nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

ดูหนัง JIRO DREAMS OF SUSHI _จิโระ เทพเจ้าซูชิ


          เป็นหนังสารคดีเล่าเรื่องของชายวัย ๘๕ ปีชื่อ “จิโระ” เจ้าของตำนานร้านซูชิแพงที่สุดในโลก

          นักกินที่ชื่นชอบซูชิไม่มีใครไม่รู้จัก จิโระ (Jiro Ono)

          จิโระอายุ ๘๕ ปีและยังทำซูชิให้ลูกค้ากินอยู่ที่ร้านชื่อ Sukiyabashi Jiro ที่ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกินซ่า   ขายซูชิเป็นชุด ๒๐ คำราคาตั้งต้นที่ ๓๐๐๐๐ เยน (ประมาณ ๑๐๐๐๐ บาท ถ้าไม่สั่งสาเก)    ได้ดาวมิเชลิน ๓ ดาวรับประกันคุณภาพ การไปนั่งกินที่ร้านคุณปู่ได้ที่ยากกว่าการต้องมีเงินคือต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย ๑ เดือน    ทั้งร้านมี ๑๐ ที่นั่ง   รับเงินสด และ   เปิดบริการช่วงเที่ยงและเย็นช่วงละ ๓ ชั่วโมงเท่านั้น

          ดูหนังมาเยอะ   แต่ไม่เคยดูหนังในเวลาเดียวกันซ้ำได้ ๓ รอบ ด้วยประทับใจวิธีคิดของจิโระ   เรื่องราวของซูชิที่เคยคิดว่ามันก็ “แค่ข้าวปั้น จะอะไรนักหนา”   กับ หนังสารคดีที่ถ่ายทอดและถ่ายทำได้สวยงาม


          อาหารที่ดูง่ายๆ วางขายทั่วไปในห้าง   ร้านเล็กร้านน้อย   แต่สำหรับร้าน ๑๐ ที่นั่งของจิโระ   การทำซูชิประณีตทุกขั้นตอน   ตั้งแต่การเลือกปลาที่ต้องดีที่สุด  ใครจะไปนึกว่าปลาแต่ละตัว แต่ละวัยอร่อยไม่เหมือนกัน...เฮ้ย...คนเลือกปลาที่ตลาดปลาจึงต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ (ตามสไตล์คนญี่ปุ่น ที่ทำอะไรต้องให้ดีที่สุด_ไปหาหนังสารคดีว่าด้วยตลาดปลามาดูได้อีกเรื่อง) 

          การเตรียมปลาก่อนมาถึงปากผู้กิน  การนวดปลาหมึกยักษ์นานเกือบชั่วโมงเพื่อให้เนื้อนุ่มหอม  การรมควันปลาด้วยฟาง  การย่างแผ่นสาหร่าย  การเลือกข้าวที่ขายให้เฉพาะร้านจิโระ และการหุง  ทุกอย่างไม่ธรรมดา   เราไม่เคยรู้มาก่อนว่า ข้าวสำหรับปั้นนั้นต้องมีอุณหภูมิเท่าร่างกายเราขณะส่งเข้าปากเพื่อให้ดึงรสชาติของปลาออกมาได้อร่อยกลมกลืน   และซูชิที่อร่อยต้องกินเมื่อทำเสร็จใหม่ๆ   ทุกวันจิโระที่อายุ ๘๕ ปีแล้วจึงยังคงยืนปั้นซูชิวางให้ลูกค้ากินที่หน้าร้าน

          จิโระออกจากบ้านเพื่อทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ ๙ ขวบ  ทำงานด้วยอุตสาหะวิริยะ  และด้วยความฝันที่จะทำซูชิที่แตกต่าง  เขาพัฒนาวิธีทำงานให้ดีขึ้นทุกวัน  นักชิมแถวหน้าของญี่ปุ่นพูดถึงจิโระว่าเขาทำงานแบบ  “ไม่ประนีประนอมกับตัวเอง”  “ติติงผลงานตัวเองทุกวัน”

          จิโระฝึกฝนลูกน้องในร้านอย่างเข้มงวด กว่าที่ลูกน้องที่มาฝึกงานจะได้จับต้องอาหารต้องใช้เวลาฝึกฝนนานถึง ๑๐ ปีหรือจนกว่าจิโระจะพอใจ   จิโระชิมปลาที่ลูกน้องทำก่อนส่งออกไปหน้าร้าน   ลูกค้าจะได้กินซูชิที่ดีที่สุดเท่านั้น

          แม้เป็นเจ้าของร้าน  จิโระเดินตรวจตราการจัดร้าน การจัดวางภาชนะ  เขาจะปั้นซูชิเป็นคำขนาดที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย  ยืนดูลูกค้าหยิบซูชิเข้าปาก  ก่อนปั้นคำใหม่วางให้ตรงหน้า  ลูกชายคนเล็กที่ออกไปตั้งร้านใหม่อีกร้านเล่าว่ามีคนนินทาว่ากินซูชิร้านจิโระนี่จะเกร็งมาก แต่อร่อยสุดยอด!!

           จิโระบอกเล่าวิธีคิดต่อการทำงานของเขาไว้ในช่วงกลางของหนังไว้น่าประทับใจมาก ขอยกมาให้อ่านเต็มๆ



             หนังนำเสนอผ่านการบอกเล่าของจิโระ  ลูกชายสองคน  ลูกน้องมือหนึ่งในร้าน  อดีตลูกน้องที่แยกไปเปิดร้านเอง  นักวิจารณ์อาหารมือหนึ่งของญี่ปุ่น  พ่อค้าตลาดปลา และ  พ่อค้าข้าวที่ส่งข้าวให้จิโระ  เราได้เห็นภาพการทำงานในร้านจริงๆ  ขั้นตอนการเตรียมอาหารประกอบคำบอกเล่าที่ครบถ้วนกระบวนความของการเล่าเรื่องไม่มีตกหล่น 

            เป็นสารคดีที่น่าประทับใจมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา  ประกอบกับภาพคุณปู่จิโระที่ดูอ่อนน้อมถ่อมตน  แต่สุดเนี๊ยบ ภาพใกล้มาก (close up) ขณะมือกำลังปั้นซูชิที่ถ่ายช้าประกอบดนตรีคลาสสิคให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังทำงานศิลปะ  และภาพซูชิปั้นเสร็จพร้อมเข้าปากในจานเงาวับแสนสวยงาม

          หนังสารคดีหรือหนังสือที่เล่าเรื่องชีวิตจริงๆ ของคนที่ประสบความสำเร็จด้านหนึ่งด้านใดมีคุณค่าสูงตรงที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ  คุณสมบัติที่คนเหล่านี้มีเหมือนๆ กันทุกคน  คือ  ความฝัน   ความเพียรที่ไม่สิ้นสุด  ไม่ท้อถอย  ไม่หยุดทำ เหมือนที่จิโระบอกว่า

"ผมจะปีนต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ถึงยอด แต่ไม่มีใครรู้ว่ายอดอยู่ที่ไหน..."

------------------------------

พุธที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๗

บันทึกก่อนจบ

            ไม่ชอบกินซูชิค่ะ และคงไม่จ่ายเงินไปกิน แต่หากได้ไปญี่ปุ่นอีกครั้งจะขอไปเยือนร้านคุณปู่จิโระเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เพราะชอบความขยันขันแข็ง เนี๊ยบ กริ๊บ ของคุณปู่

             เบอร์โทรร้านค่ะ 81 3 6228 4766 เผื่อใครอยากโทร.ไปจองที่นั่ง

             อ่านเรื่องเล่าที่คนไทยไปกินซูชิร้านคุณปู่จิโระที่นี่ค่ะ

             http://pantip.com/topic/31253901

หมายเลขบันทึก: 569781เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2014 17:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2014 17:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

...พอกินได้แต่ไม่ถึงกับชอบค่ะ ...คุณปู่จิโระปั้นsushi ได้น่ากินมากๆนะคะคุณ nui...

ขอบคุณครับ "ไม่มีใครรู้ว่ายอดอยู่ที่ไหน" .... ชอบอ่ะ

ดูแล้วสุดยอดมากๆเลยนะครับ

ขอบคุณมากๆครับ

เยี่ยมจริง ๆ ค่ะพี่นุ้ย เมื่อก่อนชอบปลาดิบมาก ๆ เดี๋ยวนี้ทานมังสวิรัติแล้วค่ะ

ขอบคุณครับคุณหมอ ที่แบ่งปันให้สนใจหามาอ่าน มาดู

หัวปกบันทึกสวยดีแล้วครับ

ที่แปลกไม่ใช่หัวปกครับ

ดร.ธวัชชัยทดลองปรับระบบครับ

http://www.gotoknow.org/journals/135765

ขอบคุณค่ะอาจารย์ Pojana Yeamnaiyana Ed.D.

ไม่ชอบซูชิ แต่ชอบคุณปู่มากค่ะ  ๘๕ แต่ยังขยัน คล่องแคล่ว

เช่นกันค่ะ คุณ rojfitness ชอบข้อคิดนี้ค่ะ  มันทำให้เราเพียรทำให้ดียิ่งขึ้นๆ ทุกวัน

ยินดีด้วยนะคะน้อง กุหลาบ มัทนา ที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์  พี่ก็อยากทำได้แบบน้อง แต่ยังอร่อยอยู่

ขอบคุณอีกครั้งค่ะน้องอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ที่ช่วยพี่เสมอมา ประทับใจจริงๆ

ขอบคุณอ.จัน  จันทวรรณ ที่แวะมาอ่าน  และขอบคุณมากที่ช่วยแก้ปัญหาการใช้งาน G2K ให้พี่เสมอมา

ขอบคุณดอกไม้จาก  Dr. Ple มีโอกาสลองไปชิมซูชิคุณปู่สักครั้งนะคะ

ขอบคุณดอกไม้จากน้อง  กล้วยไข่ ค่ะ

ขอบคุณดอกไม้กำลังใจากพี่ใหญ่  นงนาท สนธิสุวรรณ ค่ะ

เคยดู  ๒  รอบ  ค่ะ   ชอบแววตาของคุณปู่  มุ่งมั่นมากที่จะทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

เจอแล้วคนชอบดูหนัง น้องหมอธิรัมภานี่เอง

พี่ไม่เห่อฝรั่งนะ แต่ยอมรับว่าสารคดีของฝรั่งทำประณีต สวยงามมากจริงๆ

  • "สนเพียงทำซูชิให้ดี ที่สุดย่อมจะได้ซูชิที่ดี" แถมไม่คิดว่ามันดีแล้วด้วย ซูชิจึงพัฒนาไม่หยุด..
  • นอกจากความมุ่งมั่น ความถ่อมตนแล้ว เป้าหมายชีวิตคนเราต้องชัดด้วยนะครับ

ถูกต้องที่สุดค่ะ ขอบคุณบทสรุปดีๆ ค่ะอาจารย์ ธนิตย์ สุวรรณเจริญ

คำว่า เป้าหมายชีวิต นี่สำคัญมากนะคะ  ถ้าเราให้เด็กผ่านวัยรุ่นโดยไม่รู้จักคำนี้เห็นท่าจะแย่ 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท