myBetterLifeโปรเจ็ค
มีสอง-สามแรงจูงใจที่ทำให้ฉันวางแผนและจัดทำโปรแกรมนี้ขึ้นมา
หนึ่งนั้นมาจากแนวคิดของจันทร์เมามายที่เขาทำการลดหุ่นเพาะกล้าม
สองมาจากกระแสข้อมูลเกี่ยวการส่งเสริมสุขภาพที่ทำให้ฉันเริ่มๆเครียดแล้วว่าตัวเราเองก็ยังไม่ได้เป็นต้นแบบที่ดีนักแก่ผู้รับบริการเพราะฉนั้นถ้าเขาจะดื้อหรือคงทำอะไรที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพอยู่โดยใช้เหตุผลเดิมๆว่าคงจะทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้อีกแล้วฉันก็คงจะเถียงเขาไม่ได้เต็มปากเพราะตัวเราเองก็ยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงตนเองให้ดีขึ้นมาเลย
สามมาจากการไปตรวจสุขภาพประจำปีที่ผ่านมา มีของไม่ควรเพิ่มแต่ก็ได้เพิ่มขึ้นมาสามอย่าง นั่นก็คือ น้ำหนักตัว ไขมันในเลือด ปริมาณเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ...โอยแย่แล้วถูกเชิญไปพบแพทย์ คุณหมอก็ใจดีสั่งยามาให้สี่ห้าอย่าง...ไอ้เจ้ายาบางตัวกับฉันนั้นมันคงไม่ถูกกันแน่ๆเพราะกินไปแค่สองวันแรกความรู้สึกแย่มากๆวิงเวียน พะอืดพะอม..นึกถึงคนไข้กินยาต้านฯหลายๆเม็ดเขาคงทุกข์และเบื่อกว่าที่ฉันเป็นอยู่นี้อย่างแน่นอน..เฮ้อขอสารภาพว่าความที่วิงเวียนมากๆทำให้การกินยาในวันที่สามและสี่มีแอบๆเบี้ยวหรือลืมกินไปบางเม็ดอยู่เหมือนกันแต่เคราะห์ดีหรือร้ายก็ไม่รู้ที่moomiเขาอยู่ใกล้ๆคอยเตือนให้กินข้าวกินยาจึงหลุดไปไม่มาก...
มานั่งคิดทบทวนว่าจริงๆทุกวันนี้ชีวิตก็ถือว่าดี..มีความสุขแต่ถ้าทำให้ดีกว่าเดิมได้อีกแล้วอะไรหนอคือปัญหาหรืออุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...จึงมาคิดๆนอนๆตอนเวลาแพ้ยาก็ได้คำตอบมาสองคำตอบ...หนึ่งนั้น..มาจากธรรมชาติของคนเราที่ไม่อยากเจอหรือเปลี่ยนแปลงอะไรมันจะมีแรงต่อต้านเกิดขึ้น เช่น จะเปลี่ยนใหม่ไปทำไมของเก่าก็ดีแล้วนี่..หรือ แน่ใจจริงๆหรือว่าเปลี่ยนแล้วจะดีขึ้น
สองมาจากไม่มีความอดทนและแรงจูงใจที่ชัดเจนเพียงพอ..อาทิเช่น ถ้าทำไปไม่สำเร็จแล้วก็ไม่เป็นไรไว้ค่อยเริ่มต้นใหม่วันหลัง...หรือ รุนแรงหน่อยก็เช่น อันนี้มันเป็นเรื่องของ..ไม่เกี่ยวกับคนอื่น เป็นต้น
มานั่งคิดต่อว่าอยากปรับปรุงอะไรในช่วงปีนี้ให้ดีขึ้นกว่าเก่าและอยากให้มันเป็นพฤติกรรมที่มีผลต่อสุขภาพทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงก็ได้...เลือกทดลองทำดูสองกิจกรรมคือ ตั้งโปรแกรมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอของตนเองมากขึ้นกว่าปีก่อนและโปรแกรมการเพิ่มความถี่ในการชั่งน้ำหนัก
เหตุผลเนื่องจากเป็นสภาวการณ์ฉุกเฉินที่ถ้าไม่จัดการดูแลในไม่ช้าฉันอาจต้องกลายเป็นเบาหวานหรือเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อัมพฤกษ์-อัมพาตเป็นแน่ซึ่งขนาดช่วงนี้กินยาชั่วคราวแค่เดือนเดียวก็รู้สึกทุกข์ยากมากถ้าต้องกินยายาวนานไปตลอด..โอยเครียด..ไม่อยากนึกถึง..ตอนนี้ก็จะพยายามทานบรรดาอาหารบำรุงและเครื่องดื่มสุขภาพต่างๆที่ช่วยลดไขมันและลดอนุมูลอิสระต่างๆไม่คิดว่าชอบหรือเพราะว่ามันอร่อยถูกปาก หากแต่มองในด้านความมีประโยชน์เสียหล่ะมากกว่า..น้ำสำรอง น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล แก้วมังกร ผักกวางตุ้งคึ่นช่าย ผักและสลัดน้ำใส ปลานึ่งมะนาว เฮ้อช่วงนี้จะกินมากกว่าเดิม ส่วนKFCและSwensen'sช่วงนี้เราไม่รู้จักกัน,ไม่คิดถึงหรือเข้าไปอุดหนุนชั่วคราว..ดูโทรทัศน์พอเริ่มเห็นโฆษณาฟาสต์ฟู้ดต่างๆก็จะรีบเปลี่ยนไปดูช่องอื่น..บางทีก็ไม่ดูโทรทัศน์เลยแต่อ่านหนังสือกับฟังวิทยุ...ช่วงนี้กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาหารเพิ่มการเผาผลาญอยู่ดูรายการอาหารแนะนำบางรายการรู้จักและเคยกินแต่บางรายการยังไม่แน่ใจว่าจะกินลงหรือเปล่าแต่อ่านอย่างเดียวไม่ทำการลงมือควบคุมไปด้วยคงยากที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วดีขึ้น
ในโปรแกรมสองกิจกรรมนั้นฉันทำแบบบันทึกรายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติไปด้วยช่วงเดือนแรกนี้เป็นช่วงเก็บข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการมีความสม่ำเสมอในตัวเองว่าจะคงพฤติกรรมที่ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงไปได้นานแค่ไหน
ซึ่งวันนี้เป็นวันที่แปดแล้ว..ตามกติกาที่ตั้งขึ้นพบว่าทำได้ตามที่กำหนดอยู่ได้แค่สามวันแรกส่วนวันที่สี่ถึงเจ็ด ลืมมั่งขี้เกียจมั่งมาวันที่แปดค่อยดีขึ้นมาหน่อยแต่ก็ต้องทำต่อไปไม่เปลี่ยนจนกว่าจะครบกำหนด1ปี..
ความเห็น (5)
แวบมาอ่านขอรับ
ดีใจที่เห็นพี่เอาใจใส่สุขภาพครับ ก้าวแรกอย่าเพิ่งหักโหมมากนะครับ ให้ค่อยๆ ทำไปดีกว่าครับ ถ้าหักดิบเดี๋ยวทนไม่ได้ก็กลับมาเหมือนเดิม
ช่วงที่ผมลดน้ำหนักแรกๆ ก็ค่อยๆ ลดเมนูลงครับ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การยอมรับตัวเองครับว่าที่ผ่านมาเราเป็นอย่างไรและเราทำได้แค่ไหน
หนทางแม้ยาวไกลก็ต้องมีก้าวแรกครับ เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ
ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการมากค่ะ
ส่วนคำแนะนำของ จมม.จะทำตามที่แนะนำค่ะ,Thanks!
ขอแนะนำอีกนิดนะครับ (จะหาว่ายุ่งมากไปป่าวไม่รู้)
ช่วงก้าวแรกจะเห็นผลช้าหน่อยครับ ดังนั้นเราต้องยอมรับว่าเราตั้งเป้าจริงเท่านี้นะ แล้วทำได้เท่านี้นะ ถ้าสำเร็จเราจะฮึกเหิมมากครับ
ของผมตอนแรกตั้งเป้าไว้ครึ่งกิโลทุก 2 อาทิตย์พอสำเร็จกำลังใจก็มา ความเชื่อมั่นก็ทยอยตามมาครับ