nobita
นาย ชัยพร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

อ่านหนังสือเถอะ(หลาน) ที่รัก


ช่วงปิดเทอม พ่อและแม่ผมจะไปรับหลานชายมาพักที่บ้าน มาให้ตาและยายสุขใจ (แต่ก็บ่นหลานที่รักทุกวัน) กว่าจะกลับไปเรียนอีกทีก็คงจะใกล้เปิดเทอมโน่น ซึ่งเป็นหน้าทีผมที่จะต้องเดินทางไปส่ง

ตอนหลานชายตัวดีมาวันแรก ๆ ผมตั้งใจว่าจะหาหนังสือเตรียมไว้ให้สำหรับอ่านและเตรียมตัวเรียนในระดับชั้น ม.3 แต่พอได้คุยกับพ่อเจ้าประคุณแล้ว ถามเรื่องผลการเรียนรายวิชา และกรดเฉลี่ยแล้ว ทำให้รู้สึกอ่อนระโหยโรยแรงปีทีเดียว 

ก็คุณท่านเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 1 กว่า ๆ เอง และแต่ละวิชาก็ได้เกรด 1 บ้าง 2 ส่วนใหญ่ 3 แทบหาไม่พบ โดยไม่ต้องหวังเกรด 4 กันเลยเชียวล่ะ  เฮ่อ... แล้วน้าคนนี้จะช่วยอย่างไรดี

วันก่อนผมให้ tablet เขาไปเล่น ซึ่งต้องมีการใช้ e-mail ลงทะเบียนเป็นรหัสผู้ใช้ ผมแทนเป็นลมเมื่อรู้ว่า หลานชายผม แค่ e-mail ของตัวเอง ยังสะกดไม่ถูกเลย ผมก็ถามว่า ตอนสมัครทำอย่างไร เขาก็ตอบว่า มีพี่คนหนึ่งสมัครให้ (อ้าว เป็นงั้นไป) ผมก็เลยถามว่า แล้วตอนนี้ใช้ได้งัย  หลานชายผมก็ tablet แล้วก็จิ้มตัวอักษรเพื่อพิมพ์ e-mail address โดยเขาจำว่า mail ของเขามีตัวอะไรบ้าง ซึ่งผมคิดว่า เขาจำสัญลักษณ์ มากว่าจะรู้จักว่า ตัวอักษรที่จิ้มนั้น เรียกว่าอะไร ... แย่ละคราวนี้ เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2  เป็นไปได้ถึงขนาดนี้เชียวรึ

ผมพยายามเดินเข้าร้านหนังสือจุฬา เพื่อหาหนังสือที่จะมาให้หลานผมได้อ่าน ได้ฝึก ทีแรกคิดไว้ 2 วิชา คือ คณิตศาสตร์  และภาษาอังกฤษ  แต่เดินดูไปดูมา หลายรอบ เข้าไปหลายหน ก็ไม่ได้สักที ด้วยเหตุผลว่า หนังสือในร้านที่ผมเปิดดู มีแต่แบบติวเข้ม หรือไม่ก็เป็นแบบสรุปสำหรับเตรียมสอบทั้งนั้น ซึ่งผมคิดว่า (คิดแทนหลาน) เป็นหนังสือที่อ่านค่อนข้างยาก และไม่เหมาะกับเด็กที่มีพื้นฐานที่อ่อนมาก ๆ อย่างหลานผมแน่ ๆ สุดท้ายก็ไม่ได้สักเล่ม  

หลายครั้งผมอยากได้หนังสือของเด็กอนุบาล หรือประถมให้หลานผมอ่านและทำแบบฝึกหัด แต่ก็เกรงใจเขาเหมือนกัน 

เดินร้านหนังสือก็เปิดดู เปิดอ่าน แล้วประมวลความคิด หาความน่าจะเป็นในการอ่านหนังสือของหลานผม ซึ่งแต่ละครั้งผมก็รู้สึกหนักใจอยู่มาก แต่ก็ต้องพยายามคิดไปเรื่อย ๆ ว่าจะทำอย่างไรดี

สุดท้ายแล้วก็เลยคิดว่า ทิ้งความตั้งใจแรกไว้ก่อน... เริ่มต้นใหม่ มีเวลาอีกครึ่งเดือน  โจทย์แรก  เอาหนังสืออ่านนอกเวลาซึ่งเป็นหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน ภาษาไทย อ่านไม่อยาก ให้เขาอ่านก่อน  โดยกำหนดเงื่อนไขว่า ต้องอ่านให้ ตา (พ่อผมฟัง) วันละอย่างน้อย 1 ตอน และอ่านให้ผมฟัง อย่างน้อย 1 ตอน ก่อน 

โจทย์ต่อมา  ผมต้องทำการสำรวจก่อนว่า ภาษาอังกฤษ ของเขามีอยู่มากน้อยแค่ไหน โดยจะทำตัวอักษา A - Z ให้เขาลองอ่านดู หลาย ๆ แบบ แล้วจะหาศัพท์พื้นฐานทดสอบเขาไปเรื่อย ๆ ก่อน แล้วค่อยดูว่าเขาเหมาะกับหนังสือระดับในดีกว่า

ส่วนคณิตศาสตร์ เป็นโจทย์ยากสำหรับน้าเหมือนกันเอาไว้ค่อยคิดอีกที

สรุปแล้ววันนี้ผมได้หนังสือ ที่ให้หลานผมอ่าน 3 เล่น  (ผมก็คงอ่าน 3 เล่มนี้เหมือนกัน)

ส่วนความก้าวหน้าจะเป็นอย่างไรก็ต้องลองดูกันต่อไป

 

เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ตัดสินใจซื้อให้หลานผมอ่าน 

แล้วก้เล่มนี้ ผมอยากอ่าน และคิดว่าหลานอยากอ่านเช่นกัน 5555

แล้วก็เล่นนี้ ซื้อให้เขาเพราะเผื่อเขาต้องใช้ทำรายงานตอนกลับไปเรียน

ความมุ่งหมาย ณ เวลานี้ คือ ให้หลานผมได้ฝึกการอ่านออกเสียง อ่านให้พ่อผม (ตาเขา) ฟัง อ่านให้ผมฟัง ถ้าผิดถูกอย่างไรจะได้สอนและแนะเขาต่อไป  แต่ลึก ๆ อยากฝึกให้เขาเป็นคนรักการอ่านมากกว่า แต่จะได้แค่ไหนก็ยังไม่รู้

กลับไปก็ต้องไปตกลงกันว่า ตั้งแต่มาจนถึงวันนี้ น้าได้พาไปเที่ยวโน่น นี่ นั่นแล้วนะ พาไปดูหนัง กินอาหารอร่อยแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ต่อไป ก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสือ บ้างนะ (หวังว่าหลานผมคงไม่ดื้อนะ 55)

หมายเลขบันทึก: 566163เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2014 15:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2014 15:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

.... ยิ่งอ่าน ... ยิ่งรักการอ่านนะคะ

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆครับ

ขอบคุณมากๆครับ

ขอบคุณ Dr.Ple ครับ ที่แนะนำหนังสือดี ๆ ให้ครับ

ขอบคุณ อ.ขจิต ครับ

น่าอ่านจัง.....ได้รับเมล็ดพะยอมหรือยังจ๊ะ

คุณน้าน่ารัก ซื้อหนังสือให้หลานชายอ่านให้ตาฟัง อ่านให้น้าฟัง

ตอนลูกเล็กๆ พี่ก็เคยใช้วิธีนี้ค่ะ เป็นชั่วโมงอ่านของครอบครัว คือทุกคนนั่งอ่าน และ ตอนปิดเทอม พี่ให้ลูกสองคนเขียนอะไรก็ได้ ๑ หน้า วางไว้บนโต๊ะทำงานแม่ ก่อนออกไปวิ่งเล่น พี่ก็ได้อ่านเรียงความของลูกวันละ ๒ แผ่นทุกวัน

จะรออ่านเรื่องของหลานชายนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท