รอยยิ้มของพ่อ ตอน ที่ 2 (ตอนจบ)


5 โมงเย็น ได้เวลานัดหมายครูบาหนุ่ม พระจิตอาสา ในโปรแกรม เพื่อมารับสังฆทานจากเด็กชายบุญรอดและพ่อ แม่ เป้าหมายของการพาบุญรอดทำบุญใหญ่วันนี้หวังผลเพื่อ ให้บุญรอดได้มีเสบียงบุญในการเดินทางในภพใหม่ที่ดี และเพื่อเยียวยาจิตวิญญาณของคนเป็นพ่อแม่ ที่กำลังจะสูญเสียลูกชาย เมื่อทุกอย่างพร้อม อันประกอบไปด้วยเครื่องปัจจัยไทยทาน พร้อมด้วยทีมการพยาบาลและพ่อ แม่บุญรอด เราจึงเริ่มพิธีสวดมนต์ไหว้พระและอาราธนาศีล รับศีลและฟังธรรมะบรรยายแบบสั้นเรื่อง อนิจจัง ไม่เที่ยง ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งของของเรา เมื่อเสร็จพิธีกรรมแล้ว เป็นขั้นตอนกระบวนการถอดถอนเครื่องพยุงชีพ ตามที่ได้ประชุมและตกลงร่วมกันกับครอบครัว และทีมกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและ ทีมการดูแลแบบประคับประคอง เมื่อโรคที่บุญรอดเป็นนั้น เกินเยียวยารักษา และเป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีความผิดปกติรุนแรง นั่นคือโรค ไตรโซมี่ 18 เป็นความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 18 และพบอัตราการเกิด ในทารก 7000 คน เกิด 1 คน (1: 7000) ข้อมูลจาก อาจารย์นายแพทย์กุณฑล วิชาจารย์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางพันธุกรรม ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนูน้อยที่เป็นโรคนี้ 100 เปอร์เซนต์ มีชีวิต อยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี และในกรณีที่คลอดก่อนกำหนดอัตราการตายยิ่งสูงและเสียชีวิตเร็วขึ้น ในกรณีบุญรอดความผิดปกติรุนแรงที่ทำให้เสียชีวิตคือหัวใจล้มเหลวและระบบหายใจก็ล้มเหลวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เมื่อทราบดังนี้งานสำคัญของเราก็คือการวางแผนร่วมกับทีมกุมารแพทย์เพื่อประชุมครอบครัวในการวางแผนบอกความจริง พร้อมทั้งเสนอทางเลือกให้กับครอบครัว

                           เมื่อเสร็จพิธีทางศาสนา ทีมเปิดโอกาสให้พ่อกับแม่บุญรอดเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับลูกเท่าที่ ครอบครัวต้องการ ถ้าหากพ่อแม่พร้อม เราจะเริ่ม ขั้นตอนต่อไปคือการถอดถอนเครื่องพยุงชีพ เวลาผ่านไปสิบนาที พ่อกับแม่หันมาส่งสัญญาณความพร้อม ระหว่างนี้ในแนวปฏิบัติเราได้เริ่มกระบวนการให้ยาเพื่อให้บุญรอด หลับและไม่เจ็บปวดใดใด การตัดสินใจเกี่ยวกับบุญรอดในครั้งนี้ พ่อแม่ เป็นผู้ตัดสินใจแทนโดยชอบตามกฎหมาย และได้แสดงเจตนาถอดถอนเครื่องพยุงชีพเพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ทรมานให้กับหนูน้อยบนพื้นฐานการได้รับข้อมูลที่ตรงจริง ขนาดของยาเป็นไปเพื่อให้เด็กหลับไม่ได้ทำเพื่อเร่งกระบวนการการเสียชีวิตให้เร็วขึ้น เมื่อเห็นว่าบุญรอดหลับได้แล้วทีมการพยาบาลช่วยกันดูดเสมหะเพื่อทำทางเดินหายใจให้โล่ง หลังค่อยๆ ลด เครื่องช่วยหายใจจังหวะนั้น ดูว่าบุญรอดไม่กระสับกระส่าย จึงมาถึงขั้นตอนถอดท่อช่วยหายใจในที่สุด ทุกขณะ เราจะประเมินความสุขสบายไม่ให้คลาดสายตา ขณะนั้นพ่อกับแม่นั่งห่างออกไปและปฏิเสธที่จะมาดูบุญรอด แต่ฉันไม่ละความพยายาม ที่จะเชิญชวนให้พ่อแม่เข้ามาดูแลบุญรอด คุณพ่อคะบุญรอดกำลังจะไปแล้ว เค้าคงดีใจถ้าเค้าได้จากไปในอ้อมกอดของพ่อแม่เค้า”ทันทีที่พูดจบ พ่อลุกจากที่นั่งก่อน และเข้าไปขออุ้มบุญรอด พวกเรารีบจัดหาที่นั่งเพื่อให้แม่เข้ามานั่งใกล้ๆ เรายังจับอัตราการเต้นของหัวใจของบุญรอด ดูเหมือนหัวใจจะเต้นช้าลง 40 ถึง 50 ครั้งต่อนาที แต่ทันทีที่พ่ออุ้ม หัวใจบุญรอดกลับมาเต้นแรงอีกครั้งถึง 120 ครั้งต่อนาที ฉันรีบฉวยโอกาสนี้ รีบบอกว่าเพราะบุญรอดตื่นเต้นดีใจ ที่พ่ออุ้มหัวใจเลยเต้นแรงเร็วขึ้น ทันใดนั้นแม่ขยับเข้ามาเสริมทัพ จากนั่งหันหลังไม่มอง ต่างชี้ชวนให้กันชมจมูก ปาก ช่างเหมือนใคร ฉันแอบเห็นพ่อยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่บรรจงหอมแก้มบุญรอด จากพ่ออุ้มก็สลับให้แม่บ้างเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงสัญญาณชีพทุกอย่างดับลงพร้อมกับ ร่างอันไร้วิญญาณของบุญรอดหลับพักอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ พร้อมกับดวงตะวันที่ลาลับขอบฟ้า 

</span></span>

คำสำคัญ (Tags): #ืneonatal palliative care#Pal2Know
หมายเลขบันทึก: 567843เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2014 23:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2014 23:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดีๆครับ

สุดยอด น้องกุ้ง

ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ต่อมั้ยครับ หลังจากได้อุ้มลูก 

อย่างให้ช่วยนำมาถ่ายทอดครับ

ขอนำไปรวบรวมไว้ ที่นี่

งา...อาจารย์เต็ม กุ้งลืมถาม งั้นเดี๋ยวขอทำการบ้านก่อนนะคะ

.....โทรหา....พ่อบุญรอดก่อนนะคะ เดี๋ยวมาตอบ 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท