เมื่อเจอปัญหาต้องยิ้มสู้ และชูสองนิ้ว


วันนี้ดีใจอยู่เรื่อง 

มีคนไข้เดินมาหา แล้วบอกว่า
" หมอฉันมารักษาตามที่หมอแนะนำแล้ว"
โหขนลุกอ่ะ จำได้ว่า เมื่อ 2 ปี ก่อนสังเกตป้าคนนี้ ว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ เดินเหมือนทรงตัวไม่ได้ เซไปมาร่างกายแข็งทื่อ คล้ายเป็นโรคระบบประสาทสักอย่าง ได้เคยพา Consult แพทย์ อธิคมไว้ แพทย์ refer รพ.มหาราช แต่ผู้ป่วยไม่ไป ให้เหตุผลว่า ต้องดูแลพี่ชายที่เป็นอัมพาต มีกันสองคนพี่น้อง ไม่มีญาติที่ไหน หากตัวเองไปรพ.แล้วหมอให้นอน ไม่รู้ใครจะดูแลพี่ เพราะต้องล้วงอุจจาระทุกวัน ต้องให้อาหารทางสายยาง อาบน้ำ จะจ้างใครเขาคงไม่รับอีกทั้งไม่มีเงิน รายได้มาจากเงินเบี้ยผู้พิการของพี่ชายเดือนละ 500 บาทของพี่ชาย จึงตัดสินใจทนไปก่อนเพราะคิดว่ายังทนไหว ทั้งที่ไม่สามารถไปทำงานที่ไหนได้ แม้กระทั่งจะรับจ้างล้างจานก็ทำไม่ได้เนื่องจากร่างกายที่เก้ๆกังๆ เจอป้าหลายครั้งที่ รพ. ถามทุกครั้ง ถึงขนาดยื่นข้อเสนอให้ตังค์ค่ารถเพื่อให้ได้รักษา แต่ป้าก็ให้เหตุผลเดิม แต่ก็ยังใจชื้นอยู่อย่างคือยังเห็นอาการป้าแกงคงเดิม ไม่ได้แย่ลงไปกว่านี้
วันนี้ป้ามาตรวจเรื่องปวดเข่า ก็เลยถือโอกาสมาคุยกับชลัญว่าจะไปรักษาต่อแล้ว เพราะพี่ชายเสียชีวิตแล้ว ที่อยากรักษาเพราะ อยากที่จะสามารถประกอบอาชีพได้บ้าง อาจรับจ้างเล็กน้อย เพราะหากเป็นแบบนี้ คงไม่มีปัญญาจะทำมาหากิน ตอนนี้มีอยู่ชีวิตเดียวแล้ว รายได้ก็ไม่มีที่ไหน พี่ชายก็เสียชีวิต เบี้ยผู้พิการก็ไม่ได้แล้ว มีเงินเก็บที่ตัวอยู่ สามหมื่นกว่าบาท เผื่อจะพอลงทุนอะไรได้ หากสุขภาพดีขึ้น
ชลัญก็เข้าใจป้าแกนะเงินแค่สามหมื่น กับชีวิตอีกยาวไกล นี่ มันไม่ได้ไปด้วยกันเลย จะใช้ได้สักกี่วันหากไม่มีรายได้อะไรเลย
ชื่นชมป้าอยู่อย่างที่ยังคิดอยากทำมาหากิน ไม่งอมือเท้าไม่ขอ น่าเห็นใจ
.....บ๊ะไม่เป็นเศรษฐีมั่งวุ๊ย จะช่วยสมทบทุนป้าทำมาหากินหน่อย .....
แต่ก็ได้ปลอบใจให้รักษาตัวเองให้หายก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที ป้ายิ้มดีใจที่มีคนเข้าใจและให้กำลังใจในยามที่ไม่มีใคร แม้พี่น้อง
ที่นำเรื่องนี้มาเขียนนี่ไม่ได้อยากโฆษณา ว่าตัวเองเป็นคนดีมากมาย แต่อยาก ให้ เห็นถึงชีวิตที่ ลำบากของคนไข้เรานั่งทำงานในห้องแอร์เย็นเฉียบ เหนื่อยแล้วกลับบ้านนอนมีบ้านอาศัยที่ดี มีครอบครัว มีเงินซื้อของบำรุงบำเรอความสุข แต่ในขณะที่คนไข้ที่เขามาหาเรานั่งรอตรวจทั้งวัน นั้นกลับไปเขาไม่ได้หายจากโรคที่ยังเจ็บป่วยแต่เขายังต้อง ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของเขาอีก
ฉะนั้นอย่าบ่น อย่าหน้างอ อย่าโมโหฉุนเฉียวเลยนะ หน้าที่ที่เรามีนี่ ยังพอช่วยให้สังคมมันน่าอยู่ แบ่งปันความสุขให้คนที่เขาทุกข์มาหาเรา เฉลี่ยความทุกข์ของเขามาบางส่วน แบ่งปันความสุขให้เขาเล็กน้อย คงไม่พอทำให้เราจะเป็นจะตายหรอกมั๊ง
ช่วยๆกันคนละไม้ละมือ แล้วเดี๋ยวงานมันก็จะเสร็จเองแหล่ะ
อย่าลืมซิ จงมองปัญหาที่เจอ เหมือนมองกล้องถ่ายรูป เห็นกล้อง(ปัญหา) เมื่อไหร่ ต้องยิ้มสู้ และชูสองนิ้ว
โอเคมั๊ย 


ชลัญธร

ปล.ยืมรูป .99 มาใช้ก่อนนะ เข้าบรรยากาศเป๊ะ

คำสำคัญ (Tags): #ชลัญธร
หมายเลขบันทึก: 566546เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2014 22:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน 2014 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

จงมองปัญหาที่เจอ เหมือนมองกล้องถ่ายรูป เห็นกล้อง(ปัญหา) เมื่อไหร่ ต้องยิ้มสู้ และชูสองนิ้ว 

โอเคเลยครับบบบบบ ..........................

มาให้กำลังใจป้า

ป้าคนแรกไม่มีเงินรักษาแต่ขยันมาก

ขอให้ป้าหายป่วยไวๆ

ป้าคนที่สองเป้นพยาบาล

555

ชอบท่าชูสองนิ้วจัง :)
เมื่อปีก่อน มี จนท.รพสต.ที่พะเยา
พบผู้ป่วยเดินเซ และส่งคลิปวีดีโอมาที่อาจารย์แพทย์ Neuro ที่ รพ.มหาราชและได้รับการวินิจฉัยเบี้องต้นว่าน่าจะเป็น Spinocerebellar ataxia แล้วต่อมาจึงให้ทาง รพสต.ส่งตรวจเลือดทางพันธุกรรมยืนยันเป็นโรคนั้นจริงค่ะ

ไม่แน่ใจว่ารายนี้หากส่งปรึกษาเป็นคลิปวีดีโอจากได้หรือไม่ค่ะ

ผมเป็นคนไม่ชินกับการชูนิ้วสองนิ้วถ่ายรูป
แต่หัวใจก็ไม่จำนนต่ออุปสรรค ครับ 555

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท