...เคยได้ยินใครต่อใครพูดว่า ความรักทำให้คนตาบอด
แต่เราก็ได้เรียนรู้ว่า แท้จริงแล้ว เรายอมตาบอดเพื่อความรัก
และไม่ใช่แค่ตาเท่านั้นที่บอด ใจเราต่างหากที่บอดไปก่อนตาแล้ว
ได้รัก จึงรู้สึกได้เป็นเจ้าของ...
อยากครอบครอง เก็บไว้คนเดียว
เห็นแก่ตัว ไม่ให้เขาจากไปไหน
ในขณะที่ตัวเราเอง ยังอยากมีเพื่อน ยังอยากไปไหน ยังโหยหาอิสระเสรี
...บางกรณีบอกว่ารักทำให้เรา อ่อนแอ ทำให้เรา เข้มแข็ง
แต่ลองมองกลับกัน อาจเป็นเราเองที่ยอมอ่อนแอ ยอมเข้มแข็ง เพื่อความรัก
...อีกเรื่องหนึ่งก็คือ รักมีอิทธิพลกับความเปลี่ยนแปลงของใจมาก
เรื่องความรัก ถ้าได้เปลี่ยนง่าย ก็สุดแสนง่าย เพียงลมปากบอกว่าไม่
ใจที่รักก็พังลงไปก็ไม่เหลือแม้ฝุ่นผงของความรักที่เคยมี
ถ้าได้เปลี่ยนยาก ก็มั่นคงจนไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้
...ยามหอมหวาน รักก็มักละมุนละไมหาสิ่งใดเทียบทาน
ว่ากันว่าสิ่งที่หวานที่สุดในโลกก็ไม่อาจเท่าเทียม
...ยามขื่นขม รักก็มักทารุณจนแทบจะขาดใจ
ยาขนานใดในหล้าก็ไม่อาจทำให้ต้องหลับตาจนน้ำตาไหลได้เหมือนรักร้าว
...ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ที่ใดมีรักที่นั่นมีสุข
ที่ใดไร้ทุกข์ที่นั่นก็ไร้รัก ที่ใดไร้รักที่นั่นก็ไร้สุข
ที่ใดมีทั้งทุกข์และสุขที่นั่นมีรัก
...ที่ใดมีรักดีที่นั่นไร้ทุกข์มีสุขสันต์
ที่ใดมีรักร้ายที่นั่นมีแต่ทุกข์ไร้สุขเติมเต็ม
...รัก...เป็นความรู้สึกที่เข้าใจยากที่สุด
แต่...รัก...ก็ยังเป็นสิ่งที่มนุษย์โหยหาและอยากเข้าใจมากที่สุดเช่นกัน...
...เมื่อมีรักต้องมีเมตตา...เขาอยากไปที่ชอบ... ที่ชอบ...ก็ปล่อยเขา...จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้ ...แต่ต้องบอกก่อนว่า...ตัดสินใจก้าวพ้นประตูบ้านไปแล้ว...ไม่ต้องกลับมาอีกนะคะ...
รักที่แท้จริงคือรักของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เป็นรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ และมีแต่ความปราถนาดีครับ
อย่ากลัวที่จะรักใครแต่ควรพิจารณาเลือกให้ดีๆ และเผื่อใจเอาไว้บ้าง