ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย


ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย

ศักดิ์ศรี คือ การยอมรับของบุคคลในสังคมในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ ที่ได้รับการยอมรับของสังคมมนุษย์และเรื่องดังกล่าวต้องเป็นเรื่องดีงามและสมควรยกย่อง

มนุษย์ คือ บุคคลทั่วไป ไม่เลือกว่าจะเป็นชนชาติใด เผ่า ศาสนา ผิวสี ภาษา และอื่นๆ

ดังนั้นเมื่อมนุษย์คนหนึ่งเกิดขึ้นมา ย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ติดตัวมาด้วยตั้งแต่เกิด มีสิทธิเสรีภาพที่จะดำรงชีวิต หรือกระทำการใดๆ หรือได้รับการปฏิบัติจากผู้อื่นอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือแบ่งแยกเพราะเหตุแห่งเชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง หรืออื่นๆ

เมื่อมนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แล้ว เพื่อให้บุคคลอื่นเคารพซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลอื่น จึงต้องมีการรับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ ซึ่งตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 1 บัญญัติว่า มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ ต่างในตน มีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ

นอกจากนั้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ยังได้บัญญัติรับรองเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ในมาตราต่างๆ เช่น

มาตรา 4 บัญญัติว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง

มาตรา 26 บัญญัติว่า การใช้อำนาจ โดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้

มาตรา 28 บัญญัติว่า บุคคลย่อมอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือ ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน

จากบทบัญญัติทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมา ย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนของรัฐใด หรือเป็นคนไร้รัฐ หรือเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายก็ตาม เมื่อบุคคลเหล่านี้มีสถานะของความเป็นบุคคล ก็ย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วยกันทุกคน เมื่อมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แล้ว ย่อมสมควรได้รับการรับรองให้มีสิทธิ เสรีภาพ เพื่อที่บุคคลเหล่านี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ความเป็นมนุษย์

สิทธิ และเสรีภาพที่ควรได้รับการรับรองในฐานะของความเป็นคนมีมากมาย เช่น สิทธิในสถานะบุคคล สิทธิในการศึกษา สิทธิในการประกอบอาชีพ สิทธิในการเข้าถึงบริการสาธารณะสุข เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น สิทธิทางการเมืองเป็นต้น ซึ่งในที่นี้ขอยกกรณีศึกษาของน้องนิค นิวัฒน์ จันทร์คำ

น้องนิค หรือนายนิวัฒน์ จันทร์คำ เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2538 ที่ประเทศเมียนมาร์ โดยน้องนิคไม่มีหนังสือรับรองการเกิด หรือมีชื่อในทะเบียนประวัติใดๆ น้องนิคจึงเป็นบุคคลผู้ไร้รัฐโดยสิ้นเชิง น้องนิคเข้ามาในประเทศไทยเมื่ออายุประมาณ3-4ขวบซึ่งมาอาศัยอยู่กับป้าที่จังหวัดตรัง โดยมารดาของน้องนิคเป็นคนไทยลื้อไร้รัฐไร้สัญชาติ ในเวลาที่เดินทางเข้าประเทศไทย บิดามารดาและน้องนิคไม่มีหนังสือเดินทางหรือได้รับการตรวจลงตราใดๆทั้งสิ้น ทั้งสามคนจึงเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมา แต่อย่างไรก็ดีต้องถือว่าน้องนิคไม่มีความผิดฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะในขณะที่เข้าเมืองมานั้น น้องนิคมีอายุเพียง 3-4 ขวบ จึงขาดเจตนาที่จะเข้าเมืองผิดกฎหมาย

น้องนิคได้อาศัยอยู่กับคุณป้า เมื่อถึงวัยที่ต้องได้รับการศึกษา น้องนิคก็ยังไม่มีเอกสารรับรองสถานะบุคคลใดๆ คุณป้าของน้องนิคเกรงว่า น้องจะไม่ได้รับการศึกษา จึงได้ใช้เอกสารของบุตรชายตนเพื่อให้น้องนิคเข้าเรียนในชื่อของบุตรชายตน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สิทธิในการศึกษา เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงได้รับ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ตาม ซึ่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ได้มีบทบัญญัติที่รับรองถึงสิทธิในการศึกษา ว่าเป็นสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนพึงมี ดังที่ปรากฏใน ข้อ 26 ที่บัญญัติว่า ทุกคนมีสิทธิในการศึกษา การศึกษาจะต้องให้เปล่าอย่างน้อยในขั้นประถมศึกษาและขั้นพื้นฐาน การศึกษาระดับประถมจะต้องเป็นภาคบังคับ การศึกษาด้านวิชาการและวิชาชีพจะต้องเปิดเป็นการทั่วไป และการศึกษาระดับสูงขึ้นไปจะต้องเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคสําหรับทุกคนบนพื้นฐานของคุณสมบัติความเหมาะสม

นอกจากนั้นแล้ว ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ก็มีบทบัญญัติที่รับรองสิทธิในการศึกษาเช่นเดียวกัน ดังที่ปรากฏในมาตรา 10 วรรค 1 ที่บัญญัติว่า การจัดการศึกษา ต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

จากบทบัญญัติทั้งสองแสดงให้เห็นว่า สิทธิในการศึกษานั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงมี โดยรัฐมีหน้าที่ต้องจัดการเรื่องการศึกษาให้แก่บุคคลทุกคน รวมถึงน้องนิค ที่แม้จะไม่ได้รับการรับรองสถานะบุคคล ถือเป็นคนไร้รัฐโดยสิ้นเชิง ถูกถือว่าเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายก็ตาม แต่เมื่อน้องนิคเกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สมควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม น้องนิคควรที่จะได้รับสิทธิที่จะได้รับการศึกษาเช่นเดียวกับมนุษย์คนอื่นๆ ดังนั้นรัฐไทยจึงความเข้ามาจัดการให้น้องนิคสามรถเข้าถึงสิทธิในการศึกษา ตลอดจนเข้ามาจัดการขจัดปัญหาความไร้รัฐให้น้องนิคโดยเร็ว

อภิญญา นันโท

17 พฤษภาคม 2557

ที่มา :

1. เอกสารประกอบการสอนวิชา น.396 กฎหมายสิทธิมนุษยชน, กรณีศึกษาเด็กชายนิวัฒน์ จันทร์คำ, นางสาวพวงรัฐน์ ปฐมสิริรักษ์, วันที่5 พฤษภาคม 2557 หน้า 27

2.ความหมายของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ,http://www.thailaws.com/aboutthailaw/general_33.ht... สืบค้นวันที่ 16 พฤษภาคม 2557

3. ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน, http://www.mfa.go.th/humanrights/images/stories/book.pdf

4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550, http://www.ombudsman.go.th/10/documents/law/Constitution2550.pdf

5. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 , http://www.wbtvonline.com/pdf/9-04-201409-25-55.pdf

หมายเลขบันทึก: 568226เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2014 01:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2014 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

...นามสกุลนันโท คุ้นๆนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท