"ซาร์"...หมาที่ซื่อสัตย์


"ซาร์"...น้องหมา ที่ซื่อสัตย์

 

ความสัมพันธ์ของคนและสัตว์เลี้ยง  ความผูกพันที่มีต่อกัน ความอ่อนโยนที่ได้สัมผัสของชีวิต ถึงแม้จะต่างชนิดกัน แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมสังสารวัฏ .. "ซาร์" เป็นสมาชิกในบ้าน ที่ถือกำเนิดในบ้านจากพ่อแม่พันธุ์ร็อทไวเลอร์ เมื่อปี ๒๕๔๔  เป็นช่วงที่โรค SAR กำลังระบาด อีกทั้งเกิดในวันวิสาขบูชา จึงเป็นที่มาของชื่อ..ซาร์  ช่วงวัยเด็กก็ฉีดวัคซีนครบทุกชนิดที่หมาวัยเด็กต้องได้รับภูมิคุ้มกัน   ซาร์ ..แข็งแรง น่ารัก เฝ้าบ้าน เฝ้าสวน เสียงเห่าเป็นที่น่าเกรงขาม และเขี้ยวก็ยาว กรามมีพลัง แต่ไม่เคยทำร้ายสมาชิกในบ้าน  ส่วนบุคคลภายนอกใครๆต่างรู้และมักจะไม่เข้ามาถึงตัวบ้าน  หรือจะได้ยินประโยคว่า.. เก็บหมาไว้ในคอกด้วย..  หากจะมีใครมาธุระที่บ้าน

 ปีนี้ซาร์..อายุครบ ๑๓ ปี (เทียบเท่ากับอายุคนประมาณ ๙๐ ปี)   ...วันนี้ (อาทิตย์ที่ ๒๐ เมย.'๕๗) เป็นวันที่เราสมาชิกในบ้านต่างอาลัยในการจากไป  ซาร์..สมาชิกในบ้าน ... จึงเป็นที่มาของบันทึกนี้ 

 

๑๓ ปีแห่ง ความจงรักภักดีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ... ไม่ว่าเจ้าของ โดยเฉพาะแม่ ซึ่งซาร์..จะรักและหวงมาก  เพราะเป็นผู้ที่มีเมตตา ดูแลตั้งแต่เป็นหมาวัยอ่อน จนกระทั่งโตขึ้นเป็นหมาเฝ้าสวน  อาหารทุกมื้อได้รับการจัดเตรียมโดยแม่ ที่มีหม้อพิเศษสำหรับอาหารประจำวันของหมา อีกทั้งขนมของขบเคี้ยว  กลางคืนซาร์..ถูกปล่อยออกจากคอก เฝ้าระวังบ้าน  ซาร์..เลือกนอนเฝ้าหน้าประตู  แม่จึงปูที่นอน จุดยากันยุงไล่ยุงให้ก่อนนอนเสมอ  จึงไม่แปลกใจที่.. ซาร์จะเดินตามไปหมอบอยู่ใกล้ๆแม่ ทุกๆครั้งที่เห็นแม่ เดินไปไหนๆ   หากได้ยินเสียงพูดกับใครก็จะมาชะเง้อดู  ปีนขอบหน้าต่างโผล่หน้ามาดูว่าคุยกับใคร?? เพราะปกติลูกๆทำงานไกลบ้าน ซาร์จึงคุ้นชินกับการอยู่ในบ้านที่เงียบๆ  ถ้าแม่ต้องเดินทางไปธุระสักสองสามวัน ก็จะเห็นว่า ซาร์เดินมาสำรวจ มองหา เฝ้าคอย ...ความผูกพัน สุดจะพรรณา..

 

ของโปรดที่ดูจะแปลกกว่าหมาตัวอื่นที่เคยเลี้ยงมา...ซาร์ ชอบกินผลไม้ เช่นกล้วยน้ำว้า กล้วยหอมฯลฯ ปอกให้ก็จะกินอย่างเพลิดเพลิน  หรือไม่ก็จะเป็นชมพู่ ที่หล่นใต้ต้นก็จะไปคาบเก็บมากิน และที่โปรดที่สุด เห็นจะเป็นทุเรียน   ในฐานะหมาเฝ้าสวนทุเรียน  ก็จะได้รับรางวัลเป็นทุเรียนอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งที่ไ้ด้กลิ่น จากการแกะทุเรียน  น้ำลายก็หยดแหมะๆ ให้เห็น  ...จะทนดูไม่ได้ชิมได้ยังไง  สายตาออกจะละห้อย-ขอกินด้วย :-))

 

เมื่อถึงวัยตั้งท้อง มีลูก...ซาร์ ..คลอดได้เองที่บ้าน  แต่ที่แปลกคือ ในขณะดูแลลูกที่เพิ่งคลอด  ซาร์..ใช้ลิ้นเลีย ทำความสะอาดลูกและทำบ่อย จนนิ้วเท้าของลูกหายไปเลยหนึ่งนิ้ว   ลูกหมาที่เกิดจากแม่ซาร์คือ  "เจ้าโทน" จึงมีนิ้วพิการเพราะแม่ขยันทำความสะอาด  ลูกของซาร์มีตัวเดียวจึงชื่อโทน มีนิสัยเช่นเดียวกับแม่.ซาร์ ที่ชอบกินผลไม้ โดยเฉพาะชมพู่ หากินเองใต้ต้นเช่นกัน และโปรดทุเรียนสุก ทุเรียนกวน

 

ซาร์  ชอบน้ำ..ตามธรรมชาติของหมาพันธุ์ร๊อทไวเลอร์  ที่มีขนยาวและแน่น ซาร์ ..ก็เช่นกัน  เมื่อไหรที่รู้สึกว่าร้อน ก็จะวิ่งลงไปในห้วย หรือ สระที่มีน้ำและลอยคอ  น้ำระดับท่วมหลัง  เมื่อเลิกแล้วและขึ้นมาก็สะบัดตัว น้ำกระจายออกจากขน .. ซาร์ เป็นหมาชอบอาบน้ำ และชอบเล่นน้ำ

 

ความมีวินัย เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกได้ไม่ยาก ที่บ้านสวน เมื่อมีหมาหลายตัว จำเป็นต้องมีเทคนิคในการเรียนรู้ อยู่ด้วยกันอย่างสันติ  จึงต้องการรับรู้กฏกติกาของ pack leader  ฉะนั้นคำสั่งง่ายๆเช่น  การนั่งคอยนิ่งๆ ก่อนจะเปิดประตูให้ออกจากคอก  หรือให้หมอบสวยๆ ก่อนทานข้าว  และจะไม่กินจนกว่าจะบอกให้กิน  ป้อนอะไรก็ให้คาบเบาๆ  หมาก็ฉลาดที่จะทำตามได้ โดยถูกฝึกตั้งแต่เป็นหมาวัยเด็ก

 

หมาร๊อทไวเลอร์ดุ ไม่ชอบเด็ก..อย่างที่เป็นข่าว...จริงหรือ??   ข้อสังเกตจากการเลี้ยงร๊อทไวเลอร์มาหลายตัว  พบว่าไม่ชอบเสียงดัง โดยเฉพาะเสียงกรี๊ดของทารก หรือเด็ก  และไม่ชอบเล่นหรือทนต่อการเล่นกับเด็กเล็กๆที่มักจะแหย่    สังเกตว่าเป็นหมาที่ต้องการความเอาใจใส่   น้อยใจง่ายและ ขี้อิฉฉา  ผู้เลี้ยงจึงต้องดูแลใกล้ชิด ปฏิบัติเป็นเวลา  เช่น การให้อาหารแต่ละมื้อ ควรตรงเวลา  หรือการปล่อยออกไปวิ่ง ให้ม่ีอิสระและสังคมกับน้องหมาด้วยกัน ในกรณีที่มีมากกว่าหนึ่งตัว และการเอาใจใส่พูดคุย ลูบหัว ปลอบใจ ให้รางวัลเมื่อทำอะไรถูกต้อง  หากไม่ถูกก็ต้องถูกทำโทษ ซึ่งแม้เพียงดุ เสียงเจ้าของเปลี่ยนไป ซาร์ ก็จะรับรู้ บางครั้งก็งอน..เป็นการสื่อสารของคนกับเพื่อน..หมา  ที่เพิ่มทักษะการเรียนรู้ในเวลาที่ผ่านๆจากเล็กจนโต แต่ในเวลาเพียงสั้นๆเมื่อการแสดงออกได้รับการเอาใจใส่ก็กลับมาเหมือนเดิม..ฉะนั้นการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ (ถึงไม่เป็นสายพันธุ์แท้ ๑๐๐%) ต้องอาศัยการเข้าใจมาก ดูแลเอาใจใส่เช่นคน  ต่างกันเพียงพูดภาษาคนไม่ได้ แต่ภาษาใจทำให้สัมผัสรับรู้ได้อย่างเข้าใจ

 

   

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซาร์..ถึงแม้ว่าอายุมากแล้วก็ยังสนุกกับการมีแขกเหรื่อมาเยือนบ้าน โดยซาร์ ต้องถูกอัญเชิญเข้าคอกก่อน มิฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าลงจากรถ   เราทำบุญและสวดบังสุกุลที่บ้าน นิมนต์พระฉันอาหารเพลในวันที่ ๑๕ เมย...ซาร์ก็มีส่วนร่วมตามไปนอนอยู่ข้างๆ เมื่อเราจัดเตรียมสถานที่   สังเกตได้ว่าจะเหนื่อยมากกว่าปกติ  หอบเมื่อกลับมาถึงคอก

 

เมื่อวานนี้ (๑๙ เมย. '๕๗) หลังจากสงกรานต์ผ่านไป อากาศร้อนอบอ้าว   ซาร์..ลงไปเล่นน้ำ แต่เมื่อกลับขึ้นมา มีอาการเหนื่อย  นอนที่พื้นปูนเย็นๆ ไม่อยากจะขยับตัว ไม่ยอมแตะอาหารที่เคยเป็นของโปรด  จึงไปตามสัตว์แพทย์มาดูอาการ  เจาะเลือดไปตรวจ พบว่า ซาร์...มีอาการหัวใจโต เป็นโรคพยาธิ์หัวใจ (ซึ่งมียุงเป็นพาหะ)  และมีไตวายเฉียบพลัน  ทำให้มีของเสียในระบบร่างกาย ข้อสังเกตคือ ซาร์ถ่ายเหลว แต่ไม่มีปัสสาวะออกมาให้เห็นเลย  หมอให้น้ำเกลือและยาผ่านทางน้ำเกลือ  ซาร์คงปวดเพราะได้ยินเสียงคราง  สมาชิกในบ้านต่างเอาใจช่วย  เพราะซาร์ไม่มีแรงแม้แต่จะเดินไปนอนที่ประจำ ทั้งพ่อ และแม่ที่ อยู่ร่วมกันกับซาร์มาสิบสามปี ก็คอยลูบหัว  ให้รู้สึกว่า ไม่ทิ้งกัน ซาร์..เหลือบตามอง  เมื่อเรียกก็รับทราบด้วยเสียงครางในคอ และในที่สุดก็จากเราไป

 

ซาร์.. ทิ้งไว้ ซึ่งความดี ความน่ารัก ให้เราคิดถึง  มองกลับไปที่คอกก็จะรู้สึกว่า ไม่พบตาละห้อยที่บอกว่า อยากออกไปวิ่งเล่น   แต่ความจริงที่เราผู้อยู่หลังต้องเผชิญ และกฏแห่งธรรมชาติที่ทุกชีวิตไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มีเกิดก็ต้องมีตายคู่กัน  ..ขอความสงบจงมีแด่ซาร์  เพื่อนผู้ซื่อสัตย์... Dogs are man's best friend..

หมายเลขบันทึก: 566397เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2014 01:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน 2014 13:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

My commiserations!

Losing a good friend is never easy. Especially a very faithful friend for so many years. But the years are also against us. In one way 'time' binds us closer, in another way 'time' cuts down time -- together.

(I learned more about friends when I lost mine. After 15 years of tender and caring interactions -- every time we met -- no ifs, no buts, just 'so glad to be with you'. I am thankful for her livelong devotion.)

Thanks SR. Exactly it's never been easy. The bonds between us and a loyalty dog are still there. Also appreciate for sharing a lovely story of yours faithful friend.

The love what your saying " .. the years are also against us. In one way 'time' binds us closer, in another way 'time' cuts down time -- together". That's life I suppose .:-))

ขอบคุณ ทุกท่านที่แวะมาทักทาย ด้วยดอกไม้ค่ะ

นงนาท สนธิสุวรรณ

จิตศิริน

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท