เด็กช่างถาม พ่อช่างตอบ


เรื่องการสร้างความมั่นใจในตนเองให้ลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ เด็กที่ไม่มั่นใจจะเป็นเด็กที่ไม่กล้าถาม ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงออก ตอบแต่ไม่รู้อยู่อย่างเดียว

การรู้จักพูดคุยกับลูกเป็นเรื่องที่มีผลอย่างมากต่อการสร้างความมั่นใจให้ลูกค่ะ พ่อแม่ต้องมีสติและหาจังหวะพูดคุยให้เหมาะสมค่ะ

อนนี้แม่กับพ่อพยายามฝึกที่จะมีสติไม่พูดคำว่า "อย่า" กับลูกค่ะ เช่น อย่าจับแก้วเล่นนะ เป็นคำพูดเชิงลบค่ะ แม่ควรพูดว่า จับให้แน่นนะลูก ระวังแก้วตก ซึ่งเป็นคำพูดเชิงบวกค่ะ

ต้องฝึกค่ะ ต้องฝึก!!! แม่ก็จะพยายามฝึกค่ะ

ถ้าลืมเมื่อไรก็ลองเปิดเพลง Oldies music นี้ฟังนะคะ ของ Bobby Bare ค่ะ เพลงชื่อว่า Daddy What If ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กช่างถาม และคุณพ่อก็ตอบเชิงบวกได้ตลอดค่ะ น่ารักมากและสอนใจพ่อแม่ได้ดีทีเดียวและเรียกน้ำตาค่ะ


Daddy What If

(Daddy what if the sun stop shinin', what would happen then?)

If the sun stopped shinin' you'd be so surprised

You'd stare at the heavens with wide open eyes

And the wind would carry your light to the skies

And the sun would start shinin' again.

(Daddy what if the wind stopped blowin', what would happen then?)

If the wind stopped blowin' then the land would be dry

And your boat wouldn't sail son and your kite wouldn't fly

And the grass would see your troubles and she'd tell the wind

And the wind would start blowin' again.

(But daddy, what if the grass stopped growin', what would happen then?)

If the grass stopped growin' why you'd probably cry

And the ground would be watered by the tears from your eyes

And like your love for me the grass would grow so high

Yes, the grass would start growin' again.

(But daddy. what if I stopped lovin' you, what would happen then?)

If you stopped lovin' me then the grass would stop growin'

The sun would stop shinin' and the wind would stop blowin'

So you see if you wanna keep this old world a goin'

You better start lovin' me again, again, you better start lovin' me again.

You hear me Bobby, you better start lovin' me again.

You love me Bobby, you better start lovin' me again...

หมายเลขบันทึก: 570327เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2014 10:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน 2016 14:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอนำไปประกอบตัวอย่างเทคนิคการเลี้ยงลูกให้ "เก่ง ดี มีความสุข" ตอน "เจรจาให้สร้างสรรค์ ที่จะลงในบันทึกเรื่องข้างล่าง ตอนที่ 2 ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ 

น่ารักจังเลยนะคะ เพลงเค้า 

มาช่วยยืนยันค่ะว่า positive thinking เป็นสิ่งที่ยิ่งฝึกยิ่งดีทั้งกับตัวเราและเด็กๆ เป็นคนโลกสวยยังไงๆก็ดีแน่นอนค่ะ โลกสวยไม่ได้แปลว่าเจอเรื่องไม่ดีไม่ได้ แต่โลกสวยทำให้เห็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ในเรื่องร้ายๆได้เสมอ

...เป็นเพลงสำหรับครอบครัวที่ให้แนวคิดดีทั้งเด็กและผู้ใหญ่...น่ารักมากๆนะคะ

น่ารัก อบอุ่น ชอบมากค่ะ 

เรียน อ.จันทวรรณ

สำหรับลูกผม ช่วงวัยเด็กผมพยายามฝึกให้เค้ากล้าคุย กล้าถาม เช่น ไปตลาด พาเค้าไปดูสินค้า เจออะไร สงสัย อยากรู้ว่าผักนี้ชื่ออะไร ผมก็ให้เค้าถามและคุยกับพ่อค้า แม่ค้า หรือเมื่อเดินทางไปที่ต่างๆ ก็ฝึกให้เค้าอ่านป้าย อ่านรายละเอียดที่บอก หากไม่เข้าใจ ก็ฝึกถามกับเจ้าหน้าที่

จนปัจจุบันเค้ามาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการเรียน เช่น ในห้องเรียน เค้า กล้าที่จะทักทวง สอบถามอาจารย์ เมื่อพบการเฉลยที่ผิด หรือ มีข้อสงสัย บ่อยครั้ง ต้องถามแทนเพื่อน เพราะเพื่อนไม่กล้า ครับ

การใช้ชีวิตประจำวัน การเรียนการสอน ต้องฝึกให้เด็กกล้าถาม  แสดงความคิดเห็น 

แต่หลายๆ ครั้งที่มีการคิดแบบอคติ คิดว่า.. ลองภูมิ ลองความรู้ผู้สอน 

การคิดเชิงบวก ต้องช่วยกันฝึก และส่งเสริม ครับ

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆ มาแบ่งปัน ครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท