ก้าวแรกที่จากอ้อมกอดแม่


          เช้านี้ลูกชายต้องตื่นแต่เช้ากว่าปกติ กับภารกิจใหม่ "เพื่ออนาคตอันยิ่งใหญ่ " อาการงอแงย่อมมีอยู่แล้ว คนเป็นแม่อย่างเราทำใจเตรียมรับสถานการณ์นี้มาระดับหนึ่ง แต่พอเจอสถานการณ์จริงแทบจะร้องไห้ตามลูกยามที่เห็นเขาร้องไห้ สองขาดินรนเพื่อจะลงจากรถตู้รับส่งเพื่อกลับมาหาแม่ สองมือพยายามไขว่คว้าเรีกหาแต่คุณแม่ !!!!! คุณแม่!!!!! จะอยู่กับคุณแม่ .......... แต่คำว่าอนาคตของลูกเราต้องใจแข็ง ถ้าครั้งแรกแล้วเราล้มเหลว ครั้งต่อไปจะไม่ประสบผลสำเร็จ ประกอบกับคำคุณตาที่บอกว่า " ทนเอาลูก เพื่ออนาคตมาวิน " ฉันจึงบอกตัวเองว่า ต้องทำให้ได้

                             ม

           วันแรกการขึ้นรถตู้รับ-ส่งยังมีปัญหาอยู่บ้าง  แม่กับคุณตาแอบไปซุ่มดูอยู่ห่างๆ เพราะเป็นกังวลหลายเรื่อง ไหนจะเรื่องการกิน การนอน การเข้ากับเพื่อนๆ จะถูกเพื่อนแกล้งไหม? จะแกล้งเพื่อนไหม?  ยิ่งตัวเล็กกว่าเพื่อนด้วย สารพัดเรื่องราวที่เราเป็นห่วง แต่เขากลับทำให้เราเชื่อมั่นว่าเขาอยู่ได้  เล่นเฉย ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง น่าแปลก?????? อยู่บ้านเวลาจะกินข้าวแม่ต้องเป็นคนป้อนไม่งั้นไม่ยอมกิน เวลาจะนอนแม่ต้องตบตูดไม่งั้นไม่ยอม แต่พออยู่โรงเรียนกินข้าวเองก็เป็น หลับเองก็ได้  ไม่รู้ครูเขาสอนยังไงถึงทำให้มาวินทำอะไรๆเองได้ เป็นนครูนี่ก็เก่งเนอะ........ จิตวิทยาสูง....... เด็กร้องไห้งอแงแค่ไหนก็เอาอยู่  แค่ลูกเราคนเดียวก็แย่แล้ว นี่เด็กทั้งห้องตั้งสามสิบคน ครูแค่สามคนเอง 

            สัปดาห์แรกผ่านไปการขึ้นรถตู้รับ-ส่งไม่เป็นปัญหาสำหรับมาวินอีกต่อไป การปรับตัวของเขามีสูงพอตัว นอนเร็วขึ้นเพื่อให้ตื่นเช้า ไม่งอแงเหมือนอาทิตย์แรก ถึงโรงเรียนก็เล่นและเข้ากับเพื่อนๆได้ ครูบอกว่า " คุณแม่ไม่ต้องมาเฝ้าน้องแล้วนะค่ะ เขาอยู่ได้ " ขอบคุณมาก่ะคุณครูที่สร้างความเชื่อมั่นให้คนเป็นแม่อย่างเรา. แต่ยังไงก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้   ขอแอบมาดูความเคลื่อนไหวอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆไกลๆละกัน อย่างน้อยก็ได้เห็นกับตาว่าเขาปรับตัวได้แล้วจริงๆ สำหรับสัปดาห์ที่สองกลายเป็นว่าคุณแม่เล่นบทนักสืบ แอบซุ่มตามเสาต่างๆที่มีอยู่ในโรงเรียน จนเสาทั้งหมดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายแม่ด้วยความที่กลัวว่าลูกจะเห็น และกลัวว่าตัวเองจะไม่เห็นลูก เฮ่อ!!!!!!!! เหนื่อยนะ เพราะอาชีพอย่างฉันมันไม่ค่อยเอื้อเหมือนคนอื่นเขาเท่าไหร่นัก เวลาคนอื่นนอนฉันทำงาน เวลาคนอื่นทำงานฉันกลับมานั่งถ่างตาเฝ้าดูลูก  แต่พอเห็นเขา ความเหนื่อยก็ลดลงเรื่อยๆ บอกตัวเองโชคดีแล้วที่มี "ลูก". 

                                                                                                                           

                                                 

           เมื่อก่อนเคยสงสัยเวลาที่แม่บอกว่าอย่าทำอย่างนั้น  อย่าทำอย่างนี้  เป็นห่วงฉันอย่างนั้น  เป็นห่วงฉันอย่างนี้ พอฉันถามแม่ก็ไก้แต่ตอบว่า " สักวันลูกจะเข้าใจความรู้สึกของแม่ในวันนี้  วันที่ลูกได้เป็นแม่ " วันนั้นฉันได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจโดยที่ยังไม่รู้คำตอบจนมาถึงวันนี้ วันที่ฉันได้เป็นแม่!!!!!

หมายเลขบันทึก: 569317เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 09:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2014 09:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท