ไม่น่าเชื่อว่าสังคมปัจจุบันที่เรากำลังชื่นชม เป็นเพียงผิวที่เรามองว่าสวยงาม แต่หากเจาะลึกๆลงไปแล้วสังคมเยาวชนไทยดูแล้วน่าเป็นห่วง จริงไม่จริงก็มีข้อมูลจากวิทยากรว่าเดี๋ยวนี้ สตรีไทยดื่มเบียร์เก่งกว่าชายไทย และอายุที่เริ่มต้นอยู่ที่อายุ 18
การจัดสัมมนาเพื่อพิจารณาทบทวนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของม.ขอนแก่น โดยฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา แม้ว่าคนจะเข้าร่วมน้อย แต่ก็มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้บริหาร และภาคเอกชน กลุ่มสายสนับสนุนและศิษย์เก่า และที่ขาดไม่ได้คือกลุ่มของนักศึกษา
เรื่องนี้เราพูดกันมานานแต่การนำลงสู่การปฏิบัติยังไม่จริงจัง เราต้องยอมรับความจริงว่า สถานศึกษาทุกแห่งต้องการผลิตนักศึกษาให้ เก่งงาน เก่งคน และเก่งวิชาการ แต่การที่จะเก่งสิ่งเหล่านี้ต้องมี "จิตสำนึก" หากขาดจิตสำนึกแล้วทุกคนคงลืมบทบาทหน้าที่จนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นบทบาทหน้าที่ของนักศึกษาที่ต้องมีชีวิตในสถานศึกษาอย่างน้อย 4 ปี
แต่เชื่อไหมว่าเรื่องนี้ไปสอดคล้องกับ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ที่จะจัดหลักสูตร พัฒนาบุคลิกภาพและศักยภาพของมนุษย์ขึ้น หากหลักสูตรนี้เกิดขึ้นมาจริงเปรียบเสมือนยาที่ใส่ในแคปซูล มาเยียวยาสังคม แต่อย่าลืมความจริงหากจะให้ได้ผลในเรื่องนี้ HR เราต้องให้ความรู้แก่นักศึกษาหรือให้นักศึกษามีส่วนรู้ส่วนเห็นมากกว่าที่เราจะเขียนออกมา ว่า นักศึกษาต้องมีจิตสำนึก บุคลิกภาพดี และเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ และก็เวียนหนังสือให้ทราบกันเท่านั้น
เชื่อไหมว่า มีคำถามกลับมาว่า ในเมื่อเราต้องการบัณฑิตที่พึงประสงค์ และอาจารย์หรือบุคลากรมหาวิทยาลัยที่พึงประสงค์เป็นอย่างไร? ไม่แตกต่างกับเรื่องแม่ปูกับลูกปูที่พยายามเรียนรู้ซึ่งกันและกัน หากไม่รีบแก้ไขเชื่อได้ว่าสิ่งดีๆสำหรับนักศึกษาและเยาวชนไทยคงหมดไปจากวัฒนธรรมความเป็นไทย
ในที่นี้ผมขอสรุปผู้แทนของนักศึกษา(นายวิวัฒน์) อดีตประธานสภา ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ บอกว่าอยากเห็ฌนนักศึกษา เก่งดี มีสุข นอกจาก 12 ข้อที่มหาวิทยาลัยกำหนดแล้ว ต้องเพิ่ม ทักษะการกล้าแสดงออกและความเป็นผู้นำ พร้อมด้วยทักษะการรักองค์กรและท้องถิ่น ซึ่งก็สอดคล้องกับความคิดเห็นของภาคเอกชน ที่อยากรับคนเข้าทำงานไม่ใช่แค่เรียนเก่งแต่ตำรา แต่ต้องสามารถนำมาประยุกต์ใช้
แต่บทบาทของศิษย์เก่าและสายสนับสนุนที่อยากเห็นคือความมีจิตสำนึกและบุคลิกภาพดี แต่การสัมมนาครั้งนี้มีแนวทางกลุ่มย่อยอีก 3 กลุ่ม โดยสรุป กลุ่มที่ 1ผู้บริหารและภาคเอกชน มองว่าบัณฑิตที่พึงประสงค์ ต้อง 3 เก่ง เก่งคน เก่งงาน เก่งวิชาการ และในที่นี้เก่งคนต้องมีส่วนของเรื่อง “บุคลิกภาพ” มาเกี่ยวข้อง กลุ่มที่ 2 สายสนับสนุนและศิษย์เก่า ฟันธงไปที่เรื่อง “บุคลิกภาพ” เป็นหัวใจในการนำไปสู่บัณฑิตที่พึงประสงค์กลุ่มที่ 3 นักศึกษา สรุปแนวทางอยู่ 8 ข้อ สาระสำคัญ เช่น มีความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัย มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์ทั้งร่างกาย-จิตใจ และอื่นๆ
โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วเราอย่าโยนปัญหาเหมือนเล่นลูกช่วง การสร้างจิตสำนึกดีบุคลิกภาพที่ดี เพื่อเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ มันต้องปลูกฝังจากครอบครัว โรงเรียนอย่างจริงจังและยั่งยืน ก่อนที่จะมาเป็นนักศึกษาเพื่อเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์
ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ช่วยกันShareหรือเขียนเป็นข้อๆ หากมีการสรุปของเวทีนี้ที่ชัดเจนจะได้มาแลกเปลี่ยนเรีนรู้กันต่อไป
ชำนาญ บัวทวน