nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

LIKE FATHER, LIKE SON_เมื่อโรงพยาบาลส่งลูกผิดบ้าน


คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อโรงพยาบาลบอกว่า ลูกที่คุณเลี้ยงมา ๖ ปี ไม่ใช่ลูกของคุณ

เอาลูกไปเปลี่ยน สลับครอบครัว เหมือนเปลี่ยนของ??

แล้วชีวิตพ่อแม่ลูก จะเริ่ม “ครอบครัวใหม่” กันอย่างไร

หนังจบแบบ Happy Ending ได้หรือไม่

และถ้าเป็นชีวิตจริงๆ จะอย่างไร

หนังญี่ปุ่นชื่อ Like Father Like Son เล่าเรื่องนี้

ครอบครัววิศวกรหนุ่ม ฐานะดี บ้างาน อยู่คอนโดหรูกลางกรุงโตเกียว ภรรยาสาว และ เคตะ ลูกชายกำลังน่ารักวัย ๖ ขวบ กับครอบครัวเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าเล็กๆ นอกเมืองที่มีลูกเล็กๆ ๓ คน หนึ่งในนั้นคือเด็กที่โรงพยาบาล “ส่งผิดบ้าน”

การพบปะกันของสองครอบครัว เพื่อวางแผน “ส่งคืนเด็ก” ให้พ่อแม่ที่แท้จริง เป็นประเด็นใหญ่มากกว่าการฟ้องร้องทางกฎหมาย กระทบต่อจิตใจทุกคนในครอบครัว เพราะความรักผูกพันฝังรากลึกแล้วในหัวใจของทุกคน ไม่เกี่ยวกับสายโลหิตแม้แต่น้อย

การส่งเด็กผิดบ้านเกิดขึ้นจริงและเป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ แต่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่า แล้วเขาจะส่งคืนกันอย่างไร เกิดอะไรกับสองครอบครัวบ้าง จนได้ดูหนังเรื่องนี้

เริ่มจากการที่ให้เด็กๆ สองครอบครัวมาเจอกัน ทำความรู้จักกันและกัน พ่อแม่ไปดูบ้านของแต่ละฝ่าย เพราะพวกเขาจะต้องส่ง “ดวงใจตัวน้อย” ไปอยู่ ตามด้วยให้เด็กลองสลับบ้าน โดยยังไม่บอกความจริง และขั้นตอนสุดท้ายคือให้ไปอยู่จริงอย่างถาวร

เราได้เห็นบรรยากาศของสองบ้าน ในฐานะคนดูเราบอกได้ว่า ถ้าเราเป็นเด็ก(และเลือกได้) เราจะเลือกบ้านเล็กๆ ไม่ร่ำรวย แต่อบอุ่น พ่อทำงานหนักแต่มีเวลาเล่นกับลูก ซ่อมของเล่นให้ลูก มากกว่าบ้านที่ร่ำรวย  รัก แต่ห่างเหิน

ความคิดที่จะรับ “เด็กอีกคน” มาอยู่โดยไม่ยอมให้ลูกที่เคยเลี้ยงต้องจากไป อยู่ในความคิดของทั้งสองบ้าน ฝ่ายที่เอ่ยปากก่อนคือ วิศวกรบ้างานเพราะหลงคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง การถูกตบหน้าสักฉาดจึงเป็นการสั่งสอนที่สมควร

หนังโฟกัสที่ครอบครัวเคตะเป็นหลัก หลังจากสลับบ้านกันอยู่ช่วงแรก ตอนที่พ่อให้ของเคตะสองชิ้น เคตะบอกว่า “จะเก็บไปให้พ่อบ้านโน้นหนึ่งชิ้น”  กระตุกหัวใจพ่อบ้างาน

ฉากที่ “ริว” ลูกชายโดยสายเลือดมาอยู่ด้วยถาวรเอาของเล่นไปให้พ่อวิศวกรบ้างานซ่อม แล้วพ่อบอกว่า “ไปบอกแม่ให้ซื้อให้ใหม่” แล้วลูกบอกว่า “พ่อบ้านโน้นเก่ง ซ่อมของเล่นได้ทุกอย่าง” กระทบหัวใจพ่อบ้างานอย่างจัง จนถึงวันที่พ่อบ้างานตอบลูกไม่ได้ว่า “ทำไมเขาต้องมาอยู่ที่นี่?”  “ทำไมถึงอยู่บ้านหลังเดิมไม่ได้?” จึงเป็นจุดแตกหัก เราคนดูก็ตระหนกไปกับคำถาม “ทำไมๆๆๆๆ” มากมายของเด็กอายุ ๖ ขวบที่รัวออกมา


หนังไม่บอกว่าจบอย่างไร ฉากสุดท้ายวิศวกรบ้างานพาลูกไปบ้านพ่อค้า ทั้งสองครอบครัวได้พบกันอีกครั้ง

กล้องเคลื่อนออกช้าๆ จากบ้านหลังเล็กในชุมชน แล้วขึ้นเครดิตนักแสดง

อิ่ม  อบอุ่น  และได้บทเรียนกันทั้งสองครอบครัว รวมทั้งคนดู.

จันทร์ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗

เขียนบันทึกนี้ที่แฟรงเฟิต เยอรมัน วันแรกที่มาถึง

บันทึกส่งท้าย

เป็นหนังหนึ่งใน ๓ เรื่อง ที่ดูบนเครื่องบินขณะเดินทางไปเที่ยวเยอรมัน ด้วยความประทับใจจึงเขียนบันทึกได้รัวเร็วออกจากปลายนิ้วได้ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง

ฉันดูหนังญี่ปุ่นน้อย ส่วนใหญ่เป็นหนังฮอลลีวูด ดูหนังยุโรป หนังจีน บ้างประปราย แต่หนังญี่ปุ่นทุกเรื่องที่ดูโดนใจมาก ภาพและบทเล่าเรื่องได้ ซื่อ ตรง ไปสู่เป้าหมาย ไม่เมโลดราม่าจนน่ารำคาญ ไม่จบแบบเฉลยข้อสอบเอาใจผู้ชม ดาราทุกคนแสดงได้ดี กำกับได้เนียน

ไม่รู้จักหนังเรื่องนี้มาก่อน ไม่รู้จักนักแสดง ไม่รู้จักผู้กำกับ

รู้แต่ว่า รักหนังเรื่องนี้แล้วละ ว่างๆ จะหาแผ่นมาดูอีกรอบ.

บันทึกลงสมุดเมื่อ....พุธที่ ๒๘ พฤาภาคม ๒๕๕๗

หมายเลขบันทึก: 569273เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2014 16:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2014 16:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เป็นหนังที่น่าดูมาก

แม่ผมชอบล้อว่า

พยาบาลให้คนผิดมาประจำ 5555

คุณแม่น่ารักนะคะน้องอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

คนโบราณชอบล้อลูกแบบนี้แหละค่ะ  ลูกชายคนเล็กพี่ก็โดนย่าล้อแบบนี้

ขอบคุณครับ คุณnui อ่านแล้วอยากหามาดูบ้างจัง

เราเองก็จะเลือกบ้านเล็กๆ ไม่ร่ำรวยแต่อบอุ่น มีเวลาเล่นกับลูก มากกว่าบ้านที่ร่ำรวย รักแต่ห่างเหิน

หนังน่ารัก อบอุ่น มากค่ะ ลองหามาดูนะคะคุณ rojfitness

ดิฉันก็คิดว่าสุดสัปดาห์นี้จะออกไปหามาดูอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณลุงวอ  วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- ที่แวะมาอ่าน  จะมีเวลาดูหนังมั๊ยคะ เห็นทำแต่งาน

แค่อ่านยังรู้สึกอยากดูเลยครับ

ขอบคุณที่แบ่งปัน....

...เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดวิถีชีวิต และความรักความอบอุ่นของครอบครัวที่ปัจจุบันหาได้ยากในทุกสังคมและทุกประเทศในโลก...และเพิ่งเคยได้ยินว่า...โรงพยาบาลส่งลูกให้พ่อแม่ที่บ้านนะคะ...ขอบคุณค่ะ

"ส่งลูกผิดบ้าน"  เป็นสำนวน (ของตัวเอง) ค่ะอาจารย์ Pojana Yeamnaiyana Ed.D. จริงๆ คือเขาส่งเด็กให้กับมือแม่ทีโรงพยาบาลแหละค่ะ 

ต้องขออภัยนะคะที่ใช้ศัพท์ melodrama ไปหน่อย ทำให้เข้าใจผิด

-สวัสดีครับพี่หมอ

-อยากจะดูบ้าง...ครับ

-พี่หมอครับ..ตอนนี้ผมมีเรื่องกังวลใจเรื่องการรักษาไทรอยด์เป็นพิษโดยการกลืนแร่ของคนข้างกายครับ

-ครอบครัวเล็ก ๆของเรายังไม่มีบุตร..หากต้องรักษาด้วยวิธีนี้จะมีปัญหาหรือเปล่าครับ?

-อ่านข้อมูลบางแห่งก็น่าตกใจเหมือนกัน..

-รบกวนพี่หมอแนะนำเรื่องนี้ด้วยนะครับ

-email:  [email protected]

-ขอบคุณครับ


น้องเพชร เพชรน้ำหนึ่ง

พี่ตอบแล้วนะคะ  อยากคุยก็โทร.มาได้ค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท