โจราธิปไตย คือ อะไรกันแน่?
"โจราธิปไตย" คือ อะไรกันแน่ และใครคือโจราธิปไตยที่แท้จริง?
ตอนแรกไม่ได้นึกจะเขียนเรื่องนี้หรอกคะแต่พอดีมีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับโจราธิปไตย เลยตั้งข้อสังเกตุ และหาข้อมูลเขียนดู พอศึกษาก็น่าสนใจคะ ถ้าเรามาดูกันดีๆ ถึงความหมายของ โจราธิปไตย ก่อนนะคะ โจราธิปไตย แยกออกเป็น 2 คำคือ โจร+อธิปไตย โดยวิธีแห่งการสนธิ คือ เชื่อมศัพท์เข้าด้วยกัน จึงสำเร็จรูปเป็น"โจราธิปไตย" อาจจะมีคำแปลได้หลายอย่า เช่นแปลว่า อธิปไตยของพวกโจร หรืออธิปไตยที่โจรมันปล้นเอาไป เป็นคำที่ฝ่ายอำมาตย์กล่าวหาฝ่ายเสรีประชาธิปไตยที่ชนะการเลือกตั้งมาอย่างเบ็ดเสร็จพรรคเดียว
เช่นเดียวกับ ความหมายของ คำว่า "ประชาธิปไตย" คือ อธิปไตยของประชาชน หรือ "อำมาตยาธิปไตย" คือ อธิปไตยของอำมาตย์ เป็นต้น และที่สำคัญ ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่า กติกาที่คนทั้งสองฝ่าย และคนทั้งโลกต้องการในการอยู่ร่วมกัน ก็คือ ประชาธิปไตย หรืออำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน แต่ความเข้าใจในความหมายของอำนาจอธิปไตยของคนแต่ละฝ่ายนั่นแหละจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่า ใครถูกปั่นหัวให้เข้าใจความหมายแบบไหน เพราะดูๆ แล้ว ไม่มีใครสนใจที่จะทำความเข้าใจกับความหมายด้วยตัวเองเลยถึงแม้ว่า จะมีปัญญาสูงแค่ไหนก็ตาม
เรามาดูความหมาย ที่แยกแต่ละคำก่อนนะคะ "โจร" หมายถึง ผู้ที่ขโมย, ปล้น, ครอบครองโดยที่เจ้าของเขาไม่อนุญาติหรือเจ้าของไม่ได้ให้
"อำนาจอธิปไตย" คืออำนาจความเป็นใหญ่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยนั้นมีกฏกติกาที่ว่าไว้ในรัฐธรรมนูญว่าประชาชนทั้งประเทศเป็นใหญ่ หรือเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย หรือพูดง่ายๆ เจ้าของอำนาจอธิปไตย คือ "ประชาชน"
ความหมายของ"โจราธิปไตย" ตรงๆ ง่ายๆ ภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจ คือ อำนาจอธิปไตยที่ถูกโจรปล้น ถ้าเราคิดดีๆ นะ เจ้าของอำนาจอธิปไตย ก็คือประชาชน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เจ้าของบ้านนั่นเอง เจ้าของบ้านทั้งหมด ก็คือ ปวงชนชาวไทย ทีนี้เรามาพิจารณาถึงเรื่องการเป็นโจรกันบ้างนะคะ เพราะบ้านเมืองเราตอนนี้ไว้ใจใครไม่ได้เลย เพราะในสภาพเช่นนี้ คุณจะแน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าคนที่กล่าวหาว่าคนอื่นเค้าเป็นโจร จะไม่เป็นโจรเสียเอง เพราะถ้าสังเกตุจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของเหล่าคนดีมีคุณธรรมที่พวก กปปส. ชื่นชมสรรเสริญ ก็ไม่แตกต่างไปกับโจรเลย แล้วอยู่ๆ จะมาบอกว่ากลายเป็นโจรกลับใจ มาถึงตอนนี้ก็อยากจะถามว่า ไม่สงสัยในลอจิกหรือวิธีคิดของตัวเองบ้างเลยใช่ไหมคะ
น่าสนใจมากนะคะ ถ้าเป็นเช่นนั้น ใครกันแน่ที่เป็นโจร? ไม่รู้สึกตะหงิดใจบ้างเลยใช่ไหมคะ เรื่องของการปล้นประชาธิปไตย คุณคิดว่า ปล้นได้มีวิธีเดียว คือการปล้นโดยการชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จพรรคเดียวเท่านั้นเองหรือคะ ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วใช่ไหมคะ มันไม่ง่ายหรือตรงไปตรงมาไปหน่อยหรือคะ เพราะตอนนี้ ในยุคนี้ คุณคิดว่าการเป็นโจรเนี่ย สามารถปล้นได้แต่วิธีง่ายๆ ซึ่งๆ หน้า อย่างเดียวใช่ไหมคะ โจรมีแผนการล้ำลึก น่ากลัวกว่าที่คุณคิดเยอะคะ โจรที่ปล้น โดยแผนการแยบยล ปล้นอย่างไรคะ ที่เรียกว่าแผนการแยบยล ทำงานกันเป็นทึมคะ ทำแผนแทรกแซงประชาธิปไตยทั้งระบบ เป็นลำดับขั้น ดังนี้คะ ลองใช้สติปัญญาตัวเองพิจารณาดูนะคะ ไม่ต้องเชื่อดิฉันก็ได้
- ปลุกปั่นประชาชนที่เป็นฐานเสียงเดิมของตัวเอง แทรกแซง ให้ประชาชนแตกกันก่อน สร้างขั้วมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกลียดกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการใช้วาทะกรรมความเกียจชัง และทำทุกอย่างเพื่อใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และยกให้เห็นตัวเองเป็นคนดี และก็ได้ผลอย่างที่คิด โดยใช้สโลแกน คุณธรรมจริยธรรม ตัวอย่างหนึ่งที่เหล่าคนดีปั่นหัวประชาชน เช่น "มวลมหาประชาชนเป็นล้าน หูตาสว่างได้แล้วครับ นี่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย เป็นเรื่องระหว่างคนชั่วที่ไม่สำนึก กับคนดีหมดความอดทน" เป็นคำพูดที่ชอบยกให้ดูเกลื่อนมากในเฟสบุ๊ค
- แผนการแทรกแซงโครงสร้างพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย โดยการแทรกแซงโครงสร้างทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ตลอดมา หรือพูดง่ายๆ อยู่คู่เมืองไทยมาเป็นเวลานาน ยกตัวอย่่าง เช่น ในการเลือกตั้ง สว. แทนที่จะใช้ วิธีการเลือกตั้งจากประชาชน 100 % ก็ใช้วิธีการแทรกแซงโดยใช้วิธีให่้มีการแต่งตั้งโดยฝ่ายตัวเองเสีย 50% ให้เลือกตั้งมาจากประชาชนแค่ 50% อย่างน้อยก็คุมไปครึ่งหนึ่งแล้ว เลือกมาอย่างไรก็ไม่มีทางชนะแน่นอน นี่คือตัวอย่างการแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติ หรือที่เห็นได้ง่ายอีกตัวอย่างคือการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติเพื่อปรับแก้กฏหมายก่อนการเลือกตั้ง เพราะรู้แล้วว่าถ้าใช้วิธีการเลือกตั้งปกติ ในระบอบประชาธิปไตยไม่สามารถชนะการเลือกตั้งได้แน่นอน ใช้สโลแกนปั่นหัวประชาชน กปปส. ว่าต้องปฏิรูปเพื่อกำจัดความชั่วร้าย กำจัดคอรัปชั่น หรือ กำจัดระบอบทักษิณ นี่แค่ยกตัวอย่างนะคะ แค่นี้ยังไม่พอคะ แถมยังไปแทรกแซงอำนาจตุลาการอีกคะ อย่างที่เห็นกันอยู่ในบ้านเมืองเราตอนนี้ และทำทั้งหมดแล้วก็ยังไม่ชนะใจประชาชนอยู่ดี แถมยังลดความน่าเชื่อถือจากประชาชนลงเรื่อยๆ อย่างที่เห็น
คุณตีความว่าคำว่า"โจราธิปไตย" โดยดูที่ผลการเลือกตั้งที่ชนะเป็นเอกฉันท์ชนะแบบพรรคเดียวเบ็ดเสร็จเท่านั้นเองหรือคะ มันไม่คิดแคบไปหน่อยหรือคะ ไม่ดูถูกและไม่ให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ของประชาชนที่เค้าอยู่ร่วมประเทศกับคุณเลยใช่ไหมคะ อย่าลืมว่าเค้าเป็นผู้มอบอำนาจอธิปไตยใ้ห้พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนของเค้า เข้าไปทำงานแทนเค้าในสภา พวกคุณถูกปั่นหัวให้แหกกฏกติกา แหกกฏรัฐธรรมนูญ และสรุปเอาเองว่าพวกเค้าโง่ ไม่มีการศึกษา ถูกหลอก มันไม่ง่ายและดูถูกประชาชนร่วมประเทศไปหน่อยหรือคะคุณลืมนิยามของคำว่าโจรไปหรือเปล่าคะ หากเจ้าของเค้าอนุญาติ และยินดีมอบอำนาจอธิปไตยให้ เค้าก็ไม่ควรถูกเรียกว่าโจร ไม่ใช่หรือคะ ในขณะที่ฝ่ายอำมาตย์และพวก (ประชาธิปัตย์) ที่อยากได้อำนาจอธิปไตยนั้น แต่ประชาชนไม่ได้มอบให้ เลยต้องทำทุกอย่างเพื่อปล้นอำนาจอธิปไตยมาจากประชาชน โดยการทำรัฐประหารถึง 18 ครัั้ง เพราะไม่เคยชนะการเลือกตั้งเข้ามาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ได้ครองประเทศเพราะปล้นอำนาจอธิปไตยของประชาชนมาตลอด แล้วที่ทำมาทั้งหมดนี่ไม่ใช่พฤติกรรมของโจรตัวจริง แล้วจะให้เรียกว่่าอะไรคะ แล้วนี่ตกลงใครกันแน่ที่เป็นโจร!!! ที่ขโมยอำนาจอธิปไตยของประชาขน มันน่าคิดจริงๆ
การอยู่ร่วมกันในสังคมสำคัญที่สุดต้องยอมรับในกติกาการตกลงร่วมกัน ไม่เช่นนั้นก็ตกเป็นเครื่องมือของโจรอย่างที่เห็นนั่นแหละคะวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น อย่างน้อยสนามประชาธิปไตยก็เป็นสนามเสรีที่ทุกคนทุกฝ่ายสามารถแข่งขันกันได้ตลอดเวลาและตลอดไป และสมควรปล่อยให้ดำเนินไปอย่างเสรีให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินปราศจากการแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการแทรกแซงเป็นการปิดกั้นไม่ให้ทุกอย่างเดินไปตามครรลองของมัน แล้วคุณจะแน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าคนที่วางแผนปิดกั้น แทรกแซง จะไม่เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องของตัวเอง อย่าคิดสั้นๆ แค่กำจัดตระกูลชินวัตรซิคะ....เราต้องรักษาประชาธิปไตยให้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป
ความเห็น (2)
"ชอบคำนี้..อย่าคิด...สั้นๆ"...(เรา..ถูกครอบคุม...ให้คิด..ให้ทำ..และทำตาม..จนเป็นปรกติวิสัย..)....เราทุกๆคน..ต้องเริ่มแก้..ที่ตัวเอง...คงเหมือน..กับ.การเขย่งของกระดุมที่ผิด..รู...ทั้งๆที่เป็น..รูเดียวกัน....นิ....
ขอบคุณมากคะ คุณยายธี ใช่แล้วคะ เราต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนคะ สำคัญที่สุด อย่าปิดกั้นสติปัญญา และสมองของตัวเอง คำตอบมันไม่ใช่แค่คุณเลือกใคร หรือเลือกอะไรคะ แต่เส้นทางการได้มาของการเลือก หรือคำตอบต่างหาก ที่เป็นตัวชี้ว่า คุณถูกปั่นหัว หรือถูกควบคุมการคิด หรือคุณคิดเป็นหรือไม่ นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดคะ