กฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย
ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญๆ 7 ฉบับ จากทั้งหมด 9 ฉบับ ได้แก่
1. อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women-CEDAW) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2528
2. อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child-CRC) เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2535 ประกอบด้วยบทบัญญัติ 54 ข้อ ได้แก่เรื่องเกี่ยวข้องกับสิทธิของเด็กโดยตรง
3. กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights-ICCPR) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2539
4. กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights-ICESCR) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542
5. อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Racial Discrimination-CERD) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2546
6. อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment-CAT) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550
7. อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ (Convention on the Rights of Persons with Disabilities) มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2551
สำหรับอนุสัญญาหลักอีก 2 ฉบับที่ไทยยังไม่ได้เข้าเป็นภาคีคือ อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ แลอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของแรงงานโยกย้ายถิ่นฐานและสมาชิกในครอบครัว
โดยข้าพเจ้าขอนำเสนอเกี่ยวกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ หรือ Convention on the Rights of Persons with Disabilities
สาระสำคัญของ “อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ” (Convention on the Rights of Persons with Disabilities ,CRPD) เน้นไปที่การขจัดอุปสรรคจากภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความยากลำบากในการดำเนินชีวิตของผู้พิการ ตลอดจนการแก้ไขความเสียเปรียบทางสังคมของคนพิการ ซึ่งก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และขัดขวางการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นอย่างยิ่ง
“อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ”(Convention on the Rights of Persons with Disabilities ,CRPD) ถือเป็นอนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ให้หลักประกันในสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ต่อคนพิการ อย่างเสมอภาคทัดเทียมกับบุคคลทั่วไป
สาระสำคัญของ “อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ” (Convention on the Rights of Persons with Disabilities ,CRPD) เน้นไปที่การขจัดอุปสรรคจากภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความยากลำบากในการดำเนินชีวิตของผู้พิการ ตลอดจนการแก้ไขความเสียเปรียบทางสังคมของคนพิการ ซึ่งก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และขัดขวางการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วยหลักการ 2 ประการ ได้แก่
1. การพัฒนาสังคม (Social Development) เป็นการกำหนดมาตรการที่มุ่งพัฒนาบริการในด้านต่างๆ เพื่อช่วยให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆอย่างเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป
2. การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคนพิการ ซึ่งรวมถึงการขจัดการเลือกปฏิบัติและการสร้างหลักประกันความเสมอภาคในทุกมิติ (Non-Discrimination and Equality)
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาที่มีผลกระทบต่อผู้พิการที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น ปัญหาด้านการจ้างงานนั้นพบว่า มีการออกประกาศรับสมัครคนพิการเข้าทำงานของบริษัทเอกชนบางแห่ง แต่กำหนดคุณสมบัติไว้สูงมาก แม้คนทั่วไปก็ยังยากที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศ ขณะที่อัตราเงินเดือนกลับกำหนดให้เท่ากับคนที่จบชั้น ปวช. เหมือนกับเป็นแค่การแกล้งประกาศรับสมัครงาน แต่ไม่ตั้งใจรับคนพิการเข้าทำงานจริง หรือรับเข้าทำงานเพื่อจะได้แจ้งกับทางการว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว จากนั้นก็ให้คนพิการออกจากงานโดยอ้างว่าไม่มีความสามารถในการทำงาน เพื่อที่จะได้รับการยกเว้นตามกฎกระทรวงเดิม (พ.ศ. 2537) ที่กำหนดให้บริษัทเอกชนที่มีลูกจ้างเกิน 200 คนขึ้นไปต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วนลูกจ้าง 200 คน ต่อคนพิการ 1 คน มิฉะนั้นจะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแทน
หรือปัญหาด้านการใช้สินค้าหรือบริการมักมีปัญหาว่า บริษัทประกันชีวิตไม่รับประกันชีวิตคนพิการบางกลุ่ม คือคนตาบอด เพราะเห็นว่ามีความเสี่ยงสูง รวมทั้งบริษัทการบินบางแห่งมีข้อห้ามไม่ให้คนพิการที่นั่งรถเข็นขึ้นเครื่องบินโดยไม่มีผู้ดูแลไปด้วย เพราะมองว่าคนพิการคือผู้ป่วยซึ่งอาจเกิดภาวะเจ็บป่วยในระหว่างอยู่ในเครื่องบินได้
จากประเด็นปัญหาดังกล่าวนั้น ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ในหลักความเป็นจริงตามหลักสิทธิมนุษยชนนั้นมนุษย์ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการได้รับการปฏิบัติจากสังคม และไม่ควรมีผู้ใดมาจำกัดสิทธิที่จะกระทำการใดกระทำการหนึ่งเพราะต้องคำนึงถึงหลักความเท่าเทียมกันของมนุษย์เป็นสำคัญ
ไม่มีความเห็น