สิทธิมนุษยชน (Human Right) หมายถึง สิทธิที่มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการรับรอง ทั้งความคิดและการกระทำที่ไม่มีการล่วงละเมิดได้ โดยได้รับการ คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ[1]
ประเทศไทยนั้นเองก็ได้มีการรับรองสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และกำหนดให้รัฐบาล ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐดำเนินการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความ เป็นมนุษย์ของประชาชนทุกคน
ในประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทยนั้น ได้มีการกำหนดโทษทางอาญาไว้คือ การประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 18 ซึ่งมีแนวคิดที่น่าสนใจว่า การที่มีโทษประหารชีวิตนั้นขัดกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนหรือไม่
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันประเทศไทยและอีกหลายประเทศที่ยังไม่ยกเลิกโทษประหาร ยังคงมีการถกเถียงเรื่องโทษประหารอยู่ตลอดเวลาในสังคม โดยฝ่ายที่เห็นด้วย มักมองว่า มาตรการนี้เป็นวิธีการที่สร้างความปลอดภัยและสันติภาพในสังคม แต่ในฝั่งที่ไม่เห็นด้วยมองว่าโทษประหารชีวิตมีลักษณะที่โหดร้าย ขัดกับหลักการพื้นฐานของศาสนา อีกทั้งยังมีการวิจัยในเชิงวิชาการมาแล้วหลายครั้งว่า โทษประหารชีวิตไม่สามารถลดปัญหาการเกิดอาชญากรรมได้ โดยงานวิจัยระบุว่า ปัจจัยที่จะทำให้อาชญากรรมลดน้อยลงนั้นคือเรื่องของความรวดเร็วในการจับกุม และความชัดเจน แต่หากคำนึงถึงความรู้สึกของผู้เสียหายและคนที่ถูกทำร้ายที่ต้องสูญเสียหลาย สิ่งหลายอย่างที่ไม่อาจเรียกคืนมาได้ ประเด็นที่ว่าการยกเลิกโทษประหารมีความจำเป็นจริงหรือไม่จึงเกิดขึ้น เพราะ ที่จริงแล้วผู้ที่มีโอกาสถูกลงโทษประหารชีวิตหากรับสารภาพ ศาลก็อาจลงโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตแทนอยู่แล้ว อีกทั้งโทษประหารชีวิตยังสามารถขออภัยโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิตได้ ซึ่งนับเป็นการผ่อนหนักเป็นเบาของโทษที่สามารถทำได้อยู่แล้ว
โดยในเรื่องนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (ICCPR) เคยวินิจฉัยว่า รัฐภาคีไม่จำเป็นต้องยกเลิกโทษนี้โดยสิ้นเชิง แต่ต้องบังคับใช้อย่างจำกัดเฉพาะหมวดคดีบางประเภท ซึ่งแปลว่าหากประเทศไทยสามารถหาโทษชนิดอื่นมาทดแทนโทษประหารชีวิตได้อย่าง เหมาะสมแล้ว ก็จะสามารถรณรงค์ให้พักการใช้โทษประหารชีวิตได้ แต่หากยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้วปรับเปลี่ยนเป็นการจำคุกตลอดชีวิตแทนอย่าง ที่หลายฝ่ายต่างมีความเห็นตรงกัน ประเทศไทยอาจต้องปรับเปลี่ยนการให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยเป็นการลงโทษจำคุกตลอดชีวิตอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการลดโทษและอภัยโทษ เพราะทุกวันนี้โทษจำคุกตลอดชีวิตของประเทศไทยเมื่อถึงเวลารับโทษจริงอาจถูก ผ่อนผันและลดโทษจนเหลือเพียงจำคุกไม่เกิน 20 ปีก็พ้นโทษสู่โลกภายนอกได้แล้ว[2]
ชยากร โกศล
19 พฤษภาคม 2557
อ้างอิง
[1] http://www.dailynews.co.th/Content/Article/127538/ 19 พฤษภาคม 2557
[2] http://kittayaporn28.wordpress.com/%E0%B9%82%E0%B8...
19 พฤษภาคม 2557
ไม่มีความเห็น