ป้องกันไวรัสที่มาจากอินเตอร์เน็ต


วิธีการป้องมัลแวร์ วิธีการหรือคำแนะนำทั่วๆ ไปในการป้องกันมัลแวร์นั้น มีดังนี้

1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและสปายแวร์ โดยต้องทำการอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสและสปายแวร์อย่างสม่ำเสมอ (แนะนำให้ทำการอัพเดททุกๆ วัน)

2. ทำการสแกนไวรัสอย่างสม่ำเสมอ

3. ปิดการใช้งาน Autoplay ในทุกๆ ไดรฟ์

4. ทำการสแกนสื่อเก็บข้อมูลแบบพกพาทุกครั้ง ก่อนการใช้งาน5. ในกรณีที่ต้องทำการแชร์ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ให้ทำการแชร์แบบอ่านอย่างเดียว (Read Only) เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) ถ้าจำเป็นต้องทำการแชร์แบบ Read-Write ให้กำหนดรหัสผ่านสำหรับการแชร์แบบ Write ทุกๆ ครั้ง

6. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง และป้องกันการสูญหายของข้อมูลเนื่องจากระบบวินโดวส์เสีย ให้แยกข้อมูลต่างๆ ไปเก็บไว้บนไดร์ฟไม่ใช่ไดร์ฟที่ระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่

7. เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลเนื่องจากฮาร์ดดิสก์เสียให้ทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญๆ ลงแผ่นซีดีหรือดีวีดี

8. ทำอิมเมจของไดร์ฟที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อใช้ในการกู้คืนระบบในกรณีที่วินโดวส์หรือฮาร์ดดิสก์เสีย

9. ไม่ควรติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ได้มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ได้มาจากการดาวน์โหลดไพรเรทเว็บไซต์ (คือเว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์) บนอินเทอร์เน็ต หรือติดตั้งโปรแกรมที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือนโยบายขององค์กร เนื่องจากอาจทำให้เครื่องมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) สูงขึ้น

10. ไม่ควรติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นในการทำงาน เพราะนอกจากอาจทำให้เครื่องมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ และ มัลแวร์ (Virus, Spyware and Malware) สูงขึ้นแล้ว ยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงได้

11. กำหนดรหัสผ่านให้กับ Administrator และทำการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและเป็นความลับ

วิธีการหรือคำแนะนำด้านบนนั้น เป็นวิธีการทั่วไปในการป้องกันมัลแวร์ โดยวิธีเหล่านี้ช่วยป้องกันมัลแวร์ได้ผลดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันปัญหาได้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ เนื่องจากมัลแวร์เองนั้น ก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคการหลบเลี่ยงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถแฝงตัวเข้าไปติดในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การที่มัลแวร์จะเข้าไปติดในเครื่องได้นั้น ไฟล์ไวรัสจะต้องถูกทำการรันเสียก่อน ดังนั้นถ้าเราสามารถป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ทำการรันไวรัส โอกาสที่เครื่องจะติดไวรัสก็จะลดลงไปด้วย

ข้อมูลจาก Thai Windows Administrator

http://www.stc.ac.th/stc/index.php?option=com_content&view=article&id=66:stc-virus-2552-&catid=37:article-it&Itemid=58

หมายเลขบันทึก: 572891เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2014 19:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม 2014 19:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท