การประหารชีวิต อดีต - ปัจจุบัน
การลงโทษประหารชีวิต เป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุดที่พึงใช้ต่อผู้กระทำความผิด ถือได้ว่าเป็น การลง
โทษที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งดำเนินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จุดมุ่งหมายของการประหารชีวิตคือ การกำจัดผู้กระทำ
ผิดให้พ้นไปจากสังคมด้วยวิธีการฆ่า ในสมัยโบราณการลงโทษประหาร เรียกว่า "กุดหัว" โดยใช้ดาบฟันคอ
นักโทษเด็ดขาด ดาบที่ใช้ในการประหารมีรูปร่างต่างๆ กัน ครูเพชฌฆาตเป็น ผู้จัดทำดาบขึ้น มีดาบปลาย
แหลม ดาบปลายตัด และดาบหัวปลาไหล การประหารชีวิตครั้งใดจะใช้ดาบชนิดใด ให้อยู่ในดุลพินิจของครู
เพชฌฆาต
ต่อมาการลงโทษประหารชีวิตผู้กระทำผิดได้เปลี่ยนจากการประหารชีวิตด้วยดาบมาเป็นการ
ประหารชีวิตด้วยปืน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 เป็นต้นมา เรียกว่า การยิงเป้า วิธีการประหารชีวิตจะเริ่มขึ้นโดยเจ้า
หน้าที่อ่านคำสั่งศาลและฎีกาทูลเกล้าซึ่งพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานฯ คืนมาให้ผู้ต้องโทษฟังและลงชื่อรับ
ทราบ ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบหลักฐานทางทะเบียนประวัติให้ถูกต้องและอนุญาตให้
ผู้ต้องโทษจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการจำเป็นอื่นใดเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วจึงให้ผู้ต้องโทษฟัง
เทศน์จากพระภิกษุสงฆ์หรือนักพรตในนิกายศาสนาที่ผู้ต้องโทษเลื่อมใสแล้วให้รับประทานอาหารเป็นมื้อ
สุดท้าย จากนั้นนำผู้ต้องโทษเข้าสู่หลักประหาร
จนมาถึงยุดปัจุบันที่ได้เปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตมาเป็นการใช้สารเคมีฉีดเข้าร่างกายของผู้ที่ต้องโทษจนเสียชีวิต
โดยได้มีการเผยว่าไทยนั่นเป็น1 ใน54ประเทศที่ยังคงมีโทษการประหารชีวิตอยู่ จึงได้มีการเสนอให้มีการทบทวน
ถึงเรื่องดังกล่าวว่าประเทศไทยยังควรจะใช้โทษประหารชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนแล้วนั้นจะพบว่ามนุษย์ทุกคนย่อมที่จะมีสิทธิในชีวิตและร่างกายของตน โดยได้มรการรับรองสิทธิในชีวิตไว้ในกฎหมายต่างๆอาทิ ปฏิญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือจะเป็นการรับรองสิทธิไว้ในรัฐธรรมนูญแห้งราชอาณาจักรไทยในปัจจุบัน
ซึ่งจากการที่แนวความคิดได้แตกออกเป็นสองฝ่ายโดยฝ่ายที่เห็นด้วยกับการมีโทษประหารชีวิตนั้นเห็นว่า การลงโทษประหารชีวิตที่เป็นโทษที่รุนแรงนั้นจะช่วยทำให้ผู้กระทำความผิดเกิดความยำเกรงและจะสามารถลดปัญหาการกระทำความผิดได้ แต่อีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยในการใช้การประหารชีวิตนั้นกลับมองว่า การประหารชีวิตนั้นเป็นโทษที่รุนแรง มีความโหดร้ายและทารุณ เกินไป และยังไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาการกระทำความผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
จากการพิจารณาดังกล่าวจึงยังไม่อาจหาข้อสรุปได้ว่าโทษประหารชีวิตนั้นควรที่จะมีอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือการใช้การประหารชีวิตนั้นเป็นการลงโทษที่มีประสิทธิภาพเพียงใด เราจึงต้องคิดและทบทวนกันต่อไปโดยพิจารณาความเหมาะสม ข้อดีและข้อเสียต่างๆในการประหารชีวิตว่าคุ้มต่อการที่จะต้องละเมิดสิทธิมนุษชยหรือไม่
อ้างอิง
http://www.correct.go.th/mu/index4.html
ไม่มีความเห็น