน ดังนี้
๑.การคัดเลือก วายซี ที่เป็นเครือข่สยในห้องเรียน
๒.การอบรม ปรับฐานการคิดเเกนนำ วายซี ที่เอาใจมาก่อนเเล้วมาเกลาทีหลัง
๓.การเปิดคลีนิคการทำคำปรึกษา โดยมีอยู่ ๒ ที่ เเล้วก็มีนอกสถานที่ด้วย ขึ้นอยู่กับดหตุกาณ์นั้นๆ
๔.การสร้างเครือข่ายนอกโรงเรียน ที่เป็นการขยายผลสู่โงเรียนบ้านเชียงยืน เเล้วขยายผลลงสู่โรงเรียนในชุมชน บ้านแบก บ้านหนองซอน
๕.การจัดกิจกรรม การใก้คำปรึกษา แบบของ วายซี ในเคสต่างๆ
๖.การติดตามผลของกิจกรรมที่ทำไปทั้งหมด
๗.การสรุปงานของกิจดรรม วายซี
๘.การสร้างรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนรุ่นพี่ สืบสายเลือด
        นอกจากนี้ยังได้คลี่วิธีทำงานของวายซีที่เขา มีความคิดว่า คนที่เป็นวายซีสิ่งสำคัญเลย คือ จะต้องสามารถปรึกษาได้ทุกๆเรื่อง เพราะ หากเราแบ่งแยกเเค่ว่าเคสนี้ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นเกิดการโอนงานกันเกิดขึ้น เด็กที่มาปรึกษาอาจรู้สึกไม่ไว้วางใจ แล้วทำให้เหตุการณ์แย่กว่าเดิม ซึ่งถ้าจะโอนจริงก็ต้องถามความคิดเห็นเขาก่อน ให้เกียรติเขาสูงสุด ซึ่งถ้าปรึกษาคนเดียวไม่ได้ ก็มีกลุ่มเดียวกัน ถ้าดป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก ที่อาจเป็นปัญหาเขิงสังคม เเละโครงสร้าง ก็ปรึกษาครูเสมอๆ
ท่าน เจมส์เป็นประธาน ที่จะพาเขาเดินไป .,, จะเดินได้มากหรือน้อย อันนี้ ขึ้นอยู่กับพลัง เเละการเสริมพลัง.., นอกจากเรื่องนี้ ที่สำคัญที่เป็นงานใหญ่ คือ กาพัฒนา เด็ก วายซี ให้จับตนเองได้ก่อน ก่อนที่จะไปให้การปรึกษาคนอื่นๆได้.. ยังต้องเดินทางอีกไกล วายซี

.

.

.

.

.

หมายเลขบันทึก: 574584เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2014 20:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม 2014 18:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สุดยอดไปเลยครับ ขอชื่นชมกิจกรรม ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ ขอศึกษาเป็นแนวทางนะครับ 

ขอบคุณทุกท่าน ที่มาให้กำลังใจครับ.. 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท